รัฐบาลปลื้มพลังศรัทธาพุทธศาสนิกชนสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กว่า 1 ล้านคน
“เสริมศักดิ์”ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมมือ พร้อมให้ทุกหน่วยงานวธ.สนับสนุนอัญเชิญไปเชียงใหม่ อุบลราชธานีและกระบี่
กำชับกรมส่งเสริมวัฒนธรรมเร่งรวบรวมข้อมูลชุดไทยพระราชนิยมเสนอยูเนสโก มอบกรมศิลปากรส่งเสริมด้านซ่อมแซมคัมภีร์โบราณ
ผลักดันไทยเป็นแหล่งเชี่ยวชาญของโลก
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการและองค์การมหาชนในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ครั้งที่ 2/2567 ที่วธ.โดยได้แจ้งที่ประชุมเกี่ยวกับนโยบายและข้อสั่งการของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับวธ. ซึ่งในเรื่องของงานพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะจากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ - 19 มีนาคม 2567 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศได้สักการบูชา โดยส่วนกลางอัญเชิญประดิษฐานบนมณฑป ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กรุงเทพ ระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ - 3 มีนาคม 2567 ซึ่งกรมการศาสนารายงานต่อที่ประชุมถึงจำนวนผู้เข้าสักการบูชาทั้งหมดกว่า 1 ล้านคน และมีเสียงชื่นชมเป็นจำนวนมากจากหลายฝ่ายมายังนายกรัฐมนตรีและตน หลังจากนั้นวธ.ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ไปประดิษฐานในส่วนภูมิภาค ณ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 5 - 8 มีนาคม 2567 มียอดผู้เข้าสักการบูชาทั้งหมดกว่า 250,000 คน ล่าสุดอัญเชิญไปประดิษฐาน ณ วัดมหาวนาราม จังหวัดอุบลราชธานี ระหว่างวันที่ 10 - 13 มีนาคม 2567 และจะอัญเชิญไปวัดมหาธาตุวชิรมงคล จังหวัดกระบี่ ระหว่างวันที่ 15 - 18 มีนาคม 2567
ชุดไทยพระราชนิยมเสนอยูเนสโก
กรมศิลปากรส่งเสริมด้านซ่อมแซมคัมภีร์โบราณ
รัฐบาลปลื้มพลังศรัทธาพุทธศาสนิกชนสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุฯ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง กว่า 1 ล้านคน