ต้องบอกก่อนว่าเป็นมาซักระยะหนึ่งแล้วครับ แต่อยู่ในระดับที่รับได้ มาเป็นหนักขึ้นหลังจากเกษียณ เป็นกับหลายๆเรื่องอย่างเช่นเวลาจะออกไปนอกบ้าน จะต้องเดินวนทั่วบ้าน เช็คว่าปิดไฟ ถอดปลั๊กไฟ ปิดก็อกนํ้า ล็อคประตู ปิดหน้าต่างหมดแล้วหรือยัง ซึ่งจริงๆก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แต่จำนวนรอบที่เช็คมันมากเกินไป บางทีถึง 5-6 รอบครับ หรือหนักสุดสตาร์ทรถแล้วบอกว่าไม่ชัวร์ขอเข้าไปเปิดบ้านดูอีกรอบ ต้องเผื่อเวลาอีกเกือบชม. เพื่อเรื่องนี้ก็ใช่เหตุ แล้วเวลาคุยหรือมาปรึกษาเรื่องอะไร คำถามที่ผมตอบไปแล้วก็จะกลับมาถามยํ้าอยู่เรื่อยๆในระหว่างการสนทนา และบางทีบทสนทนาจบไปแล้ว วันต่อมาก็มาถามเรื่องเดิมอีก เคยพยายามช่วยหาวิธีแก้ปัญหาให้แล้ว อย่างก่อนออกจากบ้าน เช็คตรงไหนไปแล้วให้ถ่ายรูปไว้ ว่าเรียบร้อยแล้ว เปิดรูปดูจะได้สบายใจ ทำได้อยู่แปปเดียว แล้วก็กลับไปเป็นแบบเดิม บอกว่าเข้าไปดูเองอีกรอบสบายใจกว่า เรื่องที่เคยคุยอะไรไว้ถ้าจำได้ไม่หมดก็จดเอาไว้ ก็น้อยใจอีกว่าถามนิดถามหน่อยตอบให้แม่ไม่ได้เลยเหรอ จนตอนนี้ตัวผมเองก็จะเสียสุขภาพจิตไปด้วย หลายๆครั้งต้องจำใจหาเรื่องมาตัดบทสนทนา(บางครั้งไม่ยอมให้จบด้วยนะ) ไม่งั้นคุยไม่จบครับ เคยลองถามแล้วว่าถ้าวิตกกังวลเยอะๆลองไปปรึกษาจิตแพทย์ดูไหม เผื่อเขามีคำแนะนำดีๆให้ โดนสวนกลับมาเฉยว่าไม่ได้เป็นบ้า ทั้งที่พยายามอธิบายแล้วว่าปัญหาเรื่องสุขภาพจิตมันไม่ใช่ว่าต้องเป็นบ้า คนทั่วไปที่มีเรื่องเครียดเรื่องกังวล มีปัญหาด้านจิตใจก็ปรึกษาได้ คำตอบที่ได้กลับมาคือเขาบอกว่าคนแก่ก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้น เป็นลูกช่วยให้แม่สบายใจเรื่องแค่นี้ไม่ได้เหรอ ผมนี่หมดทางไปต่อแล้วครับ คือถ้าผมอยู่ว่างๆก็อาจจะพอนั่งฟังคุยตอบผ่านๆไปได้ แต่ผมก็มีหน้าที่การงานธุระส่วนตัวที่ต้องทำด้วยไง อยากรู้ว่าคนที่เจอปัญหาแบบนี้รับมือกันยังไงบ้างครับ
ทำอย่างไรเมื่อแม่มักจะวิตกกังวล ชอบพูดและทำอะไรซํ้าๆยํ้าๆหลายๆรอบ