สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ถ้าเป็นเรา คงไม่ซื้อให้ทั้งคู่ค่ะ ตัดปัญหา มันไม่จบแค่ซื้อรถให้หรอก ค่าน้ำมัน ค่าดูแลรถ ค่าประกันรถ ลูกจะเอาจากไหน คุณก็ต้องจ่ายให้อีกเรื่อยๆอยู่ดี ครอบครัวเราเป็นเหมือนคุณ เราเป็นพี่คนโต เราขยันเรียน เรียนจบได้งานทำดีๆรายได้เยอะ น้องชายเราไม่ขยันเรียน ปัจจุบันตกงานเกาะพ่อแม่กิน เรามีรถเป็นของตัวเอง ส่วนพ่อเรายกรถของเค้าให้น้อง ลึกๆเราไม่พอใจนะ เราว่ามันไม่แฟร์เพราะเราขยันกว่าน้องเราควรได้อะไรมากกว่าน้อง แต่พ่อไม่เคยให้อะไรเราเลย จริงๆรถพ่อก็ไม่ได้มีราคาอะไรมากมายหรอก แต่มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ไม่ใช่เรื่องมูลค่าเงิน เรารู้สึกว่าเราถูกละเลย ทุกวันนี้รู้สึกไม่ดีกับพ่อแม่ไปแล้ว
แสดงความคิดเห็น
ถ้ามีลูก 2 คน แต่เราให้เงินกับลูกอีกคนมากกว่า เพราะเขาน่าเป็นห่วงมากกว่า มันควรหรือไม่
คนนึงเกิดมาฉลาด เรียนเก่ง ทำงานก็เก่ง ได้เงินเดือนสูงในระดับนึง
อีกคนไม่เก่ง จบมาก็ทำงานเป็นพนักงานบริษัทธรรมดา แค่พอมีใช้ไปวันๆ
เวลาผ่านไป เงินเก็บของทั้ง 2 คน ต่างกันเป็นสิบๆเท่า
สมมุติว่าลูกทั้ง 2 คนไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ ทีนี้ถ้าเรามีเงินหรือที่ดิน ที่อยากจะให้เป็นมรดกกับลูก หรืออยากจะซื้ออะไรซักอย่างให้ เราควรให้แบบไหน
ใจเราอยากให้กับลูกที่เราเป็นห่วงมาก เพราะลูกอีกคนเอาตัวรอดได้แล้ว แต่ถ้าเราให้ไม่เท่ากัน มันก็จะกลายเป็นว่าไม่ยุติธรรม ลูกที่เก่งเขาไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย กลายเป็นว่าเพราะเขาเก่งกว่าฉลาดกว่า ก็เลยต้องได้มรดกน้อยกว่างั้นเหรอ แบบนี้มันก็ไม่แฟร์สิ
ทั้งนี้ให้ตัดปัจจัยอื่นออกไปนะ สมมุติลูกเพศเดียวกัน อายุพอๆกัน นิสัยพอๆกัน ประหยัดพอๆกัน กตัญญูพอๆกัน ขยันพอๆกัน ทุกอย่างเท่ากัน ต่างกันแค่คนนึงหัวดีกว่าฉลาดกว่าเก่งกว่าอีกคน
เลยอยากถามครับว่าถ้าเป็นคุณจะให้แบบไหน สมมุติเป็นการให้รถก็ได้ ถ้าเรามีลูกสาว 2 คน ทำงานกลับบ้านค่ำทั้งคู่ คนนึงรายได้ดีมีรถพร้อมแล้ว อีกคนยังต้องนั่งรถเมล์เหนื่อย กลับบ้านค่ำก็อันตราย เราเป็นห่วงเลยอยากจะซื้อรถให้ แต่ปัญหาคือ ถ้าจะให้ยุติธรรมก็ต้องซื้อ 2 คัน ให้คนละคัน แต่เงินเราก็ไม่พอซื้อ 2 คัน จะให้คนเดียว มันก็ไม่ถูกต้อง อีกคนไม่ได้ทำผิดอะไรซักหน่อย ทำไมเขาถึงไม่ได้ เขาก็จะน้อยใจ จะไม่ให้ใครเลยก็ต้องทนเป็นห่วงลูกทุกคืน เป็นคุณคิดว่าทำแบบไหนถึงจะดี