เราตัดสินใจเลือกเรียน ม.รามคำแหง เพราะค่าหน่วยกิตถูกกว่ามหาวิทยาลัยทั่วไป และเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพ
คณะที่เลือกเรียน คือ คณะบริหารธุรกิจ
เจอคำถามมากมาย "จะเรียนจบหรอ " เข้าง่าย จบยากน่ะ " บางคนเรียน 8 ปี บลาๆ อีกมากมาย
คำถามหรือคำพูด พวกนี้ไม่ได้สำคัญอะไรกับเราเลย เพราะ เราอยากเรียนหนังสือให้จบ มีงานทำ และช่วยแบ่งบำภาระทางบ้าน สามารถทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยได้
เราไม่เคยมา กทม. เลย บ้านอยู่ต่างจังหวัดน่ะ พี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องพามาหาสมัครเรียน หาหอพัก แถวหน้าราม เราอยู่หอหญิงราคาเดือนละ 1,700 บาท เป็นห้องน้ำรวมห้องพักเล็กๆ มีแค่เตียง 2.5 ฟุต ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ แค่นั้น
เริ่มเรียนปีที่ 1 เราเข้าเรียน และฟังคำบรรยาย ตามคาบเรียนรายวิชาปกติ มีเรียนที่ราม 2 บ้าง สิ่งที่ต้องทำในการเรียนรามสำหรับเรานั้น คือการฟังคำบรรยาย ของอาจารย์ อ่านหนังสือ (เราอ่านหนังสือหนักพอสมควรอ่านหลายรอบ อยากให้สอบครั้งเดียวผ่าน ขี้เกียจสอบซ้ำน่ะ) และฝึกหัดทำข้อสอบเก่า เทอม 2 การเรียนเราเริ่มเข้าที่แล้ว และการปรับตัวในการใช้ชีวิตใน กทม. เริ่มดีขึ้น เราก็เริ่มหางานทำละ บางรายวิชาเราก็อ่านหนังสือเองและไปสอบ ต้องตั้งใจ มีวินัย แบ่งเวลาให้เป็น เราทำงานเป็นพนักงานแจกใบปลิว ได้เงินวันละ 400 บาท
** สมัยที่เรียนยังเป็นเกรด P กับ G ดูเกรดที่บอร์ด มีลูกกรงด้วย ฟินสุดๆ
ปีที่ 2-4 เข้าเรียน ตามวิชาในสาขา บางวิชาที่เราไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ก็มีไปเรียนติวบ้าง เช่น บัญชี ไรงี้ ก็สอบผ่านมาได้ เราเรียนด้วยทำงานไปด้วยจนเรียนจบ แล้วสมัครงานก็ได้ทำงานเลย บริษัทมหาชนแห่งนึง สิ่งสำคัญที่เรียนจบได้ คือความตั้งใจล้วนๆ เราไม่ได้รู้สึกมีความกดดันอะไรเลย ใช้ชีวิตสนุกสนานกับเพื่อนๆ กับรุ่นพี่ ต่างคนต่างที่ที่มาทั้งเพื่อนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน ซึ่งเราก็คิดว่าลูกพ่อขุนหลายๆ คนในนี้ก็เป็นเหมือนกัน "เรียนราม พลิกชีวิตได้จริงๆ " เรียบจบ มีงานทำงาน สร้างบ้าน มีเงินดูแลครอบครัว ฝันที่เป็นจริง
มันทำให้เราเห็นว่า คนที่มีต้นทุนน้อย ก็สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ อยู่ที่ตัวเราเลือก
สำหรับน้องๆ ที่กำลังลังเล ไม่รู้จะลือกเรียนที่ไหน พี่ขอแนะนำ ม.รามคำแหง เป็นอีก 1 ทางเลือก ให้กับน้องๆ มีหลายคณะ หลายสาขาให้เลือกเรียน
สู้ๆ นะคะทุกคน
ขอแชร์ ประสบการณ์เรียน ม.รามคำแหง ให้น้องๆ ค่ะ
คณะที่เลือกเรียน คือ คณะบริหารธุรกิจ
เจอคำถามมากมาย "จะเรียนจบหรอ " เข้าง่าย จบยากน่ะ " บางคนเรียน 8 ปี บลาๆ อีกมากมาย
คำถามหรือคำพูด พวกนี้ไม่ได้สำคัญอะไรกับเราเลย เพราะ เราอยากเรียนหนังสือให้จบ มีงานทำ และช่วยแบ่งบำภาระทางบ้าน สามารถทำงานไปด้วย เรียนไปด้วยได้
เราไม่เคยมา กทม. เลย บ้านอยู่ต่างจังหวัดน่ะ พี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องพามาหาสมัครเรียน หาหอพัก แถวหน้าราม เราอยู่หอหญิงราคาเดือนละ 1,700 บาท เป็นห้องน้ำรวมห้องพักเล็กๆ มีแค่เตียง 2.5 ฟุต ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ แค่นั้น
เริ่มเรียนปีที่ 1 เราเข้าเรียน และฟังคำบรรยาย ตามคาบเรียนรายวิชาปกติ มีเรียนที่ราม 2 บ้าง สิ่งที่ต้องทำในการเรียนรามสำหรับเรานั้น คือการฟังคำบรรยาย ของอาจารย์ อ่านหนังสือ (เราอ่านหนังสือหนักพอสมควรอ่านหลายรอบ อยากให้สอบครั้งเดียวผ่าน ขี้เกียจสอบซ้ำน่ะ) และฝึกหัดทำข้อสอบเก่า เทอม 2 การเรียนเราเริ่มเข้าที่แล้ว และการปรับตัวในการใช้ชีวิตใน กทม. เริ่มดีขึ้น เราก็เริ่มหางานทำละ บางรายวิชาเราก็อ่านหนังสือเองและไปสอบ ต้องตั้งใจ มีวินัย แบ่งเวลาให้เป็น เราทำงานเป็นพนักงานแจกใบปลิว ได้เงินวันละ 400 บาท
** สมัยที่เรียนยังเป็นเกรด P กับ G ดูเกรดที่บอร์ด มีลูกกรงด้วย ฟินสุดๆ
ปีที่ 2-4 เข้าเรียน ตามวิชาในสาขา บางวิชาที่เราไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ ก็มีไปเรียนติวบ้าง เช่น บัญชี ไรงี้ ก็สอบผ่านมาได้ เราเรียนด้วยทำงานไปด้วยจนเรียนจบ แล้วสมัครงานก็ได้ทำงานเลย บริษัทมหาชนแห่งนึง สิ่งสำคัญที่เรียนจบได้ คือความตั้งใจล้วนๆ เราไม่ได้รู้สึกมีความกดดันอะไรเลย ใช้ชีวิตสนุกสนานกับเพื่อนๆ กับรุ่นพี่ ต่างคนต่างที่ที่มาทั้งเพื่อนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ได้แลกเปลี่ยนความรู้กัน ซึ่งเราก็คิดว่าลูกพ่อขุนหลายๆ คนในนี้ก็เป็นเหมือนกัน "เรียนราม พลิกชีวิตได้จริงๆ " เรียบจบ มีงานทำงาน สร้างบ้าน มีเงินดูแลครอบครัว ฝันที่เป็นจริง
มันทำให้เราเห็นว่า คนที่มีต้นทุนน้อย ก็สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้ อยู่ที่ตัวเราเลือก
สำหรับน้องๆ ที่กำลังลังเล ไม่รู้จะลือกเรียนที่ไหน พี่ขอแนะนำ ม.รามคำแหง เป็นอีก 1 ทางเลือก ให้กับน้องๆ มีหลายคณะ หลายสาขาให้เลือกเรียน
สู้ๆ นะคะทุกคน