นายพรานพล:
ชั่วร้าย โหดเหี้ยม ไร้ความปราณี
รูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำ ดวงตาสีดำขลับ แววตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
มีเวทมนต์คาถาอาคมแก่กล้า ควบคุมภูตผีปีศาจได้ กำลังทำสมาธิเข้าสู่มิติจักรวาลมืด
อดีตเคยเป็นพรานป่าธรรมดา แต่เกิดหลงใหลในอำนาจ มุ่งมั่นฝึกฝนเวทมนต์คาถาจนกลายเป็นผู้วิเศษที่ทรงพลัง แต่ด้วยความชั่วร้ายในใจ ทำให้เขาใช้เวทมนต์ในทางที่ผิด
ปอบดำ หรือชีเปลือยดำ:
ชายผู้ลึกลับ น่ากลัว
ชายชรา สวมชุดดำสนิท ใบหน้าถูกปกคลุมด้วยเงาดำ
นั่งสมาธิอย่างสงบ เข้าสู่ฌานสมาบัติขั้นสูงสุดเท่าที่มนุษย์ธรรมดาจะทำได้
นั้นก็คือ ฌานสมาบัติระดับ7
ชายผู้ควบคุมผีปอบถี่หยด เป็นนักล่าคนชั่วเพื่อนำเลือดสังเวยเทพมาร
เป็นผู้ส่ง ผีปอบถี่หยด ตามล่านายพรานพล มีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝง
ผีปอบถี่หยด ดุร้าย กระหายเลือด
ร่างกายผอมแห้ง เหี่ยวแห้ง ผิวหนังซีดขาว ดวงตาสีแดงก่ำ มีเขี้ยวแหลมคม
ว่องไว แข็งแรง ชอบกินไส้ ตับ
อดีตเคยเป็นหญิงสาวที่ถูกสามีฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม มันจึงเข้าสิงคน
ที่จิตอ่อน บงการควบคุมให้กินตับกินไส้ด้วยความแค้นทำให้เสียสติ โดยเฉพาะไส้ของผู้ชายมันชอบเป็นพิเศษ
จนกระทั่งมันโดนหมอผีไล่ล่าหนีมาที่ป่า จนเจอชีเปลือยดำ
ถูกชีเปลือยดำ ปราบ และสั่งสอนจนได้สติกลับมา
จึงยอมเป็นลูกน้องชีเปลือยดำ
.............
ตัดภาพมาที่หมู่บ้านหนองผักบุ้ง
บทเพลงแห่งชีวิตเรียบง่ายดังขึ้น
ณ หมู่บ้านหนองผักบุ้ง บรรยากาศยามเช้าตรู่เต็มไปด้วยความสดชื่น แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องผ่านหมอกควันบางเบา ไก่ขันปลุกให้ชาวบ้านตื่นขึ้นมาเริ่มต้นวันใหม่ เด็กน้อยวิ่งเล่นอย่างร่าเริงในทุ่งหญ้าเขียวขจี เสียงหัวเราะของพวกเขาสร้างความอบอุ่นให้กับบรรยากาศ
ชายหญิงวัยกลางคนแต่งกายด้วยชุดผ้าไทยชนบท กำลังขะมักเขม้นกับงานในไร่ นาข้าวสีเขียวขจีลู่ลมไปตามแรงปะทะของสายลม ใบหน้าของพวกเขาเปื้อนยิ้มด้วยความสุข พวกเขาภูมิใจที่ได้ปลูกพืชผักผลไม้ด้วยวิธีธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี
เสียงเพลงพื้นบ้านจากวิทยุเก่าดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน เสียงเพลงบรรเลงขับกล่อมให้ผู้คนทำงานอย่างมีชีวิตชีวา ชีวิตเรียบง่ายของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความสงบสุขและความพอเพียง
ท้องฟ้ายามเช้าสาดแสงสีทองลงบนทุ่งนาเขียวขจี
เสียงนกร้องเพลงไพเราะ
กลิ่นไอดินโชยมาแตะจมูก
ปอบถี่หยด ยืนอยู่บนหลังคามุงสังกะสี มองดูชาวบ้านด้วยสายตาว่างเปล่า
ชีเปลือยดำยืนอยู่ใต้ต้นมะม่วงใหญ่ ใบหน้าถูกปกคลุมด้วยเงาดำชีเปลือยดำติดตามนายพรานพลที่หลบหนีมาจนถึงหมู่บ้านหนองผักบุ้ง
ทว่า ความสงบสุขของหมู่บ้านหนองผักบุ้งกำลังถูกคุกคาม ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วน นามว่า "นายทุน" กำลังวางแผนฮุบที่ดินของหมู่บ้านเพื่อนำไปสร้างโครงการขนาดใหญ่
นายทุนจ้างนักเลงชายฉกรรจ์ 5 คน รูปร่างใหญ่โต เข้ามาข่มขู่ชาวบ้านให้ขายที่ดิน ชาวบ้านต่างหวาดกลัวต่ออำนาจของนายทุน ต่างไม่กล้าต่อต้าน
แต่แล้ว ชายหนุ่มชื่อ "น้ำ" ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการต่อต้าน เขาประกาศกร้าวว่าจะไม่ยอมขายที่ดินของบรรพบุรุษให้กับนายทุน ชาวบ้านต่างรวมพลังกันต่อต้านนายทุน
ชาวบ้านต่อต้าน ไม่ยอมขายที่ดิน นายทุนจึงสั่งนักเลงทำลายพืชผลของชาวบ้านโดยแอบน้ำสารเคมีมาพ่นใส่แปลงผัก
.........
ชาวบ้านคนหนึ่งชื่อน้ำเห็นเหตุการณ์ จึงขัดขวาง สร้างความแค้นให้นายทุน
ปอบถี่หยด ได้รับคำสั่งจากชีเปลือยดำ ให้ไปนำเลือดคนชั่วมาสังเวยเทพมาร
ปอบถี่หยด ลอบสังหารนักเลงที่กำลังวางแผนทำร้ายชาวบ้าน กินตับกินไส้และไม่ลืมนำเลือดมาให้ชีเปลือยดำ
นายทุนโกรธแค้น สั่งนักเลงฆ่าน้ำ
โดยทำเหมือนกับว่า โดนปอบกิน
ชาวบ้านต่างโศกเศร้าเสียใจกับการตายของน้ำ บรรยากาศในหมู่บ้านเต็มไปด้วยความตึงเครียด
ข่าวลือเกี่ยวกับปอบถี่หยด วิญญาณร้ายที่กินตับกินไส้คน สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน หลายคนเชื่อกันว่าปอบถี่หยดเป็นคนฆ่าน้ำ
ชาวบ้านหวาดกลัวปอบถี่หยด ต่างตื่นตระหนก ตัดสินใจไปจ้างหมอผีชื่อ "หมอปลา" มาจัดการปอบถี่หยด
หมอปลาเป็นหมอผีที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เขามีวิชาอาคมแก่กล้า
เขาพยายามจัดการปอบถี่หยด
เกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เสียงกรีดร้องแหลมสูงของปอบถี่หยด ดังก้องไปทั่วป่าช้า หมอปลาทุ่มเทแรงกายแรงใจ ใช้วิชาอาคมทุกวิถีทางเพื่อปราบปอบร้าย
แต่ชีเปลือยดำ
ปรากฏตัวขึ้นขัดขวาง
การต่อสู้ระหว่างมหาจอมอาคมทั้งสองดำเนินไปอย่างดุเดือด แสงสว่างวาบจากคาถาสาดส่องไปทั่ว ไฟป่าลุกโหมกระหน่ำ เสียงฟ้าร้องคำรามสะเทือนเลื่อนลั่น
หมอปลาพยายามอย่างสุดความสามารถ
แต่ก็สู้ปอบดำหรือชีเปลือยดำที่มีความแค้นในใจต่อคนชั่วไม่ได้
ชีเปลือยดำใช้คาถาโบราณ เปิดโลก ทำให้เห็นว่าแท้จริงแล้วนายทุนเป็นผู้ฆ่าน้ำ
หมอปลาใช้คาถาหายตัวหนีไป
ชีเปลือยดำ ไม่อยากฆ่าหมอปลาแต่แรกจึงไม่ได้ตามหมอปลาไป
หมอปลาบอก
ความจริงเกี่ยวกับการตายของน้ำ
นายทุนเป็นผู้ฆ่าน้ำ ชาวบ้านต่างโกรธแค้น นายทุน
คืนหนึ่งปอบถี่หยด ก็มากินตับกินไส้นายทุนจนตายอย่างน่าอนาถ
ชาวบ้านต่างลือกันว่า เป็นกรรมตามสนองนายทุน
ในที่สุด หมู่บ้านหนองผักบุ้งก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง
ชายหนุ่มชื่อน้ำ ความจริงยังไม่ตายเพียงแต่ชีเปลือยดำ
ได้หลอกเขาเข้าไปในแดนบังบด และชีเปลือยดำปลอมตัวเป็นน้ำและทำทีเป็นถูกฆ่าตาย
ชีเปลือยดำ ช่วยน้ำเพราะน้ำมีนิสัยคล้ายชีเปลือยดำในสมัยเป็นหนุ่ม
หลังนายทุนตาย ชีเปลือยดำจึงปล่อย น้ำออกมาจากแดนบังบด
น้ำจึงได้กลับมาเล่าให้ชาวบ้านฟังถึงเรื่องที่เขาหลงเข้าไปในแดนบังบด
ชีเปลือยดำเดินทางออกจากหมู่บ้านหนองผักบุ้ง ตามล่าพรานพล
ต่อไป
นายพรานพล แอบเก็บตัวหนีภัยอยู่ที่ป่าลึกลับทางจังหวัดอิสาน
พยายามใช้มนต์บังกาย ซ่อนตัวอย่างเงียบเงียบ
จบตอนที่13
ใครพลาดตอนที่1อยู่ตรงนี้ครับ
นิยายผีปอบ ชีเปลือย ปะทะพรานพล
นายพรานพล:
ชั่วร้าย โหดเหี้ยม ไร้ความปราณี
รูปร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำ ดวงตาสีดำขลับ แววตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
มีเวทมนต์คาถาอาคมแก่กล้า ควบคุมภูตผีปีศาจได้ กำลังทำสมาธิเข้าสู่มิติจักรวาลมืด
อดีตเคยเป็นพรานป่าธรรมดา แต่เกิดหลงใหลในอำนาจ มุ่งมั่นฝึกฝนเวทมนต์คาถาจนกลายเป็นผู้วิเศษที่ทรงพลัง แต่ด้วยความชั่วร้ายในใจ ทำให้เขาใช้เวทมนต์ในทางที่ผิด
ปอบดำ หรือชีเปลือยดำ:
ชายผู้ลึกลับ น่ากลัว
ชายชรา สวมชุดดำสนิท ใบหน้าถูกปกคลุมด้วยเงาดำ
นั่งสมาธิอย่างสงบ เข้าสู่ฌานสมาบัติขั้นสูงสุดเท่าที่มนุษย์ธรรมดาจะทำได้
นั้นก็คือ ฌานสมาบัติระดับ7
ชายผู้ควบคุมผีปอบถี่หยด เป็นนักล่าคนชั่วเพื่อนำเลือดสังเวยเทพมาร
เป็นผู้ส่ง ผีปอบถี่หยด ตามล่านายพรานพล มีจุดประสงค์บางอย่างแอบแฝง
ผีปอบถี่หยด ดุร้าย กระหายเลือด
ร่างกายผอมแห้ง เหี่ยวแห้ง ผิวหนังซีดขาว ดวงตาสีแดงก่ำ มีเขี้ยวแหลมคม
ว่องไว แข็งแรง ชอบกินไส้ ตับ
อดีตเคยเป็นหญิงสาวที่ถูกสามีฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม มันจึงเข้าสิงคน
ที่จิตอ่อน บงการควบคุมให้กินตับกินไส้ด้วยความแค้นทำให้เสียสติ โดยเฉพาะไส้ของผู้ชายมันชอบเป็นพิเศษ
จนกระทั่งมันโดนหมอผีไล่ล่าหนีมาที่ป่า จนเจอชีเปลือยดำ
ถูกชีเปลือยดำ ปราบ และสั่งสอนจนได้สติกลับมา
จึงยอมเป็นลูกน้องชีเปลือยดำ
.............
ตัดภาพมาที่หมู่บ้านหนองผักบุ้ง
บทเพลงแห่งชีวิตเรียบง่ายดังขึ้น
ณ หมู่บ้านหนองผักบุ้ง บรรยากาศยามเช้าตรู่เต็มไปด้วยความสดชื่น แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องผ่านหมอกควันบางเบา ไก่ขันปลุกให้ชาวบ้านตื่นขึ้นมาเริ่มต้นวันใหม่ เด็กน้อยวิ่งเล่นอย่างร่าเริงในทุ่งหญ้าเขียวขจี เสียงหัวเราะของพวกเขาสร้างความอบอุ่นให้กับบรรยากาศ
ชายหญิงวัยกลางคนแต่งกายด้วยชุดผ้าไทยชนบท กำลังขะมักเขม้นกับงานในไร่ นาข้าวสีเขียวขจีลู่ลมไปตามแรงปะทะของสายลม ใบหน้าของพวกเขาเปื้อนยิ้มด้วยความสุข พวกเขาภูมิใจที่ได้ปลูกพืชผักผลไม้ด้วยวิธีธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี
เสียงเพลงพื้นบ้านจากวิทยุเก่าดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน เสียงเพลงบรรเลงขับกล่อมให้ผู้คนทำงานอย่างมีชีวิตชีวา ชีวิตเรียบง่ายของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยความสงบสุขและความพอเพียง
ท้องฟ้ายามเช้าสาดแสงสีทองลงบนทุ่งนาเขียวขจี
เสียงนกร้องเพลงไพเราะ
กลิ่นไอดินโชยมาแตะจมูก
ปอบถี่หยด ยืนอยู่บนหลังคามุงสังกะสี มองดูชาวบ้านด้วยสายตาว่างเปล่า
ชีเปลือยดำยืนอยู่ใต้ต้นมะม่วงใหญ่ ใบหน้าถูกปกคลุมด้วยเงาดำชีเปลือยดำติดตามนายพรานพลที่หลบหนีมาจนถึงหมู่บ้านหนองผักบุ้ง
ทว่า ความสงบสุขของหมู่บ้านหนองผักบุ้งกำลังถูกคุกคาม ชายวัยกลางคนรูปร่างอ้วนท้วน นามว่า "นายทุน" กำลังวางแผนฮุบที่ดินของหมู่บ้านเพื่อนำไปสร้างโครงการขนาดใหญ่
นายทุนจ้างนักเลงชายฉกรรจ์ 5 คน รูปร่างใหญ่โต เข้ามาข่มขู่ชาวบ้านให้ขายที่ดิน ชาวบ้านต่างหวาดกลัวต่ออำนาจของนายทุน ต่างไม่กล้าต่อต้าน
แต่แล้ว ชายหนุ่มชื่อ "น้ำ" ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการต่อต้าน เขาประกาศกร้าวว่าจะไม่ยอมขายที่ดินของบรรพบุรุษให้กับนายทุน ชาวบ้านต่างรวมพลังกันต่อต้านนายทุน
ชาวบ้านต่อต้าน ไม่ยอมขายที่ดิน นายทุนจึงสั่งนักเลงทำลายพืชผลของชาวบ้านโดยแอบน้ำสารเคมีมาพ่นใส่แปลงผัก
.........
ชาวบ้านคนหนึ่งชื่อน้ำเห็นเหตุการณ์ จึงขัดขวาง สร้างความแค้นให้นายทุน
ปอบถี่หยด ได้รับคำสั่งจากชีเปลือยดำ ให้ไปนำเลือดคนชั่วมาสังเวยเทพมาร
ปอบถี่หยด ลอบสังหารนักเลงที่กำลังวางแผนทำร้ายชาวบ้าน กินตับกินไส้และไม่ลืมนำเลือดมาให้ชีเปลือยดำ
นายทุนโกรธแค้น สั่งนักเลงฆ่าน้ำ
โดยทำเหมือนกับว่า โดนปอบกิน
ชาวบ้านต่างโศกเศร้าเสียใจกับการตายของน้ำ บรรยากาศในหมู่บ้านเต็มไปด้วยความตึงเครียด
ข่าวลือเกี่ยวกับปอบถี่หยด วิญญาณร้ายที่กินตับกินไส้คน สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน หลายคนเชื่อกันว่าปอบถี่หยดเป็นคนฆ่าน้ำ
ชาวบ้านหวาดกลัวปอบถี่หยด ต่างตื่นตระหนก ตัดสินใจไปจ้างหมอผีชื่อ "หมอปลา" มาจัดการปอบถี่หยด
หมอปลาเป็นหมอผีที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เขามีวิชาอาคมแก่กล้า
เขาพยายามจัดการปอบถี่หยด
เกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เสียงกรีดร้องแหลมสูงของปอบถี่หยด ดังก้องไปทั่วป่าช้า หมอปลาทุ่มเทแรงกายแรงใจ ใช้วิชาอาคมทุกวิถีทางเพื่อปราบปอบร้าย
แต่ชีเปลือยดำ
ปรากฏตัวขึ้นขัดขวาง
การต่อสู้ระหว่างมหาจอมอาคมทั้งสองดำเนินไปอย่างดุเดือด แสงสว่างวาบจากคาถาสาดส่องไปทั่ว ไฟป่าลุกโหมกระหน่ำ เสียงฟ้าร้องคำรามสะเทือนเลื่อนลั่น
หมอปลาพยายามอย่างสุดความสามารถ
แต่ก็สู้ปอบดำหรือชีเปลือยดำที่มีความแค้นในใจต่อคนชั่วไม่ได้
ชีเปลือยดำใช้คาถาโบราณ เปิดโลก ทำให้เห็นว่าแท้จริงแล้วนายทุนเป็นผู้ฆ่าน้ำ
หมอปลาใช้คาถาหายตัวหนีไป
ชีเปลือยดำ ไม่อยากฆ่าหมอปลาแต่แรกจึงไม่ได้ตามหมอปลาไป
หมอปลาบอก
ความจริงเกี่ยวกับการตายของน้ำ
นายทุนเป็นผู้ฆ่าน้ำ ชาวบ้านต่างโกรธแค้น นายทุน
คืนหนึ่งปอบถี่หยด ก็มากินตับกินไส้นายทุนจนตายอย่างน่าอนาถ
ชาวบ้านต่างลือกันว่า เป็นกรรมตามสนองนายทุน
ในที่สุด หมู่บ้านหนองผักบุ้งก็กลับมาสงบสุขอีกครั้ง
ชายหนุ่มชื่อน้ำ ความจริงยังไม่ตายเพียงแต่ชีเปลือยดำ
ได้หลอกเขาเข้าไปในแดนบังบด และชีเปลือยดำปลอมตัวเป็นน้ำและทำทีเป็นถูกฆ่าตาย
ชีเปลือยดำ ช่วยน้ำเพราะน้ำมีนิสัยคล้ายชีเปลือยดำในสมัยเป็นหนุ่ม
หลังนายทุนตาย ชีเปลือยดำจึงปล่อย น้ำออกมาจากแดนบังบด
น้ำจึงได้กลับมาเล่าให้ชาวบ้านฟังถึงเรื่องที่เขาหลงเข้าไปในแดนบังบด
ชีเปลือยดำเดินทางออกจากหมู่บ้านหนองผักบุ้ง ตามล่าพรานพล
ต่อไป
นายพรานพล แอบเก็บตัวหนีภัยอยู่ที่ป่าลึกลับทางจังหวัดอิสาน
พยายามใช้มนต์บังกาย ซ่อนตัวอย่างเงียบเงียบ
จบตอนที่13
ใครพลาดตอนที่1อยู่ตรงนี้ครับ