เราตัดสินใจปลูกทุเรียน ในวันที่ถามแม่ค้าว่า ทุเรียนราคาเท่าไหร่ จึงหามาปลูกเองดีกว่า
เพราะราคาวิ่งสูงยิ่งกว่าทอง ปีแรกๆแฮปปี้ โตไว ใบเยอะ ต้นสูงชลูด พอปีที่ 7 เริ่มเศร้า เราปลูกไม้ผล แต่เค้าออกแต่ใบ 
ก็เลยศึกษาเรื่องการตัดแต่งกิ่ง

จากความเข้าใจ ฮอร์โมน ทำหน้าที่คล้ายๆตัวขับเคลื่อนน้ำเลี้ยงไปส่วนต่างๆ ทำให้พืชเติบโต ผลิดอกออกผลได้
พืชแต่ละต้น น่าจะมีฮอร์โมนไม่เท่ากัน เมื่อปลูกในสถานที่เดียวกัน ดินฟ้าอากาศ น้ำ เท่ากัน แต่พืชแต่ละต้นโตไม่เท่ากัน 
นั่นเป็นเพราะฮอร์โมน หากใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ แค่ป้ายสารเคมีนี้ พืชก็โต แต่เราอยากให้เค้าออกลูกอย่างธรรมชาติ

ปกติฮอร์โมนพืช จะวิ่งจากรากไปยอด ด้วยว่าพืชในสวนของเราจะแข่งขันกันหาแสง ด้วยอาการ หิวแสง เพื่อที่เค้าจะมั่นใจว่า เค้าได้ปรุงอาหารแน่นอน ด้วยเหตุนี้ ชาวสวน จึงมักจะปลูกไม้ผล ห่างกัน เพื่อให้รับแสงจากรอบด้าน แต่ที่ดินหลังบ้านเราน้อย ต้นไม้มีหลายต้น แต่ละต้นก็หิวแสงแข่งกันสูง
 
เมื่อเราตัดแต่งกิ่ง  อาทิ ตัดยอด ตัดกิ่งที่อ่อนแอ ตัดกิ่งที่แตกแขนงคล้ายๆ มีขนงอกออกตามลำแขนของต้นไม้ ที่ชาวสวนเรียกกันว่ากิ่งน้ำค้าง ทำให้เส้นทางลำเลียงอาหารและโฮโมนของพืชพุ่งเป้าไปยังจุดสำคัญ ไม่สะเปะสะปะ  ชาวสวนบางคนเรียกกิ่งหลักว่า กิ่งประธาน

สามวันหลังตัดแต่งกิ่ง เราเห็นดอกทุเรียนงอกตามกิ่งลำแขน ถ้าตัวคนคือลำต้น ดอกก็อยู่ตามแขน
และก็มีบางตุ่มคล้ายเต้านม อาจเป็นชื่อดอกที่เป็นหมัน  ส่วนมือ ก็คือ ช่อใบที่เว้นไว้ปรุงอาหาร 
ไม่แน่ใจว่า รอบโคน ควรจะว่าง หรือ ควรจะวางอะไรเพื่อเพิ่มความชื้นให้ผิวดิน
ใบชอบแสง แต่ราก อาจจะชอบความร่มเย็น 
สิ่งที่จะช่วยให้ร่ม ก็คือ ร่มใบ ซากหญ้า และเศษเปลือกมะพร้าว ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ว่าควรจะเลือก ให้โคนร้อน หรือ โคนเย็น 
แต่ดูๆไป ชาวสวนทุเรียนเมืองนนฯ โคนเย็น ปุ๋ยแน่น ดินดำ ส่วนทางภาคตะวันออก โคนร้อน รอบโคนเตียนโล่ง ดินแดง 
 
การให้น้ำ ปีที่แล้วรดด้วยน้ำประปา ปีนี้รดด้วยน้ำบ่อ ตักหิ้วถังออกกำลังกาย เราเชื่อว่า น้ำบ่อน่าจะมีสารอาหารที่ดี กว่าน้ำประปา   
น้ำน่าจะมีผลต่อความเจริญของราก และการขยายตัวของเซลล์

ต้นไม้ต้องการการตัดแต่งกิ่ง เช่นเดียวกับมนุษย์ที่ต้องตัดผม ตัดเล็บ หรือ แม้แต่เข้าผ่าตัดเมื่อเป็นโรค 
การดูแลต้นไม้ ไม่ต่างจากเราคุณหมอ + ช่างตัดผม + ไลฟ์โค้ช ที่กระตุ้นการเติบโต ปลุกให้ต้นไม้ตื่นรู้ต่อสู้กับสิ่งท้าทาย
บางตำรา บอกว่า ดอก คือ การปรับตัวของพืช  เพื่อความอยู่รอด ในภาวะผิดปกติ เช่น ร้อนจัด หนาวจัด หรือ ภาวะต้องส่งน้ำเลี้ยงมายังซ่อมแซมกิ่ง

เพราะต้นไม้ จึงได้ปรัชญาที่ว่า สิ่งดีมักเกิดจากสิ่งที่แย่ ปุ๋ย/ฮิวมัสก็คือขยะอินทรีย์ที่ไม่สวยเลย แต่ต้นไม้ที่บริโภคขยะเหล่านั้นกลับสวยงาม
และต้องสร้างภาวะวิกฤตเล็กๆ แต่ไม่ถึงขั้นหายนะ ถึงจะให้ดอกผล  มีเส้นบางๆ ระหว่างตื่นตัว กับ เคร่งเครียด