รีวิวคอนเสิร์ต Taylor Swift 2024

1.      ศิลปินคุยเก่งบนเวที ลดภาวะนักเต้นโรบอต ที่ออกมาเต้นตามท่าแต่ละเพลง แต่ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับคนดู 
เทย์เล่อร์ เหมือนเดินออกจากนวนิยาย ถ้อยคำแพรวพราว ทั้งเนื้อร้องและบทสนทนาที่เป็นกันเอง แถมยังมีอารมณ์ขันอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

2.      งานแสง สี มาเต็ม ดูเป็นศิลปะ  แม้แต่สีผม ที่เข้ากับสีเปียนโน สีไมโครโฟนที่เข้ากับเครื่องแต่กายแต่ละชุด ที่โดดเด่นคือพื้นเวทีสวยเมื่อมองจากมุมบน  แม้ว่าจะนั่งไกล แต่ก็ได้อรรถรส และเหมาะสมกับสนามกีฬา เพราะคนดูจะไม่ได้นั่งขนานหน้าเวที แต่นั่งข้างเวที  บนอัฒจรรย์ซึ่งที่นั่งนั้นสูงกว่าเวที การออกแบบเวทีจึงเหมาะกับสภาพพื้นที่สนามกีฬาอย่างยิ่ง

3.      มีการเชื่อมโยงศิลปะหลายแขนง  ทั้งนวนิยาย/ถ้อยคำ แสง สี เงา อีกทั้งจำลองความเป็นภาพยนตร์ในศิลปะการเต้น เช่น  บรรยากาศเมืองแม่มด 

4.      ความสวย นักร้องไม่สวยครบเหมือนนางงาม แต่หน้าตารูปร่างดี ทำให้การแสดงนั้นชวนมอง
รูปร่างมีน้ำมีนวล ไม่ผอมแห้งจนเกินไป ลองนึกไปถึง Queen of Pop แต่ละคน ทั้งมาดอนน่า บริทนี่ย์ เลดี้ กาก้า และบียอนเซ่ ถ้าเป็นบ้านเรา ก็คริสติน่า อากีร่า ซึ่งใช้ Body Capital (ต้นทุนรูปร่างหน้าตา) ได้อย่างเต็มศักยภาพ 

5.      การมีส่วนร่วมของคนดูเป็นหัวใจสำคัญ  สัมผัสได้ถึงความสุขของ Queen กับสาวกของเธอ รู้สึกถึงความสุขของศิลปินบนเวทีในการทำคอนเสิร์ตที่เปี่ยมไปด้วยความรักต่อแฟนเพลง ในคอนเสิร์ตของไมเคิล แจ็คสัน King of Pop  มีแฟนเพลงสาวที่เยอรมันกระโดดขึ้นบนเวทีแล้วกอดไมเคิ่ล แจ็คสั่นไว้แน่นนาน  ทำให้เพลง “ You Are Not Alone” คอมพลี้ท  สาวกเหล่านี้ เดาว่าน่าจะได้รับอนุญาตจากผู้ดูแลความปลอดภัยขอบเวที เช่นเดียวกับ หนูน้อยที่สิงคโปร์ ที่ได้สวมกอด และได้หมวกจากเทย์เล่อร์ สันนิษฐานว่า ผ่านการตรวจตราหาแฟนเพลงที่เหมาะสมที่จะได้รับโมเม้นพิเศษในสถานการณ์สด ซึ่งน่าจะผ่านการตรวจตราความปลอดภัยจากทีมงานข้างเวทีแล้ว และด้วยความน่ารักของศิลปิน ไม่ว่าไมเคิ่ล แจ็คสัน และเทย์เล่อร์ สวิฟต์ ที่แสดงออกต่อแฟนเพลงอย่างจริงใจและทุ่มเท  จนได้ซีนน่าประทับใจ คอนเสิร์ตสมบูรณ์ได้ ก็ด้วยพลังจากทั้งสองฝ่าย ทั้ง ศิลปิน และ คนดู/มหาชน ถ่ายเท พลังให้กันและกัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่