25 มิถุนายน 2562 09:23
วันนี้( 25 มิ.ย.62) ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วในวันนี้ แฟนเพลงทั่วโลกต้องหัวใจสลาย เมื่อทราบข่าวว่า ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน (Michael Joseph Jackson) นักร้องชาวอเมริกัน นักแต่งเพลง นักออกแบบท่าเต้น นักแสดง โปรดิวเซอร์เพลงและนักการกุศล ซึ่งรับการขนานนามว่าเป็น "ราชาเพลงป็อป" (The King of Pop) ได้เสียชีวิตลงอย่างกระทันหันขณะที่มีอายุได้เพียง 50 ปี
ไมเคิล แจ็กสัน ล้มลงที่บ้านพักในลอสแองเจลิส เมื่อเวลา 03.14 น. ตามเวลาในประเทศไทย เนื่องจากหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน แพทย์และพยาบาลที่โรงพยาบาล โรนัลด์ เรแกน ยูซีแอลเอ ได้พยายามยื้อชีวิตของ ไมเคิล แจ็กสัน แล้วกว่า 1 ชั่วโมง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ต่อมา ดร.คอนราด เมอร์เรย์ วัย 58 ปี แพทย์ประจำตัวของ ไมเคิล แจ็กสัน ถูกศาลตัดสินว่ามีส่วนทำให้ไมเคิล แจ็กสัน เสียชีวิต ซึ่งมีการบ่งชี้ว่า ดร.คอนราด บกพร่องและประมาทเลินเล่อต่อหลักจรรยาบรรณแพทย์ ในการรักษาอาการนอนไม่หลับของราชาเพลงป็อป ด้วยการใช้ยาโพรโบฟอล ซึ่งเป็นตัวยาที่คาดเดาผลได้ยากและมีผลต่อการกล่อมประสาทอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ ไมเคิล แจ็กสัน เกิดเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2501 มีชื่อเต็มว่า ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน (Michael Joseph Jackson) เขาได้สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกจากอัลบั้ม Got to Be There, Off the Wall และ Thriller
ไมเคิล แจ็กสัน ได้สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลกเมื่อเด็กหนุ่มผิวดำ ร่างเล็ก ผมหยิก เปลี่ยนโฉมเป็นหนุ่มรูปงามผิวขาวใบหน้าเรียวยาว ในขณะที่ดนตรีของเขาก็พัฒนาจากเพลงป็อปเดิมๆ ให้มีสีสันล้ำหน้าขึ้น ขณะที่มิวสิควิดีโอของเขาแต่ละเพลงเต็มไปด้วยเทคนิคและจินตนาการ นอกจากนี้ท่าเต้นเอกลักษณ์ประจำตัว อย่าง "มูนวอล์ค" ยังกลายเป็นท่าเต้นในตำนาน และเขาคือศิลปินที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักร้องนักเต้นทั่วโลก
ซึ่งหลังจากเงียบหายไปจากเวที หลังจากที่พ้นผิดจากคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายวัย 13 ปี พร้อมๆ กับข่าวอื้อฉาวตามหน้าหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ ก็มีรายงานว่า ไมเคิล แจ็กสัน ราชาเพลงป็อป เตรียมจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการแสดงคอนเสิร์ตถึง 50 รอบในลอนดอน แต่ไมเคิล แจ็กสัน ก็ต้องมาจบชีวิตลงก่อนอย่างน่าสลดใจ ท่ามกลางความโศกเศร้าของแฟนเพลงทั่วโลก
ภาพถ่ายแบบนิตยสาร
Vanity Fair โดย Annie Leibovitz ในปี 1989
พูดได้ว่าถึงแม้เขาจะจากไปแล้วหลายปี แต่ไมเคิลยังมีส่วนสำคัญต่อชีวิตคนดนตรีอย่างมากมาย และเราอาจต้องสรรหาคำที่ให้ความหมายมากกว่าคำว่า ‘ตำนาน’
ขอบคุณภาพและข่าว
TNNTHAILAND.COM
THESTANDARD.CO
ครบรอบ 10 ปีการจากไปของ 'ไมเคิล แจ็คสัน' ตำนานราชาเพลงป็อปที่โลกไม่มีวันลืม
วันนี้( 25 มิ.ย.62) ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วในวันนี้ แฟนเพลงทั่วโลกต้องหัวใจสลาย เมื่อทราบข่าวว่า ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน (Michael Joseph Jackson) นักร้องชาวอเมริกัน นักแต่งเพลง นักออกแบบท่าเต้น นักแสดง โปรดิวเซอร์เพลงและนักการกุศล ซึ่งรับการขนานนามว่าเป็น "ราชาเพลงป็อป" (The King of Pop) ได้เสียชีวิตลงอย่างกระทันหันขณะที่มีอายุได้เพียง 50 ปี
ไมเคิล แจ็กสัน ล้มลงที่บ้านพักในลอสแองเจลิส เมื่อเวลา 03.14 น. ตามเวลาในประเทศไทย เนื่องจากหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน แพทย์และพยาบาลที่โรงพยาบาล โรนัลด์ เรแกน ยูซีแอลเอ ได้พยายามยื้อชีวิตของ ไมเคิล แจ็กสัน แล้วกว่า 1 ชั่วโมง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
ต่อมา ดร.คอนราด เมอร์เรย์ วัย 58 ปี แพทย์ประจำตัวของ ไมเคิล แจ็กสัน ถูกศาลตัดสินว่ามีส่วนทำให้ไมเคิล แจ็กสัน เสียชีวิต ซึ่งมีการบ่งชี้ว่า ดร.คอนราด บกพร่องและประมาทเลินเล่อต่อหลักจรรยาบรรณแพทย์ ในการรักษาอาการนอนไม่หลับของราชาเพลงป็อป ด้วยการใช้ยาโพรโบฟอล ซึ่งเป็นตัวยาที่คาดเดาผลได้ยากและมีผลต่อการกล่อมประสาทอย่างรุนแรง
ทั้งนี้ ไมเคิล แจ็กสัน เกิดเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2501 มีชื่อเต็มว่า ไมเคิล โจเซฟ แจ็คสัน (Michael Joseph Jackson) เขาได้สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลกจากอัลบั้ม Got to Be There, Off the Wall และ Thriller
ไมเคิล แจ็กสัน ได้สร้างความตื่นตะลึงไปทั่วโลกเมื่อเด็กหนุ่มผิวดำ ร่างเล็ก ผมหยิก เปลี่ยนโฉมเป็นหนุ่มรูปงามผิวขาวใบหน้าเรียวยาว ในขณะที่ดนตรีของเขาก็พัฒนาจากเพลงป็อปเดิมๆ ให้มีสีสันล้ำหน้าขึ้น ขณะที่มิวสิควิดีโอของเขาแต่ละเพลงเต็มไปด้วยเทคนิคและจินตนาการ นอกจากนี้ท่าเต้นเอกลักษณ์ประจำตัว อย่าง "มูนวอล์ค" ยังกลายเป็นท่าเต้นในตำนาน และเขาคือศิลปินที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักร้องนักเต้นทั่วโลก
ซึ่งหลังจากเงียบหายไปจากเวที หลังจากที่พ้นผิดจากคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายวัย 13 ปี พร้อมๆ กับข่าวอื้อฉาวตามหน้าหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ ก็มีรายงานว่า ไมเคิล แจ็กสัน ราชาเพลงป็อป เตรียมจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการแสดงคอนเสิร์ตถึง 50 รอบในลอนดอน แต่ไมเคิล แจ็กสัน ก็ต้องมาจบชีวิตลงก่อนอย่างน่าสลดใจ ท่ามกลางความโศกเศร้าของแฟนเพลงทั่วโลก
ภาพถ่ายแบบนิตยสาร Vanity Fair โดย Annie Leibovitz ในปี 1989
พูดได้ว่าถึงแม้เขาจะจากไปแล้วหลายปี แต่ไมเคิลยังมีส่วนสำคัญต่อชีวิตคนดนตรีอย่างมากมาย และเราอาจต้องสรรหาคำที่ให้ความหมายมากกว่าคำว่า ‘ตำนาน’
ขอบคุณภาพและข่าว
TNNTHAILAND.COM
THESTANDARD.CO