ผู้ให้บริการบัตรเครดิตในไทย เตรียมเก็บค่ารูดบัตรเครดิต 1% เมื่อจ่ายเป็นเงินไทยที่ร้านค้าจดทะเบียนในต่างประเทศ เริ่ม 1 พฤษภาคม 2567
วันที่ 2 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ผู้ให้บริการบัตรเครติดหลายราย ประกาศการเก็บค่าธรรมเนียม การแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท เมื่อทำรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตวีซ่า และบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดของแต่ละธนาคาร หรือค่า DCC Fee
โดยระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป รายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตวีซ่า/มาสเตอร์การ์ดในการซื้อสินค้า และ/หรือบริการ ด้วยสกุลเงินบาท ที่ร้านค้าและร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ และการกดเงินสดด้วยสกุลเงินบาทผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศ จะถูกเรียกเก็บ “ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท” ในอัตราร้อยละ 1 ของยอดใช้จ่าย/ยอดกดเงินสด
ผู้ให้บริการบัตรเครดิต ระบุเพิ่มเติมว่า ค่าธรรมเนียมรายการใช้จ่ายในร้านค้าต่างประเทศด้วยสกุลเงินบาท จะถูกเรียกเก็บกับบัตรเครดิต บัตรเครดิตวีซ่า และ มาสเตอร์การ์ดทุกประเภทรวมถึงทั้งบัตรหลักและบัตรเสริม โดยค่าธรรมเนียม 1% คิดจากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรด้วยสกุลเงินบาท โดยคิดจากยอด ณ วันที่บันทึกรายการใช้จ่าย
สำหรับร้านค้าที่จะถูกเก็บค่าธรรมเนียม 1% นั้น จะเก็บในรายการรูดบัตรที่ต่างประเทศและเลือกสกุลเงินไทย รวมถึงร้าน Online ที่จดทะเบียนต่างประเทศ เช่น AIRASIA BERHAD, NETFLIX, APPLE, TikTok, AGODA, Booking, Klook, IHERB, ALIPAY, TAOBAO, PAYPAL, FACEBOOK, GOOGLE, AIRBNB, EXPEDIA, EBAY, SPOTIFY, ALIBABA, TRIP.COM, STEAMGAMES, VIU, AMAZON เป็นต้น โดยมีผลกับรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตตั้งวันที่ 1 พ.ค. 2567 เป็นต้นไป และจะถูกเรียกเก็บ ณ วันที่มีการบันทึก
อีกทั้งยังระบุเหตุผลการเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวด้วยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับหลักปฏิบัติของธุรกิจบัตรเครดิต การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ร้านค้าต่างประเทศ รวมถึงร้านออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศจะมี ค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน ต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท
รูดบัตรเครดิตที่ต่างประเทศ เป็นเงินบาท คิดค่าธรรมเนียม เริ่ม 1 พ.ค. 67
วันที่ 2 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ผู้ให้บริการบัตรเครติดหลายราย ประกาศการเก็บค่าธรรมเนียม การแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท เมื่อทำรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตวีซ่า และบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดของแต่ละธนาคาร หรือค่า DCC Fee
โดยระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป รายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตวีซ่า/มาสเตอร์การ์ดในการซื้อสินค้า และ/หรือบริการ ด้วยสกุลเงินบาท ที่ร้านค้าและร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศ และการกดเงินสดด้วยสกุลเงินบาทผ่านตู้ ATM ในต่างประเทศ จะถูกเรียกเก็บ “ค่าธรรมเนียมการแปลงสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท” ในอัตราร้อยละ 1 ของยอดใช้จ่าย/ยอดกดเงินสด
ผู้ให้บริการบัตรเครดิต ระบุเพิ่มเติมว่า ค่าธรรมเนียมรายการใช้จ่ายในร้านค้าต่างประเทศด้วยสกุลเงินบาท จะถูกเรียกเก็บกับบัตรเครดิต บัตรเครดิตวีซ่า และ มาสเตอร์การ์ดทุกประเภทรวมถึงทั้งบัตรหลักและบัตรเสริม โดยค่าธรรมเนียม 1% คิดจากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรด้วยสกุลเงินบาท โดยคิดจากยอด ณ วันที่บันทึกรายการใช้จ่าย
สำหรับร้านค้าที่จะถูกเก็บค่าธรรมเนียม 1% นั้น จะเก็บในรายการรูดบัตรที่ต่างประเทศและเลือกสกุลเงินไทย รวมถึงร้าน Online ที่จดทะเบียนต่างประเทศ เช่น AIRASIA BERHAD, NETFLIX, APPLE, TikTok, AGODA, Booking, Klook, IHERB, ALIPAY, TAOBAO, PAYPAL, FACEBOOK, GOOGLE, AIRBNB, EXPEDIA, EBAY, SPOTIFY, ALIBABA, TRIP.COM, STEAMGAMES, VIU, AMAZON เป็นต้น โดยมีผลกับรายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตตั้งวันที่ 1 พ.ค. 2567 เป็นต้นไป และจะถูกเรียกเก็บ ณ วันที่มีการบันทึก
อีกทั้งยังระบุเหตุผลการเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวด้วยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับหลักปฏิบัติของธุรกิจบัตรเครดิต การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ร้านค้าต่างประเทศ รวมถึงร้านออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศจะมี ค่าธรรมเนียมในการเปลี่ยนแปลงสกุลเงิน ต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท