ระหว่าง ทุนนิยม vs เทคโนโลยีเเละวิทยาศาสตร์นิยม (คิดเอง) อันไหนดีกว่ากัน

เท่าที่เห็นมาจากคอมเม้นต่างๆเกี่ยวกับเศรษฐกิจว่า

ต้องการเเรงงานถูกๆค่าจ้างถูกๆจนลูกจ้างไม่มีอันจะกิน เเละก็หาเช้ากินค่ำ อัตราคนเกิดน้อยเพราะไม่มีใครอยากจะเพิ่มเด็กที่จะต้องเกิดมาในสังคมทุนนิยมที่กดขี่ลุกจ้างจนไม่มีอันจะกิน เเละจนยันเกษียน นี่คือสังคมทุนนิยมที่ค่อยๆนำพาโลกไปในทางใด? ผู้คนเห็นเเก่เงินมากขึ้น เงินคือทุกสิ่ง หายใจ มีเพศสัมพันธ์ใช้สมองทุกอย่างก็เพื่อเงิน เเบบนี้มันจะเจริญขึ้นหรือว่า ตกต่ำลง อันนี้เเล้วเเต่คน

เเต่ถ้ามองในมุมกลับ

ถ้าหากว่าโลกเปลี่ยนจากทุนนิยมเป็นวิทยาศาสตร์เเละเทคโนโลยีนิยมที่เราได้เอาคำนี้ขึ้นมาใช้เองเเม้จะไม่รู้ว่ามีคำนี้อยู่ไหมก็เถอะ ต่อ
ถ้าผู้คนสนใจเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ การเกษตรภาคเทคโนโลยี เทคโนโลยีชีวภาพ การเเพทย์ มากกว่าเงิน ไม่สนใจสงครามหรือเงินสนใจเเต่วิทยาศาสตร์ด้านต่างๆขวนขวายหาความรู้ เป็นผู้ใช้สมองมากกว่าเเรงงาน ส่วนเงินก็ถูกโยนทิ้งเพราะผู้คนใช้ความรู้หากินเเลกเปลี่ยนกันด้วยทักษะเเละความรู้ เเละเปลี่ยนเเนวคิดเอาตัวเองให้รอดมาเป็นทำเพื่อโลกด้วยเทคโนโลยี ai ชีวภาพ มากขึ้น  ใครที่ทำประโยชน์ให้โลกได้ดีหรือเก่งมากที่สุด ก็สามารถวิจัยสิ่งต่างๆเเละเอาสิ่งที่ตัวเองวิจัยมาเเลกเปลี่ยนอาหาร ยา ที่อยู่อาศัยได้ หรือเเม้เเต่เก่งปานกลาง เก่งน้อย ตราบใดที่เป็นบุคคลที่ใช้สมองเพื่อโลกเพื่อค้นหาสิ่งต่างๆเหมือนนักวิทย์ยุคก่อน ก็จะสามารถมีที่อยู่อาศัยดีๆได้โดยไม่ต้องจ่ายภาษี สิ่งที่ต้องจ่ายคือการทำเพื่อโลกไปจนตาย ผู้คนไม่จำเป็นต้องใช้เงินเเค่พัฒนาโลกไปข้างหน้ามากกว่าทำเพื่อตัวเอง เเละผู้คนก็อยากเพิ่มประชากรเพื่อหาผู้คนที่ทำเพื่อโลกกันมากขึ้น ส่วนใครที่ไม่อยากใช้สมองในโลกนี้ก็เป็นผู้ช่วยนักวิจัยหรือไปเป็น อาสาสมัครร่วมทดลอง อาสามัครไปเก็บขยะหรืออะไรต่างๆเเทนการใช้สมองก็ยังได้ที่อยู่อาศัยได้อาหาร เเละสิ่งอำนวยต่างๆไปตลอดชีวิตเเต่จะต้องทำเพื่อโลกไปตลอดชีวิต โลกจะดีกว่าสังคมทุนนิยมไหมคะ?
อย่าดราม่ากันน้าเราเเค่อยากรู้ว่าทางโลกเราเปลี่ยนไปในทิศทางนี้จะพอเป็นไปได้ไหมเเล้วโลกมันจะดีกว่าเดิมไหมคะ?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่