ข้าวเปลือก 🌾🌾🌾
พระมหาโพธิสัตว์กวนอิมธัญญาทิพย์กวักทรัพย์
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีกว่าๆ สมัยก่อตั้งชมรมใหม่ๆ ในคืนวันหนึ่ง อ.วิกรานต์ แซ่ลี้ ได้นั่งภาวนาตามปกติเหมือนที่เคยปฏิบัติอยู่เป็นประจำในทุกๆ คืน ในคืนนี้ขณะที่นั่งภาวนาอยู่เมื่อจิตสงบดีแล้ว ก็เกิดเห็นเป็นภาพนิมิตของพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ตามที่เห็นในนิมิตคือ ท่านนั่งในดอกบัวและอยู่บนหลังกบ มือขวาถือแจกัน ในแจกันมีรวงข้าวสีทองและต้นของรวงข้าวหันเข้าหาตัวพระองค์ท่าน พระหัตถ์ซ้ายกวักเหมือนนางกวัก จากนั้นภาพนิมิตก็เลือนหายไป
วันต่อมา อ.วิกรานต์ ก็ได้หาช่างวาดรูป เพื่อให้เขาช่วยวาดรูปตามนิมิตนี้ให้ หลังจากที่ได้รูปตามนิมินมาแล้ว อ.วิกรานต์ ได้นำรูปนี้ไปให้พระเถระที่ อ.วิกรานต์ นับถือได้ปลุกเสกรูปนี้ และได้อัญเชิญเข้าห้องพระ และวางไว้ในห้องพระ
ต่อมาไม่นานพื้นที่หลังบ้านของ อ.วิกรานต์ ที่อยู่ จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นตึกสูง และหลังบ้านเป็นพื้นที่ว่างเปล่า อ.วิกรานต์ ก็จะปลูกต้นไม้บ้างเล็กน้อย เหตุการณ์ในวันนั้นก็คือ อ.วิกรานต์ เห็นเหมือนต้นหญ้าขึ้นมาเขียวชอุ่ม แต่ก็ไม่เหมือนต้นหญ้าทั่วไป ขึ้นมาเป็นกระหย่อมๆ ประมาณ 9 กระหย่อม แต่ละจุดที่ต้นหญ้าขึ้นมาจะอยู่ห่างกันประมาณ 1 - 2 ก้าว ตอนแรก อ.วิกรานต์ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็รดน้ำไปเรื่อยๆ ต้นหญ้าทั้ง 9 กระหย่อมนี้ ก็ได้เจริญงอกงามขึ้นเรื่อยๆ
วันหนึ่งต้นหญ้าทั้ง 9 กระหย่อมนี้ก็มีรวงข้าวงอกออกมา เป็นสีทองงอกออกมา พอ อ.วิกรานต์ เห็น อาจารย์ก็คิดในใจว่า นี่มันต้นข้าวนี่ ไม่ใช่ต้นหญ้า แล้วต้นข้าวมางอกที่หลังบ้านได้ยังไง ถ้าไม่มีคนมาปลูกไว้ ต้นข้าวไม่น่าสามารถขึ้นเองได้ หรือถ้าขึ้นเองได้ตามธรรมชาติก็ไม่น่าจะใช้พื้นที่แบบนี้ ปกติต้นข้าวจะอยู่ในนาอยู่กับน้ำแฉะๆ
เมื่อ อ.วิกรานต์ เห็นเป็นเช่นนี้แล้ว อาจารย์ก็ได้เก็บรวงข้าวนั้นไว้ ในทุกๆ ต้น ที่มีรวงข้าวงอกออกมา เก็บได้จำนวนมากพอสมควรเลยทีเดียว จากนั้นต้นข้าวทั้งหมดก็ได้ค่อยๆ เหี่ยวเฉาลงไปตามธรรมชาติ
มีอยู่วันหนึ่ง อ.วิกรานต์ ได้นำคณะเข้าไปกราบหลวงพ่อสาย ที่วัดท่าไม้แดง จ.ตาก (ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว) อาจารย์ได้นำข้าวเปลือกทั้งหมด และมวลสารพร้อมด้วยวัตถุมงคลเข้าไปด้วย เพื่อให้หลวงพ่อสายได้เมตตาปลุกเสกและอธิฐานจิตให้ ทุกๆ ครั้งที่ไปอาจารย์จะนำของหลายๆ อย่างไปให้หลวงพ่อสายปลุกเสกและอธิฐานจิต ครั้งนี้ก็เช่นกัน ข้าวเปลือกและมวลสาร วัตถุมงคลทั้งหมดอยู่ในลังกล่องกระดาษปิดไว้อย่างดี อาจารย์จะนำทั้งหมดไปกองๆ ไว้ที่ด้านหน้าตรงที่หลวงพ่อสายนั่งอยู่
หลังจากที่หลวงพ่อสายอธิฐานจิตของทั้งหมดให้เสร็จแล้ว พอท่านออกจากสมาธิ ท่านได้ถาม อ.วิกรานต์ ว่า " ไปเอาข้าวเจ้าแม่กวนอิมมาทำไม " อ.วิกรานต์ รู้สึกงงที่หลวงพ่อสายท่านล่วงรู้ได้อย่างไรว่า มีข้าวเปลือกอยู่ในลังกล่องกระดาษนั่น แม้แต่คนใน กลุ่มคณะก็ยังไม่รู้เลยว่าในลังกล่องกระดาษนั้นมีอะไรอยู่บ้าง อีกทั้งท่านยังทราบด้วยญาณวิถีอีกด้วยว่า.. " นี่คือข้าวเปลือกอันบังเกิดจาก ทิพยอำนาจแห่งพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม " ทุกคนรู้สึกขนลุกไปตาม ๆ กัน
จากนั้นหลวงพ่อสายได้บอกกับอาจารย์ว่า " ให้เอาข้าวเจ้าแม่กวนอิมขึ้นมาจากในกล่องกระดาษ " จากนั้น อ.วิกรานต์ ก็ได้นำข้าวเปลือกส่วนหนึ่งถวายหลวงพ่อสาย
กบ : 🐸
หมายถึง อายุยืน ความอุดมสมบูรณ์ กบมีญาณวิเศษรู้จักจำศีล
รวงข้าว : 🌾
หมายถึง ความอิ่ม ความอุดมสมบูรณ์ การบูชารวงข้าวก็เหมือนได้บูชาแม่โพสพ
พระหัตถ์ซ้ายกวักเข้ามา : 🤚
หมายถึง การกวักสิ่งดีๆ เข้าหาตัวเอง กวักเงิน กวักทอง กวักโชค กวักลาภ
เอกสารสมัยซ่ง(宋) อี๋เจียนจื้อ《夷堅志》 บันทึกเรื่องการงดทานเนื้อวัวถวายกวนอิมหรือพระอวโลกิเตศวร
เกร็ดความรู้เรื่องการห้ามทานเนื้อวัว-เนื้อควาย กับการนับถือเจ้าแม่กวนอิมของคนจีนโบราณ
เคยสังเกตไหมว่าทำไมคนเชื้อสายจีนรุ่นเก่าในไทย ที่นับถือพระกวนอิมหรืออวโลกิเตศวรถึงไม่กินเนื้อวัว ทำไมการนับถือท่านต้องงดเนื้อวัว การงดเนื้อวัวถวายกวนอิมมันมีที่มา ผมว่าน่าจะเริ่มมาจากเรื่องสมัยราชวงศ์ซ่งเรื่องนี้
ไจ๋จี๋ (翟楫) อาศัยที่เมืองหูโจว (湖州) อายุ 50 ปี ไม่มีลูกชาย จึงวาดภาพพระอวโลกิเตศวรหรือกวนอิม แล้วบูชาอย่างยิ่งยวด เมียเขาตั้งท้อง ต่อมาเขากับเมียฝันเห็นหญิงชุดขาวถือถาด มีเด็กชาย 1 คนบนถาด หน้าตาน่ารักน่าชัง ในความฝันเมียดีใจมากอยากไปอุ้มเอามา แต่มีวัวตัวนึงขวางทางไว้ทำให้ไปเอาไม่ได้ ต่อมานางคลอดลูกชาย แต่อายุครบเดือนก็ตาย เขาจึงบูชาเหมือนตอนแรก เขากับเมียฝันเห็นผู้หญิงชุดขาวคนเดิม หญิงชุดขาวถามไจ๋จี๋ว่า
子酷嗜牛肉。豈謂是歟?
(เจ้าชอบกินเนื้อวัวใช่ไหม?)
ไจ๋จี๋หวาดกลัวเมื่อได้ยินคำถามนี้
หญิงชุดขาวบอกว่า
"即誓闔家不複食。遂複夢前婦人送兒至。"
(สาบานว่าต่อไปจะไม่กินเนื้อวัวทั้งบ้านอีก ก็จะให้ลูกชายแก่เมียเหมือนที่ฝันครั้งก่อน)
เมียได้อุ้มเด็กคนนั้น ต่อมาเมียเขาก็คลอดเด็กชายและเลี้ยงจนเป็นผู้ใหญ่ ทั้งคู่ล้วนยินดี
洪邁:《夷堅志》
สมัยราชวงศ์ซ่ง ความเชื่อเรื่อง
กวนอิมแพร่หลายสู่ชาวบ้าน ตำนานเกี่ยวกับแม่กวนอิมที่เรียบเรียงสมัยถัง ก็แพร่หลายสู่ชาว บ้านในสมัยซ่ง
หมายเหตุ...
ภาพของตลาดศูนย์การค้ากำแพงเพชร
บริเวณที่เกิดเหตุ
ต้นข้าวงอกขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
พระมหาโพธิสัตว์กวนอิมธัญญาทิพย์กวักทรัพย์
พระมหาโพธิสัตว์กวนอิมธัญญาทิพย์กวักทรัพย์
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีกว่าๆ สมัยก่อตั้งชมรมใหม่ๆ ในคืนวันหนึ่ง อ.วิกรานต์ แซ่ลี้ ได้นั่งภาวนาตามปกติเหมือนที่เคยปฏิบัติอยู่เป็นประจำในทุกๆ คืน ในคืนนี้ขณะที่นั่งภาวนาอยู่เมื่อจิตสงบดีแล้ว ก็เกิดเห็นเป็นภาพนิมิตของพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม ตามที่เห็นในนิมิตคือ ท่านนั่งในดอกบัวและอยู่บนหลังกบ มือขวาถือแจกัน ในแจกันมีรวงข้าวสีทองและต้นของรวงข้าวหันเข้าหาตัวพระองค์ท่าน พระหัตถ์ซ้ายกวักเหมือนนางกวัก จากนั้นภาพนิมิตก็เลือนหายไป
วันต่อมา อ.วิกรานต์ ก็ได้หาช่างวาดรูป เพื่อให้เขาช่วยวาดรูปตามนิมิตนี้ให้ หลังจากที่ได้รูปตามนิมินมาแล้ว อ.วิกรานต์ ได้นำรูปนี้ไปให้พระเถระที่ อ.วิกรานต์ นับถือได้ปลุกเสกรูปนี้ และได้อัญเชิญเข้าห้องพระ และวางไว้ในห้องพระ
ต่อมาไม่นานพื้นที่หลังบ้านของ อ.วิกรานต์ ที่อยู่ จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นตึกสูง และหลังบ้านเป็นพื้นที่ว่างเปล่า อ.วิกรานต์ ก็จะปลูกต้นไม้บ้างเล็กน้อย เหตุการณ์ในวันนั้นก็คือ อ.วิกรานต์ เห็นเหมือนต้นหญ้าขึ้นมาเขียวชอุ่ม แต่ก็ไม่เหมือนต้นหญ้าทั่วไป ขึ้นมาเป็นกระหย่อมๆ ประมาณ 9 กระหย่อม แต่ละจุดที่ต้นหญ้าขึ้นมาจะอยู่ห่างกันประมาณ 1 - 2 ก้าว ตอนแรก อ.วิกรานต์ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร ก็รดน้ำไปเรื่อยๆ ต้นหญ้าทั้ง 9 กระหย่อมนี้ ก็ได้เจริญงอกงามขึ้นเรื่อยๆ
วันหนึ่งต้นหญ้าทั้ง 9 กระหย่อมนี้ก็มีรวงข้าวงอกออกมา เป็นสีทองงอกออกมา พอ อ.วิกรานต์ เห็น อาจารย์ก็คิดในใจว่า นี่มันต้นข้าวนี่ ไม่ใช่ต้นหญ้า แล้วต้นข้าวมางอกที่หลังบ้านได้ยังไง ถ้าไม่มีคนมาปลูกไว้ ต้นข้าวไม่น่าสามารถขึ้นเองได้ หรือถ้าขึ้นเองได้ตามธรรมชาติก็ไม่น่าจะใช้พื้นที่แบบนี้ ปกติต้นข้าวจะอยู่ในนาอยู่กับน้ำแฉะๆ
เมื่อ อ.วิกรานต์ เห็นเป็นเช่นนี้แล้ว อาจารย์ก็ได้เก็บรวงข้าวนั้นไว้ ในทุกๆ ต้น ที่มีรวงข้าวงอกออกมา เก็บได้จำนวนมากพอสมควรเลยทีเดียว จากนั้นต้นข้าวทั้งหมดก็ได้ค่อยๆ เหี่ยวเฉาลงไปตามธรรมชาติ
มีอยู่วันหนึ่ง อ.วิกรานต์ ได้นำคณะเข้าไปกราบหลวงพ่อสาย ที่วัดท่าไม้แดง จ.ตาก (ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว) อาจารย์ได้นำข้าวเปลือกทั้งหมด และมวลสารพร้อมด้วยวัตถุมงคลเข้าไปด้วย เพื่อให้หลวงพ่อสายได้เมตตาปลุกเสกและอธิฐานจิตให้ ทุกๆ ครั้งที่ไปอาจารย์จะนำของหลายๆ อย่างไปให้หลวงพ่อสายปลุกเสกและอธิฐานจิต ครั้งนี้ก็เช่นกัน ข้าวเปลือกและมวลสาร วัตถุมงคลทั้งหมดอยู่ในลังกล่องกระดาษปิดไว้อย่างดี อาจารย์จะนำทั้งหมดไปกองๆ ไว้ที่ด้านหน้าตรงที่หลวงพ่อสายนั่งอยู่
หลังจากที่หลวงพ่อสายอธิฐานจิตของทั้งหมดให้เสร็จแล้ว พอท่านออกจากสมาธิ ท่านได้ถาม อ.วิกรานต์ ว่า " ไปเอาข้าวเจ้าแม่กวนอิมมาทำไม " อ.วิกรานต์ รู้สึกงงที่หลวงพ่อสายท่านล่วงรู้ได้อย่างไรว่า มีข้าวเปลือกอยู่ในลังกล่องกระดาษนั่น แม้แต่คนใน กลุ่มคณะก็ยังไม่รู้เลยว่าในลังกล่องกระดาษนั้นมีอะไรอยู่บ้าง อีกทั้งท่านยังทราบด้วยญาณวิถีอีกด้วยว่า.. " นี่คือข้าวเปลือกอันบังเกิดจาก ทิพยอำนาจแห่งพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม " ทุกคนรู้สึกขนลุกไปตาม ๆ กัน
จากนั้นหลวงพ่อสายได้บอกกับอาจารย์ว่า " ให้เอาข้าวเจ้าแม่กวนอิมขึ้นมาจากในกล่องกระดาษ " จากนั้น อ.วิกรานต์ ก็ได้นำข้าวเปลือกส่วนหนึ่งถวายหลวงพ่อสาย
กบ : 🐸
หมายถึง อายุยืน ความอุดมสมบูรณ์ กบมีญาณวิเศษรู้จักจำศีล
รวงข้าว : 🌾
หมายถึง ความอิ่ม ความอุดมสมบูรณ์ การบูชารวงข้าวก็เหมือนได้บูชาแม่โพสพ
พระหัตถ์ซ้ายกวักเข้ามา : 🤚
หมายถึง การกวักสิ่งดีๆ เข้าหาตัวเอง กวักเงิน กวักทอง กวักโชค กวักลาภ
เอกสารสมัยซ่ง(宋) อี๋เจียนจื้อ《夷堅志》 บันทึกเรื่องการงดทานเนื้อวัวถวายกวนอิมหรือพระอวโลกิเตศวร
เกร็ดความรู้เรื่องการห้ามทานเนื้อวัว-เนื้อควาย กับการนับถือเจ้าแม่กวนอิมของคนจีนโบราณ
เคยสังเกตไหมว่าทำไมคนเชื้อสายจีนรุ่นเก่าในไทย ที่นับถือพระกวนอิมหรืออวโลกิเตศวรถึงไม่กินเนื้อวัว ทำไมการนับถือท่านต้องงดเนื้อวัว การงดเนื้อวัวถวายกวนอิมมันมีที่มา ผมว่าน่าจะเริ่มมาจากเรื่องสมัยราชวงศ์ซ่งเรื่องนี้
ไจ๋จี๋ (翟楫) อาศัยที่เมืองหูโจว (湖州) อายุ 50 ปี ไม่มีลูกชาย จึงวาดภาพพระอวโลกิเตศวรหรือกวนอิม แล้วบูชาอย่างยิ่งยวด เมียเขาตั้งท้อง ต่อมาเขากับเมียฝันเห็นหญิงชุดขาวถือถาด มีเด็กชาย 1 คนบนถาด หน้าตาน่ารักน่าชัง ในความฝันเมียดีใจมากอยากไปอุ้มเอามา แต่มีวัวตัวนึงขวางทางไว้ทำให้ไปเอาไม่ได้ ต่อมานางคลอดลูกชาย แต่อายุครบเดือนก็ตาย เขาจึงบูชาเหมือนตอนแรก เขากับเมียฝันเห็นผู้หญิงชุดขาวคนเดิม หญิงชุดขาวถามไจ๋จี๋ว่า
子酷嗜牛肉。豈謂是歟?
(เจ้าชอบกินเนื้อวัวใช่ไหม?)
ไจ๋จี๋หวาดกลัวเมื่อได้ยินคำถามนี้
หญิงชุดขาวบอกว่า
"即誓闔家不複食。遂複夢前婦人送兒至。"
(สาบานว่าต่อไปจะไม่กินเนื้อวัวทั้งบ้านอีก ก็จะให้ลูกชายแก่เมียเหมือนที่ฝันครั้งก่อน)
เมียได้อุ้มเด็กคนนั้น ต่อมาเมียเขาก็คลอดเด็กชายและเลี้ยงจนเป็นผู้ใหญ่ ทั้งคู่ล้วนยินดี
洪邁:《夷堅志》
สมัยราชวงศ์ซ่ง ความเชื่อเรื่อง
กวนอิมแพร่หลายสู่ชาวบ้าน ตำนานเกี่ยวกับแม่กวนอิมที่เรียบเรียงสมัยถัง ก็แพร่หลายสู่ชาว บ้านในสมัยซ่ง
หมายเหตุ...
ภาพของตลาดศูนย์การค้ากำแพงเพชร
บริเวณที่เกิดเหตุ
ต้นข้าวงอกขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์