ในโลกแห่งอนาคต (หรือเปล่าไม่แน่ใจ) เอาเป็นว่าเป็นโลกที่ไม่มีมนุษย์ โลกแห่งนี้เหล่าสัตว์เป็นใหญ่
ทุกตัวใช้ชีวิตอย่างอิสระไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร เช่นเดียวกับ Dog มันใช้ชีวิตตัวคนเดียวในมหานครใหญ่บนเกาะแมนฮัตตัน
ทุกวันเป็นไปอย่างราบเรียบ เรียบจนน่าเบื่อ.. Dog ไม่รู้จะคุยกับใครดี
จนกระทั่งเจ้าตัวเห็นโฆษณาในทีวีว่ามีหุ่นยนต์เพื่อนขาย.. Dog ไม่รอช้ารีบสั่งหุ่นยนต์เพื่อนมาในทันที
Dog ไม่โดนย้อมแมว มันประกอบหุ่นตามคำแนะนำจนสำเร็จ.. เจ้าหุ่นเป็นเพื่อนที่ดีของมันจริงๆด้วย
ทั้งคู่ไปเที่ยวสวนสาธารณะ.. เดินเล่นในเมือง กินข้าว ดูหนัง เล่นสเก็ต ไปดูกีฬา
ทุกอย่างที่ Dog เคยทำคนเดียว ไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว มันไม่เหงาอีกต่อไปเพราะมีหุ่นยนต์เป็นเพื่อนข้างกาย
วันนึงในฤดูร้อน Dog พาหุ่นไปเที่ยวชายหาด ทั้งสองเล่นสนุกกันทั้งวันจนถึงช่วงเย็นต้องกลับบ้าน..
แต่ปรากฏว่า หุ่นยนต์เกิดเครื่องแฮงก์ขยับไปไหนไม่ได้ ไม่ว่าจะทำยังไง Dog ก็ลากหุ่นเพื่อนกลับบ้านไม่ไหว..
ด้วยความจำใจ Dog จำเป็นต้องทิ้งหุ่นเพื่อนให้นอนรอเขาที่ชายหาด 1 คืน
วันรุ่งขึ้นเ Dog ตั้งใจว่าจะรีบเอาอุปกรณ์ซ่อมบำรุง และจะพาหุ่นกลับบ้าน...
แต่แล้วกลายเป็นว่าวันรุ่งขึ้น หาดดันปิด.. จะเปิดอีกทีก็นู่นเลย 1 มิถุนา..
อีกหลายเดือน ทำไงดีล่ะเนี่ย... Dog จะพาหุ่นเพื่อนกลับบ้านได้มั้ย..??
Robot Dreams เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นสเปน (มีฝรั่งเศสร่วมแจมด้วย) เขียนบทและกำกับโดยปาโบล เบอร์เกอร์
สร้างจากการ์ตูนชื่อเดียวกันของซารา วารอน เรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพที่แยกกันไม่ออกระหว่างสุนัขกับหุ่นยนต์ในแมนฮัตตัน รัฐนิวยอร์ก
โลกใบใหม่ที่สัตว์ครองพิภพ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีบทสนทนาใดๆ เลย ดังนั้นเราๆท่านๆ ดูเข้าใจได้
ปาโบล เบอร์เกอร์ เป็นผู้กำกับที่ไม่เคยลุยงานด้านแอนิเมชั่นมาก่อนเลย
ก่อนหน้านี้กำกับหนังมา 3 เรื่องก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นสักเท่าไหร่ แต่ปรากฏว่าเพียงแค่ผลงานแอนิเมชั่นแรกของเจ้าตัว
ก็สามารถพาตัวเองเข้าชิงภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 96 ไปได้อย่างเหนือความคาดหมาย
(และก็คงพ่ายให้กับ The Boy and the Heron อย่างแน่นอน)
ถึงจะเป็นแอนิเมชั่น ที่ภาพออกมาหน้าตาน่ารักน่าชัง หากแต่เนื้อหาเรื่องนี้ถือว่าหนักและจริงจังพอตัวครับ
เป็นเรื่องของความสัมพันธ์และมิตรภาพที่งดงามระหว่างเพื่อน ที่ต้องแลกกับอะไรหลายอย่าง
บอกเลยว่าจบไม่ Happy แต่จบแบบโคตรความเป็นจริงของชีวิตสุดๆ ดังนั้นไม่เหมาะกับเยาวชนที่ดูแล้วอาจไม่เข้าใจ
แต่เหมาะกับวัยผู้ใหญ่อย่างเรานี่ล่ะครับ
เพื่อนกันย่อมเข้าใจในกันและกัน ไม่ว่าทางชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อให้นานสักแค่ไหน
เมื่อเรากลับมาพบเจอกันอีกครั้งมิตรภาพที่สวยงามนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนไป และถึงแม้ว่าในช่วงชีวิตเราจะพบกับเพื่อนใหม่..
แต่ความรู้สึกดีดีที่มีเคยมี เราจะไม่ลืมมัน.. ถึงจะไม่ได้เจอ ไม่ได้มีเวลาพูดคุยกันเหมือนแต่ก่อน..
หากทุกครั้งที่หวนนึกถึงกัน เราจะยิ้มให้กับความทรงจำนั้นเสมอ และมันจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป...
ปิดท้ายด้วยเพลง September ผลงานระดับตำนานของวง Disco ระดับโลกในยุค 70 อย่าง Earth, Wind & Fire
ที่หนังเรื่องนี้เลือกใช้เป็นเพลงประกอบหลักนะครับ
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===
== Robot Dreams (2023) หุ่นยนต์...ก็มีหัวใจ.. ==
ในโลกแห่งอนาคต (หรือเปล่าไม่แน่ใจ) เอาเป็นว่าเป็นโลกที่ไม่มีมนุษย์ โลกแห่งนี้เหล่าสัตว์เป็นใหญ่
ทุกตัวใช้ชีวิตอย่างอิสระไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร เช่นเดียวกับ Dog มันใช้ชีวิตตัวคนเดียวในมหานครใหญ่บนเกาะแมนฮัตตัน
ทุกวันเป็นไปอย่างราบเรียบ เรียบจนน่าเบื่อ.. Dog ไม่รู้จะคุยกับใครดี
จนกระทั่งเจ้าตัวเห็นโฆษณาในทีวีว่ามีหุ่นยนต์เพื่อนขาย.. Dog ไม่รอช้ารีบสั่งหุ่นยนต์เพื่อนมาในทันที
Dog ไม่โดนย้อมแมว มันประกอบหุ่นตามคำแนะนำจนสำเร็จ.. เจ้าหุ่นเป็นเพื่อนที่ดีของมันจริงๆด้วย
ทั้งคู่ไปเที่ยวสวนสาธารณะ.. เดินเล่นในเมือง กินข้าว ดูหนัง เล่นสเก็ต ไปดูกีฬา
ทุกอย่างที่ Dog เคยทำคนเดียว ไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว มันไม่เหงาอีกต่อไปเพราะมีหุ่นยนต์เป็นเพื่อนข้างกาย
วันนึงในฤดูร้อน Dog พาหุ่นไปเที่ยวชายหาด ทั้งสองเล่นสนุกกันทั้งวันจนถึงช่วงเย็นต้องกลับบ้าน..
แต่ปรากฏว่า หุ่นยนต์เกิดเครื่องแฮงก์ขยับไปไหนไม่ได้ ไม่ว่าจะทำยังไง Dog ก็ลากหุ่นเพื่อนกลับบ้านไม่ไหว..
ด้วยความจำใจ Dog จำเป็นต้องทิ้งหุ่นเพื่อนให้นอนรอเขาที่ชายหาด 1 คืน
วันรุ่งขึ้นเ Dog ตั้งใจว่าจะรีบเอาอุปกรณ์ซ่อมบำรุง และจะพาหุ่นกลับบ้าน...
แต่แล้วกลายเป็นว่าวันรุ่งขึ้น หาดดันปิด.. จะเปิดอีกทีก็นู่นเลย 1 มิถุนา..
อีกหลายเดือน ทำไงดีล่ะเนี่ย... Dog จะพาหุ่นเพื่อนกลับบ้านได้มั้ย..??
Robot Dreams เป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นสเปน (มีฝรั่งเศสร่วมแจมด้วย) เขียนบทและกำกับโดยปาโบล เบอร์เกอร์
สร้างจากการ์ตูนชื่อเดียวกันของซารา วารอน เรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพที่แยกกันไม่ออกระหว่างสุนัขกับหุ่นยนต์ในแมนฮัตตัน รัฐนิวยอร์ก
โลกใบใหม่ที่สัตว์ครองพิภพ ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีบทสนทนาใดๆ เลย ดังนั้นเราๆท่านๆ ดูเข้าใจได้
ปาโบล เบอร์เกอร์ เป็นผู้กำกับที่ไม่เคยลุยงานด้านแอนิเมชั่นมาก่อนเลย
ก่อนหน้านี้กำกับหนังมา 3 เรื่องก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นสักเท่าไหร่ แต่ปรากฏว่าเพียงแค่ผลงานแอนิเมชั่นแรกของเจ้าตัว
ก็สามารถพาตัวเองเข้าชิงภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 96 ไปได้อย่างเหนือความคาดหมาย
(และก็คงพ่ายให้กับ The Boy and the Heron อย่างแน่นอน)
ถึงจะเป็นแอนิเมชั่น ที่ภาพออกมาหน้าตาน่ารักน่าชัง หากแต่เนื้อหาเรื่องนี้ถือว่าหนักและจริงจังพอตัวครับ
เป็นเรื่องของความสัมพันธ์และมิตรภาพที่งดงามระหว่างเพื่อน ที่ต้องแลกกับอะไรหลายอย่าง
บอกเลยว่าจบไม่ Happy แต่จบแบบโคตรความเป็นจริงของชีวิตสุดๆ ดังนั้นไม่เหมาะกับเยาวชนที่ดูแล้วอาจไม่เข้าใจ
แต่เหมาะกับวัยผู้ใหญ่อย่างเรานี่ล่ะครับ
เพื่อนกันย่อมเข้าใจในกันและกัน ไม่ว่าทางชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อให้นานสักแค่ไหน
เมื่อเรากลับมาพบเจอกันอีกครั้งมิตรภาพที่สวยงามนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนไป และถึงแม้ว่าในช่วงชีวิตเราจะพบกับเพื่อนใหม่..
แต่ความรู้สึกดีดีที่มีเคยมี เราจะไม่ลืมมัน.. ถึงจะไม่ได้เจอ ไม่ได้มีเวลาพูดคุยกันเหมือนแต่ก่อน..
หากทุกครั้งที่หวนนึกถึงกัน เราจะยิ้มให้กับความทรงจำนั้นเสมอ และมันจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป...
ปิดท้ายด้วยเพลง September ผลงานระดับตำนานของวง Disco ระดับโลกในยุค 70 อย่าง Earth, Wind & Fire
ที่หนังเรื่องนี้เลือกใช้เป็นเพลงประกอบหลักนะครับ
=== ทิ้งท้ายครับ หนังที่ดีสำหรับตัวเรา แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ดีและไม่ได้ถูกใจสำหรับใคร
ซึ่งอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคล ภาพยนตร์ก็เหมือนอาหารล่ะครับ อยู่ที่เราเลือกที่จะอยากชิมรสชาติแบบไหนเท่านั้นเอง ===