ผิดหรือ?? ที่อยากให้ลูกหาอะไรสักอย่างทำก็ได้

แก้ไข วันที่ 26-Feb-24
ขอแก้ไขข้อมูลและสรุปปัญหา ผลสุดท้ายของเหตุการณ์นี้

หัวข้อกระทู้   - ผิดหรือ?? ที่อยากให้ลูกหาอะไรสักอย่างทำก็ได้
คาดหวัง       
      - แนวทางและคำแนะนำ การจัดการปัญหา  แก้ไข ในเหตุการณ์แบบนี้
สาเหตุ 
      - ลูกสาวจบปริญญาตรีมาได้ 6 เดือนแต่หางานทำไม่ได้
     - มุมมองของผม เหมือนลูกสาวเลือกงาน และไม่จริงจังที่จะทำงาน
      - เมื่อลูกโดนกดดันหนักมาก ลูกจึงอยากออกไปทำงานกับแฟนที่ต่างจังหวัด  ผมจะอนุญาติให้ไปอยู่บ้านผู้ชายต่อเมื่อมีทะเบียนสมรสเท่านั้น (ผมไม่รู้จักแฟนลูกมาก่อน)
 
แนวทางการแก้ไขของครอบครัวที่นำไปใช้ หลังโพสต์ถามแนวทางใน Pantip ได้ไม่กี่ชั่วโมง
     21-กุมภาพันธ์-2567
     เรียกมาพูดคุยหาทางออก แต่แทบเป็นการสื่อสารทางเดียวเพราะลูกไม่สื่อสารกลับ
     ข้อตกลงที่ได้ 
           - ให้เวลาหางานเองอีก 2 อาทิตย์   ถ้าหาไม่ได้จะยึดคอมพิวเตอร์ (ไม่ยึดโทรศัพท์) จะคืนให้เมื่อได้งานแล้ว
           - ถ้าหางานเองไม่ได้ จะส่งไปเรียนเสริมทางสายอาชีพ เช่น เสริมสวย
           - ตำหนิและตักเตือนเรื่องพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสม
           - ยืนยันถ้าจะไปทำงานกับแฟน ต้องมีทะเบียนสมรสก่อนไป

ผลการแก้ไข - ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
      22-กุมภาพันธ์-2567   น้องเก็บคอมพิวเตอร์ หนีออกจากบ้านไป   พร้อมจดหมายที่มีเนื้อหา
            - ตัดพ้อ พ่อแม่ไม่รัก รักคนอื่นมากกว่า  ไม่เข้าใจ   ไม่ฟังคำอธิบาย
            - ระบายความคับแค้นใจ ที่ไม่เคยบอกมาก่อน   น้องอยากตาย
            - บอกว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า (ไปตรวจ 19 กพ 67 ใบแจ้งของแพทย์ยังไม่ระบุว่าเป็นโรคอะไรและมีนัดพบหมอเฉพาะทางเพื่อประเมินและติดตามผล ในวันที่ 7 มี.ค 67)
      23-กุมภาพันธ์-2567  ตอบ Line มาว่าปลอดภัยดี

สรุปสาเหตุที่ล้มเหลวจากหลายความคิดเห็นของทุกคน  และตัวเจ้าขอกระทู้เอง
      1. การเลี้ยงดูอบรมที่ผิด และการปล่อยปะละเลยลูกของผม    จึงก่อให้เกิดนิสัยบางอย่างยากที่แก้ไข
      2. การขาดการสื่อสารภายในครอบครับ  ทำให้ลูกไม่เปิดใจให้   ลูกขาดความรักจนไปแสวงหาจากภายนอก
          ต่างคนต่างไม่เข้าใจกัน พ่อแม่คิดไปเองว่าลูกเข้าใจการกระทำของพ่อแม่      ลูกเข้าใจว่าพ่อแม่เข้าใจเหตุผลของลูก
      3. การขาดความเข้าใจ การสื่อสารแบบจิตวิทยา  การตำหนิ  การให้กำลังใจกัน
      4. บรรยากาศที่เป็นพิษในครอบครัวไม่ได้รับการแก้ไข
      5. ครอบครัวกดดันเกินไป

สุดท้ายขอขอบคุณทาง Pantip ที่มีพิ้นที่ให้ถาม  และคำตอบของทุกคนที่อ่านแล้วมีกำลังใจสู้ต่อ   บางความเห็นที่อ่านแล้วหนักอึ้ง   บางความเห็นที่แชร์ประสบการณ์    บางความเห็นที่เปิดมุมองใหม่ของผม

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 128
ผมเจ้าของกระทู้ ขอขอบคุณทุกคนมากที่แนะนำ และ แชร์ประการณ์กับผม  และผมได้ลองนำความคิดของทุกคนมาคิดและได้เรียกลูกมาคุย เมื่อวันที่  21-กุมภาพันธ์-2567

<ขอลบข้อมูลการพูดคุยครั้งสุดท้าย >

วันนี้ 22 กุมภาพันธ์ 2567  น้องออกจากบ้านเพื่อไปทำงานกับแฟน   โดยมีจดมหายลาไว้ ทำให้ผมเพิ่งทราบว่าลูกเป็นซึมเศร้า   ซึ่งผมกับภรรยาไม่เคยทราบ   รู้เพียงลูกมีพฤติกรรมเก็บตัว

<ขอลบจดหมาย ของลูก>  บางความคิดเห็น แนะนำว่าควรลบ ซึ่งผมเห็นด้วย

ขอลบข้อความที่กล่าวถึงลูกสาว   ตอนนี้ได้คุยกันแล้ว ครับ     น้องขอลองไปใช้ชีวิตกับแฟน

สรุป  
สาเหตุ การสื่อสารในครอบครัวไม่ดี และ การละเลยใส่ใจลูกตลอดมาของผมเอง  และการเลือกวิธีแก้ปัญหาที่ผิด ทำให้ปัญหาบานปลาย
ผล  ตอนนี้เลยทำใจปล่อยให้ลูกออกไปใช้ชีวติตามที่เค้าต้อง  และควรให้กำลังใจเค้าห่างๆ   และช่วยเหลือตามสมควรเมื่อเกิดปัญหา

ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นอีกครั้ง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 131
อ่านแล้วเศร้าใจ เห็นใจคนเป็นพ่อแม่ สิ่งที่พ่อแม่แบกรับ ลูกไม่เคยเห็น เอาแต่ตัดพ้อ เอาแต่ความไม่สมหวังของตัวเองเป็นใหญ่ ที่กล้าตำหนิเด็ก เพราะเจอมาแบบนี้เลย ลูกติดสามี แม่เขาเอาไปเลี้ยงจนโต ปล่อยปะละเลย กลับมาเป็นแบบนี้เลย พอใช้ไม้อ่อนก็ได้คืบจะเอาศอก พอใช้ไม้แข็งก็ทำตัวเหมือนเป็นเหยื่อ พยายามอธิบายก็เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา อะไรไม่ตรงกับที่ตัวเองเห็นถูกก็ไม่ฟัง ส่วนหนึ่งก็มาจากการเลี้ยงดูด้วย แต่เท่าที่อ่านพ่อแม่ทำเต็มที่แล้ว
ความคิดเห็นที่ 171
ความเห็นส่วนตัวนะคะ

เรารู้สึกว่าเป็นกระทู้ที่เศร้ามากกกกก

ต่างคนต่างก็มองในมุมของตัวเอง คิดกันไปเอง
ทั้งพ่อแม่ และลูก

ทั้งๆที่เป้าหมายคือพยายามที่จะประคับประคอง ‘ครอบครัว’ ให้เป็น ‘ครอบครัว’

สิ่งที่ขาดไป คือ ‘การสื่อสาร’ ระหว่างกัน

พ่อที่ถามแล้ว บอกว่าลูกไม่ตอบคำถาม
หรือไม่รอที่จะฟังคำตอบนั้นกันแน่
/ซึ่งบางครั้งคำตอบไม่ได้มาในรูปแบบของเสียงให้ได้ยินตรงหู อาจจะมาจากภาษากาย การส่งสายตา
พฤติกรรมก็ได้/

ซึ่งพ่อแม่ไม่เคยได้ยินเลย

ลูกที่กลัวว่าคำตอบของตัวเอง จะทำให้พ่อแม่ไม่พอใจ
ลำบากใจ ไม่ชอบใจ ก็เลือกที่จะเก็บคำพูดนั้นกลืนลงคอ ให้มันทับถมซ้ำๆจนวันนี้มันระเบิดออกมา

แต่พ่อแม่ก็ยังไม่ได้ยิน…

เราเป็นคนนอก ที่ผ่านมาเห็นกระทู้และอ่านแล้วร้องไห้ค่ะ โดยเฉพาะเนื้อความในจดหมายที่น้องเขียนถึงพ่อแม่ จากมุมมองที่เขาเห็น

เราขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ เข้าพบจิตแพทย์นะคะ
และใจเย็นลงสักนิดกับเรื่องของน้องที่เกิดขึ้น

ทำความรู้จักกับลูกของตัวเองใหม่อีกครั้งนะคะ
อาจจะได้เห็นคำตอบของคำถามที่ถามมาค่ะ

เอาใจช่วยให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะคะ
ให้ครอบครัวได้กลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้งค่ะ
ความคิดเห็นที่ 1
โห่ ถ้าหนักขนาดนี้คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากให้ตัวเขาคิดเองแล้วแหละครับ

อันนี้มันบ่มนิสัยจนมันติดตัวแล้วแก้ยากไปแล้ว
ความคิดเห็นที่ 13
เหมือนพ่อแม่รังแกฉัน
ถ้าหาก สอนลูกให้คิดเป็นตั้งแต่แรก ปัญหาพวกนี้จะหมดไป ครับ
พอปล่อยนานเข้าๆ เด็กๆ จะสะสมความเป็นตัวเขาไว้
ปัญหาคือ เด็กจะไม่ฟัง เวลาพ่อแม่ สอน และ ทั้งๆที่เขาผิด เขาจะต่อต้าน และ ขาดความรับผิดชอบ
ซึ่งสุดท้ายจะวนมาหาพ่อแม่ ที่ต้องมาคอยเช็ดตูดให้เวลาลูกมีปัญหา ครับ

คราวนี้สิ่งที่ พ่อแม่จะแบกอีกทีคือภาระที่ลูกจะสร้าง นะครับ
เดี๋ยวอีกหน่อยจะบ่นไม่มีตังค์ใช้ ขอพ่อแม่ ทำงานนิดๆ หน่อยๆ ลาออก ขอเงินพ่อแม่
ซักพักอยากมีรถ เพราะเห็นเพื่อนๆ มี ก็ต้องขอ พ่อแม่
ซึ่ง เราจะใบ้กิน พูดไม่ได้ ด่าไป เขาก็หนีอีก ไม่รับฟังปัญหาที่เราต้องแบก

ยังไงก็ขอให้หนักแน่นไว้นะครับ ใจเย็นๆ ต้องดึงเขาให้สนใจเราให้ได้ก่อน ถึงจะบอก สอนได้
สำคัญคือ ต้องหัดให้เขาคิด ซึ่งก็ยาก คนโตเวลาออกนอกบ้าน จะไม่เหมือนเด็กๆ เขาจะฟังเพื่อนๆ มากกว่า พ่อแม่ ครับ
ความคิดเห็นที่ 4
พฤติกรรมเกิดจากการเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กค่ะ แต่ตอนนี้แก้อะไรไม่ได้แล้วนอกจากตัดหางปล่อยวัด ให้ออกไปหากินหาอยู่ด้วยตัวเองค่ะ มีพ่อแม่คอยช่วยตลอดยังงัยก็แก้ไม่ได้หรอกค่ะ ต้องเลี้ยงกันไปจนตายไปข้างแหล่ะค่ะ

หลังจากอ่าน คห.128 แล้ว ขอยกเลิกข้อความข้างบนนะคะ พอได้อ่านทั้งจดหมายของลูก และข้อความแก้ตัวของพ่อที่แก้ตัวแทนทุกคน แต่ด่าลูกตัวเองอยู่ฝ่ายเดียวแล้ว การที่ลูกมีพฤติกรรมแบบนั้นไม่แปลกเลย พ่อแม่ไม่ใช่เซฟโชนของลูกจริงๆ การที่น้องออกไปแรกๆ อาจจะลำบาก แต่คิดว่าน่าจะสบายใจมากกว่าอยู่บ้านค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่