. . . . ผ ม ช อ บ ท ะ เ ล . . . .
สวัสดีครับทุกท่าน ผมพฤตเอง หลังจากที่พาแม่ไปเที่ยวเกาะสีชังก็ได้เวลาของทริปแก้มือจากอารมณ์ที่ยังค้างคาจากเมื่อครั้งทริปชะอำ-หาดเจ้าฯ ซึ่งจะเป็นยังไง จะสนุกมันส์ขนาดไหน ตามมาชมกันเลยครับ
จากเมื่อครั้งทริปสีชัง ระหว่างทางที่นั่งตุ๊ก ๆ จากท่าเรือเกาะลอยไปโรงแรม ผมก็สังเกตรอบ ๆ ครับ
เอ้อ แถวนี้ก็น่าขับมอไซค์มาเที่ยวถ่ายรูปเล่นดีนะ แค่นั้นเลยครับ ฉนั้น เมื่อสองวันที่แล้ว หลังจากเด้งขึ้นจากเตียงเมื่อตอนตี 3 ครึ่ง ผมก็ควบเจ้าอาชาศึก MUSTANG R15 ออกสู่เส้นทางทันที บิดไปเรื่อย ๆ เช้า ๆ แบบนี้ถึงจะเป็นวันเสาร์ถนนก็โล่งดีจัง
จากบางใหญ่ บิดล่องลงมาตามถนนราชพฤกษ์ ก่อนเลี้ยวเข้าสาทร ทะลุไปพระโขนง เพื่อที่จะไปออกที่แยกบางนา เส้นนี้ใช้วิ่งขาไปตอนเช้ามืดดีมาก แต่ตอนขากลับนี่มุดรถติดเหนื่อยจริง ๆ สงสัยผมต้องมองหาเส้นทางเพิ่มซะหน่อยแล้วละซิ หลังจากที่วิ่งอยู่ใต้ทางด่วนมาสักพัก เมื่อเข้าเขตของจังหวัดฉะเชิงเทรา ผมก็ได้กลิ่นละอองฝน ก่อนแงนหน้าขึ้นไปดูเพื่อที่จะรู้ว่า
ฝนตก เอ้อ เอาละสิ จากที่ดูพยากรณ์อากาศ วันที่ 17 จะมีฝนก็จริง แต่จะมีช่วงบ่าย ทั้งฝั่งบางใหญ่และฝั่งศรีราชา (ซึ่งปรากฏว่าวันนั้นบางใหญ่ก็ไม่มีฝนอยู่ดีครับ 555) หลังจากนี้ผมคงต้องดูพยากรณ์อากาศของจังหวัดที่ต้องผ่านด้วยเพื่อความชัว แต่ไม่เป็นไร ผมวิ่งอยู่ใต้ทางด่วน ไม่เปียกโดนแค่ละออง และในกระเป๋าก็มีผ้าเช็ดรถอยู่ (แต่ไม่มีเสื้อกันฝนนะ 555) หายห่วง ๆ
และแล้วเราก็มาถึงเกาะลอย ไม่ไกลอย่างที่คิด เลยจากชายทะเลบางพระมานิดหน่อย มาถึงตอนแสงแรกของวันเพิ่งส่องลงมาแต่แดดยังไม่ออก ได้อีกบรรยากาศ ฝุ่นยังดูหนาอยู่ก็จริง แต่ก็ดูเบาบางกว่าเมื่อตอนทริปสีชัง
มาดูรูปฟฟิล์มกันบ้าง ทริปนี้ผมเอากล้องมา 3 ตัว อีกแล้ว 1300D เป็นกล้องหลัก Canonet QL17 กับฟฟิล์ม Colorplus 200 เป็นกล้องอาร์ท และ IXUS 185 ในกระเป๋าเสื้อเป็นกล้องสแน็ปเหมือนเดิม
พระอทิตย์ขึ้นสูง เริ่มสว่างจริง ๆ แล้ว
จับยัดเลนซ์ซูมดูแปลงเลี้ยงหอยซะหน่อย น่าจะเลี้ยงไม่หอยแมลงผู้ก็หอยนางรมนะผมคิดว่า
ฝุ่นยังหนาอยู่ ถ้ามีลมพัดหน่อยก็น่าจะดีขึ้น หรือถ้าให้ดีก็คือมีฝนหนัก ๆ สักวันนึงจะดีมาก
เช็กอินสักเล็กน้อย
คราวนี้ขยับรถเข้ามาในตัวเกาะ เดินถ่ายรูปกันสักหน่อย
หันมาดูฝั่งโนโวเทล ฝั่งนี้ฝุ่นน้อยลง ใสขึ้นเยอะ
เจอเจ้าถิ่น ถึงจะเป็นชายฝั่งของแผ่นดินใหญ่ ที่นี่ก็ยังมีฝูงปลาเล็กว่ายกันให้ว่อนเลยครับ และเมื่อตอนที่อยู่บนสะะพานผมก็เจอนักตกปลาเจ้าถิ่นสองคนตีเหยื่อปลอมกัน ทีแรกผมนึกว่าไมโครจิ๊ก แต่ดูจากเหยื่อแล้ว พวกเขาตีเหยื่อปลั้กกัน พูดคุยสอบถามจนได้ความว่า ที่เกาะลอยนี่มีปลาล่าเหยื่อใหญ่ ๆ เข้าด้วย อย่างน้าเขาก็ทำหลุดไป 2 ครั้งจากเหยื่อปลั้ก พอได้ฟังแบบนี้ ผมนี่คันไม้คันมือเลยครับ แถวนี้ยังอุดมสมบูรณ์อยู่ ปลาล่าเหยื่อ ๆ ใหญ่ ๆ ยังมีอยู่ ไม่ต่างจากฝั่งสีชังเลย
ทางฝั่งแหลมฉบัง สงสัยว่าฝั่งนั้นจะมีฝน เดี๋ยวก็คงตกมาถึงฝั่งนี้ละมั้ง
เรือน้อยใหญ่ลอยลำนิ่งสนิท ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นขยะลอยอยู่ แถวนี้ขยะเยอะก็จริง แต่ไม่กระจัดกระะจายเท่าที่ชะอำ อย่างน้อยก็ดูเป็นระเบียบกว่าละนะ
สองลำลอยเคียงข้าง มีเรือน้ำมันอยู่ข้างหลัง
คราวนี้ขึ้นมาบนวัดเกาะลอยกันหน่อย ผมเคยมาเกาะลอยก็จริง แต่ก็เพิ่งได้ขึ้นมาบนนี้ครั้งแรกนี่แหละครับ
ฝั่งแหลมฉบังฝนตกจริง ๆ นั่นแหละ เพราะถึงจะดูมัว ๆ แต่ก็ไม้ได้มัวซัวเหมือนตอนทริปสีชัง
หันมาดูฝั่งท่าเรือกันบ้าง เรือออกทุกชั่วโมงจริง ๆ ก็นะ นั่นคือเส้นทางสัญจรเส้นทางลำเลียงหลักของเกาะนี่นะ
อย่างน้อยวันนี้ก็พอหายใจได้โล่งกว่าเมื่อวันนั้น สูดหายใจลึก ๆ เฮ้อออออ สดชื่น
เช็กอินซะหน่อย เดี๋ยวลงไปหากาแฟซักแก้วดีกว่า
มาแวะจัดกาแฟฟที่นี่ครับ Garden@Sea Coffee อยู่ที่มุมสวนสุขภาพศรีราชา กาแฟอร่อยตามมาตรฐาน ราคาไม่แพง มีมัฟฟิ่นด้วย อาหย่อย~
เสร็จจากร้านกาแฟ ก็มาต่อกันที่สะพานปลาศรีราชา
หมู่หินตรงนี้ น่าจะมีพวกเก๋าป๊อดหรือปลาเก๋าเล็กอยู่
บรรยากาศดูใสขึ้นเยอะจริง ๆ นะ
แถวเรือหาปลาจากฟิล์ม
ข้อดีของเรือประมงบ้านเราก็คือ สีสวย ครับ ผมเคยไปญี่ปุ่นมา 2 ครั้ง เคยได้ไปทะเลที่นั่นมาทั้ง 2 ครั้งเลย เรือประมงบ้านเขาสีขาวเกือบขาวล้วน แล้วก็ไม่มีลวดลายอะไร มันก็ดูสะอาดดีแหละ แต่ผมว่ามันไม่ค่อยมีสีสันเลยอ่ะ
ตอนนี้ 9 โมงกว่า ๆ แล้ว เดี๋ยวเราย้อนกลับไปเขาสามมุขดีกว่า เดี๋ยวจะไปจัดมื้อเที่ยงที่นั่น
หาดบางแสนวันนั้นเขาปิดถนนครับเพราะเดี๋ยววันอาทิตย์ที่ 18 จะมีงานวิ่ง ผมเลยอดแวะหาดบางแสนเลย ไม่เป็นไร ขึ้นเขาสามมุขเลยดีกว่า
มาทุกครั้งก็ต้องแวะทุกครั้ง ลิงเยอะไม่เปลี่ยนจริง ๆ ยังดีที่ไอ้จ๋อหัวหลิมพวกนั้นมันสนใจแต่รถยนต์ มอไซค์มันก็หลบให้ดี ๆ แล้วเราก็มาถึงจุดชมวิวเขาสามมุข
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อย ดูเหมือนผมจะจับทางฟิล์ม Colorplus ได้แล้วครับ ไม่ว่าจะวัดแสงได้เท่าไหร่ ถ้าจะทดขึ้นหรือลงก็ไม่ควรทดมากเกินไป มันละคนเรื่องกับ Gold 200 เลยนะ เพราะตัวนั้นถ้าจะทดให้สว่างขึ้นแล้วทดมากเกินไป มันจะสว่างโร่เลย เที่ยงพอดีเลย เดี๋ยวเราไปกินข้าวกันดีกว่า
เรามาจัดมือเที่ยงกันที่นี่ครับ
ครัววังมุข
ผมมาคนเดียวก็เลยสั่งแค่นี้พอ ปูนิ่มนี่เป็นอะไรที่ต้องจัดทุกครั้งที่ได้มา
อิ่มแล้ว เดินถ่ายรูปเล่นกันหน่อยดีกว่า
สะพานปลาเขาสามมุข วันนี้พวกเขาคงโหลดของทะเลออกจากเรือหมดแล้ว ธรรมดาเวลาที่มาจะยังเห็นชาวบ้านเขาคัดของทะเลที่จับได้กันอยู่
หันไปดูฝั่งอ่างศิลา วันนี้น้ำน่าจะลงค่อนข้างช้า เที่ยงวันแล้วน้ำยังสูงอยู่เลย
ฝั่งเชิงเขาสามมุข
สองล้ำนี้ก็ยังอยู่ที่เดิม แสดงว่าทั้งสองลำนี้น่าจะเสียหายเกินกว่าจะคุ้มค่าซ่อม อันนี้ผมสงสัยนะ ในเมื่อเรือพังเกินซ่อมแล้ว ทำไมเขาไม่ลากไปแยกชิ้นส่วนขายล่ะ ถ้าท่านใดทราบก็คอมเม้นท์ไว้ได้เลยนะครับ
เอาละ ใกล้จะบ่ายแล้ว กลับดีกว่า แล้วผมก็ซัดรถรวดเดียว บุกป่าฝ่าดงรถติด ถึงบ้านด้วยความสวัสดิภาพ
และนั่นก็คือทั้งหมดของทริปแก้มือสั้น ๆ ทริปนี้ครับ สั้น ๆ แต่อิ่มเอม และจากทริปนี้ก็ทำให้ผมคิดอะไรได้อย่าวนึง
เอ หรือปลายปีนี้เราจะมาศรีราชาดีหว่า.... ผมเริ่มแพลนแล้วครับ ว่าถ้าทริปปลายปีนี้มาศรีราชา ผมจะไปไหนบ้าง หรือผมจะไปที่อื่นบ้างดี เพราะนี่ผมออกทริปใหญ่เป็นชายทะเลมา 2 ทริปติดหันแล้วนะ ควรต้องขึ้นเขาไปเที่ยวป่าเที่ยวดงซะหน่อยจะได้ไม่เลี่ยน แต่ก็อีกนั่นแหละ ขึ้นชื่อว่าติดใจซะอย่าง อีกสักรอบจะเป็นอะไรไป เนอะ 555
แล้วกันทริปหน้า สำหรับทริปนี้
สวัสดีครับ
[CR] บิดไปเรื่อย เหนื่อยก็พัก : เกาะลอยศรีราชา-เขาสามมุข ทริปสั้น ๆ ความเร็วสูง
สวัสดีครับทุกท่าน ผมพฤตเอง หลังจากที่พาแม่ไปเที่ยวเกาะสีชังก็ได้เวลาของทริปแก้มือจากอารมณ์ที่ยังค้างคาจากเมื่อครั้งทริปชะอำ-หาดเจ้าฯ ซึ่งจะเป็นยังไง จะสนุกมันส์ขนาดไหน ตามมาชมกันเลยครับ
จากเมื่อครั้งทริปสีชัง ระหว่างทางที่นั่งตุ๊ก ๆ จากท่าเรือเกาะลอยไปโรงแรม ผมก็สังเกตรอบ ๆ ครับ เอ้อ แถวนี้ก็น่าขับมอไซค์มาเที่ยวถ่ายรูปเล่นดีนะ แค่นั้นเลยครับ ฉนั้น เมื่อสองวันที่แล้ว หลังจากเด้งขึ้นจากเตียงเมื่อตอนตี 3 ครึ่ง ผมก็ควบเจ้าอาชาศึก MUSTANG R15 ออกสู่เส้นทางทันที บิดไปเรื่อย ๆ เช้า ๆ แบบนี้ถึงจะเป็นวันเสาร์ถนนก็โล่งดีจัง
จากบางใหญ่ บิดล่องลงมาตามถนนราชพฤกษ์ ก่อนเลี้ยวเข้าสาทร ทะลุไปพระโขนง เพื่อที่จะไปออกที่แยกบางนา เส้นนี้ใช้วิ่งขาไปตอนเช้ามืดดีมาก แต่ตอนขากลับนี่มุดรถติดเหนื่อยจริง ๆ สงสัยผมต้องมองหาเส้นทางเพิ่มซะหน่อยแล้วละซิ หลังจากที่วิ่งอยู่ใต้ทางด่วนมาสักพัก เมื่อเข้าเขตของจังหวัดฉะเชิงเทรา ผมก็ได้กลิ่นละอองฝน ก่อนแงนหน้าขึ้นไปดูเพื่อที่จะรู้ว่า ฝนตก เอ้อ เอาละสิ จากที่ดูพยากรณ์อากาศ วันที่ 17 จะมีฝนก็จริง แต่จะมีช่วงบ่าย ทั้งฝั่งบางใหญ่และฝั่งศรีราชา (ซึ่งปรากฏว่าวันนั้นบางใหญ่ก็ไม่มีฝนอยู่ดีครับ 555) หลังจากนี้ผมคงต้องดูพยากรณ์อากาศของจังหวัดที่ต้องผ่านด้วยเพื่อความชัว แต่ไม่เป็นไร ผมวิ่งอยู่ใต้ทางด่วน ไม่เปียกโดนแค่ละออง และในกระเป๋าก็มีผ้าเช็ดรถอยู่ (แต่ไม่มีเสื้อกันฝนนะ 555) หายห่วง ๆ
และแล้วเราก็มาถึงเกาะลอย ไม่ไกลอย่างที่คิด เลยจากชายทะเลบางพระมานิดหน่อย มาถึงตอนแสงแรกของวันเพิ่งส่องลงมาแต่แดดยังไม่ออก ได้อีกบรรยากาศ ฝุ่นยังดูหนาอยู่ก็จริง แต่ก็ดูเบาบางกว่าเมื่อตอนทริปสีชัง
มาดูรูปฟฟิล์มกันบ้าง ทริปนี้ผมเอากล้องมา 3 ตัว อีกแล้ว 1300D เป็นกล้องหลัก Canonet QL17 กับฟฟิล์ม Colorplus 200 เป็นกล้องอาร์ท และ IXUS 185 ในกระเป๋าเสื้อเป็นกล้องสแน็ปเหมือนเดิม
พระอทิตย์ขึ้นสูง เริ่มสว่างจริง ๆ แล้ว
จับยัดเลนซ์ซูมดูแปลงเลี้ยงหอยซะหน่อย น่าจะเลี้ยงไม่หอยแมลงผู้ก็หอยนางรมนะผมคิดว่า
ฝุ่นยังหนาอยู่ ถ้ามีลมพัดหน่อยก็น่าจะดีขึ้น หรือถ้าให้ดีก็คือมีฝนหนัก ๆ สักวันนึงจะดีมาก
เช็กอินสักเล็กน้อย
คราวนี้ขยับรถเข้ามาในตัวเกาะ เดินถ่ายรูปกันสักหน่อย
หันมาดูฝั่งโนโวเทล ฝั่งนี้ฝุ่นน้อยลง ใสขึ้นเยอะ
เจอเจ้าถิ่น ถึงจะเป็นชายฝั่งของแผ่นดินใหญ่ ที่นี่ก็ยังมีฝูงปลาเล็กว่ายกันให้ว่อนเลยครับ และเมื่อตอนที่อยู่บนสะะพานผมก็เจอนักตกปลาเจ้าถิ่นสองคนตีเหยื่อปลอมกัน ทีแรกผมนึกว่าไมโครจิ๊ก แต่ดูจากเหยื่อแล้ว พวกเขาตีเหยื่อปลั้กกัน พูดคุยสอบถามจนได้ความว่า ที่เกาะลอยนี่มีปลาล่าเหยื่อใหญ่ ๆ เข้าด้วย อย่างน้าเขาก็ทำหลุดไป 2 ครั้งจากเหยื่อปลั้ก พอได้ฟังแบบนี้ ผมนี่คันไม้คันมือเลยครับ แถวนี้ยังอุดมสมบูรณ์อยู่ ปลาล่าเหยื่อ ๆ ใหญ่ ๆ ยังมีอยู่ ไม่ต่างจากฝั่งสีชังเลย
ทางฝั่งแหลมฉบัง สงสัยว่าฝั่งนั้นจะมีฝน เดี๋ยวก็คงตกมาถึงฝั่งนี้ละมั้ง
เรือน้อยใหญ่ลอยลำนิ่งสนิท ถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นขยะลอยอยู่ แถวนี้ขยะเยอะก็จริง แต่ไม่กระจัดกระะจายเท่าที่ชะอำ อย่างน้อยก็ดูเป็นระเบียบกว่าละนะ
สองลำลอยเคียงข้าง มีเรือน้ำมันอยู่ข้างหลัง
คราวนี้ขึ้นมาบนวัดเกาะลอยกันหน่อย ผมเคยมาเกาะลอยก็จริง แต่ก็เพิ่งได้ขึ้นมาบนนี้ครั้งแรกนี่แหละครับ
ฝั่งแหลมฉบังฝนตกจริง ๆ นั่นแหละ เพราะถึงจะดูมัว ๆ แต่ก็ไม้ได้มัวซัวเหมือนตอนทริปสีชัง
หันมาดูฝั่งท่าเรือกันบ้าง เรือออกทุกชั่วโมงจริง ๆ ก็นะ นั่นคือเส้นทางสัญจรเส้นทางลำเลียงหลักของเกาะนี่นะ
อย่างน้อยวันนี้ก็พอหายใจได้โล่งกว่าเมื่อวันนั้น สูดหายใจลึก ๆ เฮ้อออออ สดชื่น
เช็กอินซะหน่อย เดี๋ยวลงไปหากาแฟซักแก้วดีกว่า
มาแวะจัดกาแฟฟที่นี่ครับ Garden@Sea Coffee อยู่ที่มุมสวนสุขภาพศรีราชา กาแฟอร่อยตามมาตรฐาน ราคาไม่แพง มีมัฟฟิ่นด้วย อาหย่อย~
เสร็จจากร้านกาแฟ ก็มาต่อกันที่สะพานปลาศรีราชา
หมู่หินตรงนี้ น่าจะมีพวกเก๋าป๊อดหรือปลาเก๋าเล็กอยู่
บรรยากาศดูใสขึ้นเยอะจริง ๆ นะ
แถวเรือหาปลาจากฟิล์ม
ข้อดีของเรือประมงบ้านเราก็คือ สีสวย ครับ ผมเคยไปญี่ปุ่นมา 2 ครั้ง เคยได้ไปทะเลที่นั่นมาทั้ง 2 ครั้งเลย เรือประมงบ้านเขาสีขาวเกือบขาวล้วน แล้วก็ไม่มีลวดลายอะไร มันก็ดูสะอาดดีแหละ แต่ผมว่ามันไม่ค่อยมีสีสันเลยอ่ะ
ตอนนี้ 9 โมงกว่า ๆ แล้ว เดี๋ยวเราย้อนกลับไปเขาสามมุขดีกว่า เดี๋ยวจะไปจัดมื้อเที่ยงที่นั่น
หาดบางแสนวันนั้นเขาปิดถนนครับเพราะเดี๋ยววันอาทิตย์ที่ 18 จะมีงานวิ่ง ผมเลยอดแวะหาดบางแสนเลย ไม่เป็นไร ขึ้นเขาสามมุขเลยดีกว่า
มาทุกครั้งก็ต้องแวะทุกครั้ง ลิงเยอะไม่เปลี่ยนจริง ๆ ยังดีที่ไอ้จ๋อหัวหลิมพวกนั้นมันสนใจแต่รถยนต์ มอไซค์มันก็หลบให้ดี ๆ แล้วเราก็มาถึงจุดชมวิวเขาสามมุข
มาดูรูปฟิล์มกันหน่อย ดูเหมือนผมจะจับทางฟิล์ม Colorplus ได้แล้วครับ ไม่ว่าจะวัดแสงได้เท่าไหร่ ถ้าจะทดขึ้นหรือลงก็ไม่ควรทดมากเกินไป มันละคนเรื่องกับ Gold 200 เลยนะ เพราะตัวนั้นถ้าจะทดให้สว่างขึ้นแล้วทดมากเกินไป มันจะสว่างโร่เลย เที่ยงพอดีเลย เดี๋ยวเราไปกินข้าวกันดีกว่า
เรามาจัดมือเที่ยงกันที่นี่ครับ ครัววังมุข
ผมมาคนเดียวก็เลยสั่งแค่นี้พอ ปูนิ่มนี่เป็นอะไรที่ต้องจัดทุกครั้งที่ได้มา
อิ่มแล้ว เดินถ่ายรูปเล่นกันหน่อยดีกว่า
สะพานปลาเขาสามมุข วันนี้พวกเขาคงโหลดของทะเลออกจากเรือหมดแล้ว ธรรมดาเวลาที่มาจะยังเห็นชาวบ้านเขาคัดของทะเลที่จับได้กันอยู่
หันไปดูฝั่งอ่างศิลา วันนี้น้ำน่าจะลงค่อนข้างช้า เที่ยงวันแล้วน้ำยังสูงอยู่เลย
ฝั่งเชิงเขาสามมุข
สองล้ำนี้ก็ยังอยู่ที่เดิม แสดงว่าทั้งสองลำนี้น่าจะเสียหายเกินกว่าจะคุ้มค่าซ่อม อันนี้ผมสงสัยนะ ในเมื่อเรือพังเกินซ่อมแล้ว ทำไมเขาไม่ลากไปแยกชิ้นส่วนขายล่ะ ถ้าท่านใดทราบก็คอมเม้นท์ไว้ได้เลยนะครับ
เอาละ ใกล้จะบ่ายแล้ว กลับดีกว่า แล้วผมก็ซัดรถรวดเดียว บุกป่าฝ่าดงรถติด ถึงบ้านด้วยความสวัสดิภาพ
และนั่นก็คือทั้งหมดของทริปแก้มือสั้น ๆ ทริปนี้ครับ สั้น ๆ แต่อิ่มเอม และจากทริปนี้ก็ทำให้ผมคิดอะไรได้อย่าวนึง เอ หรือปลายปีนี้เราจะมาศรีราชาดีหว่า.... ผมเริ่มแพลนแล้วครับ ว่าถ้าทริปปลายปีนี้มาศรีราชา ผมจะไปไหนบ้าง หรือผมจะไปที่อื่นบ้างดี เพราะนี่ผมออกทริปใหญ่เป็นชายทะเลมา 2 ทริปติดหันแล้วนะ ควรต้องขึ้นเขาไปเที่ยวป่าเที่ยวดงซะหน่อยจะได้ไม่เลี่ยน แต่ก็อีกนั่นแหละ ขึ้นชื่อว่าติดใจซะอย่าง อีกสักรอบจะเป็นอะไรไป เนอะ 555
แล้วกันทริปหน้า สำหรับทริปนี้ สวัสดีครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้