JJNY : อานนท์ ฝากลูก│“สิทธิพล” ยินดีคลังเตรียมทบทวนเก็บภาษีนำเข้า│แจงแล้ว ยื่นภาษีออนไลน์คลาดเคลื่อน│เซเลนสกีเดินสาย

อานนท์ ฝากลูก บอกลุงป้าน้าอาข้างนอกด้วย ว่า เราจะก้าวผ่าน ช่วงเวลาที่โหดร้ายนี้ไปด้วยกัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4429252
 
 
อานนท์ ฝากลูก บอกลุงป้าน้าอาข้างนอกด้วย ว่าเราจะก้าวผ่าน ช่วงเวลาที่โหดร้ายนี้ไปด้วยกัน
 
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 เฟซบุ๊ก ‘อานนท์ นำภา’ เปิดเผยจดหมายเขียน ด้วยลายมือจากนายอานนท์ ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งขณะนี้ถูกควบคุมตัวในเรือนจำพิเศษ กรุงเทพมหานคร จากคดีอาญา มาตรา 112 โดยระบุว่า
 
และแล้วฤดูกาลของการสอบปลายภาคก็มาถึง พ่ออยากให้ปราณมีความฝันและความหวัง ลงมือทำด้วยการมีสติ การสอบหมั่นก็แค่การวัดสิ่งที่เราเรียนมา แต่การเอาชนะความขี้เกียจอ่านหนังสือสำคัญกว่า อยากให้ปราณสอบปลายภาคด้วยความบันเทิง ความสุข
15 กุมภาพันธ์ 25567 ถึงปราณและอิสรานนท์ ลูกรัก
 
เจ้าขาลน่าจะได้เจอพ่อวันที่ 19 นี้ เราคงได้เล่นกันและกอดกันตามสมควรที่ศาล ส่วนปราณคงเป็นช่วงสอบปลายภาค ขอให้ปราณทำตามความฝันและความหวัง สอบปลายภาคด้วยความสุข ความบันเทิง สนุกกับชีวิต พ่อไม่เคยคาดหวังหรือกะเกณฑ์ ให้ลูกสอบได้ที่หนึ่ง พ่ออยากเห็นลูกมีความสุขกับการเรียน สอบแบบไม่สนโลก
 
มันเป็นความสุขมากๆ ถ้าคนเราได้ทำอะไรตามความคิด ความฝัน ชีวิตเรามันไม่ได้ยืดยาวขนาดนั้น ปราณจงเติบโตและใช้ชีวิตให้เต็มที่จะได้ไม่เสียดายเวลาที่ล่วงเลยไปแน่นอนการใช้ชีวิตมันอาจเจ็บปวดต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามาแต่จงสนุกกับมัน จงเป็นเหมือนต้นไม้ที่แม้จะถูกปลิดกิ่งก้าน แต่มันจะยิ่งทำให้ต้นไม้นั้นเติบโต แผ่กิ่งก้านสาขาได้มากกว่าเดิม
 
การต่อสู้ของคนรุ่นพ่อก็ผ่านและเผชิญอุปสรรคมาพอสมควร แต่พ่อเชื่อและทำตามความเชื่อ แล้วทุกอย่างก็จะผ่านไป ฝนตกมีวันหยุด พระอาทิตย์มีลงก็มีขึ้น และเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นตรงขอบฟ้าอีกครั้ง พืชพรรณธัญญา ดอกไม้ใบหญ้าก็จะงดงาม
 
ปราณช่วยบอกแม่และบรรดาลุงป้าน้าอาข้างนอกด้วยว่า ไม่ต้องห่วงพวกเราในนี้ พวกเราสัญญาว่าจะดูแลกัน ให้ก้าวผ่านช่วงเวลาที่โหดร้ายนี้ไปด้วยกัน

รักและคิดถึงลูก
อานนท์ นำภา
แดน 4
เรือนจำพิเศษกรุงเทพ

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02RNNn32GPoUHdYHE4kLPg1F6vWNq24Qzv2cAep96XK4319WAasWmxZmtR4FJYZAZPl&id=100000942179021



“สิทธิพล” ยินดีคลังเตรียมทบทวนเก็บภาษีนำเข้าสินค้า
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_677981/

“สิทธิพล” ยินดีคลังเตรียมทบทวนเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกรายการราคาไม่เกิน 1,500 บาท แนะเร่งแก้ประกาศกรมศุลกากร 191/2561 ต้นตอสินค้าต่างประเทศทะลักไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า-VAT เอาเปรียบผู้ประกอบการ
 
นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ให้ความเห็นต่อกรณีกระทรวงการคลังเตรียมพิจารณาทบทวนการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าราคาไม่เกิน 1,500 บาท และเตรียมพิจารณาแก้ไขประมวลรัษฎากร ยกเลิกการยกเว้นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สินค้านำเข้า เพื่อให้กรมสรรพากรดำเนินการจัดเก็บ VAT นำเข้าในทุกรายการสินค้าได้
 
การทบทวนมาตรการภาษีนี้เป็นเรื่องที่สมควรอย่างมากและควรทำในทันที เพราะเป็นประเด็นที่ตัวแทนผู้ประกอบการไทยเคยมาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจที่ตนเป็นประธาน มาตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งผู้ประกอบการไทยเคยเรียกร้องกับทางว่ารัฐบาลมานานแล้ว แต่ไม่เคยมีการแก้ไขผ่านมา 3-4 ปีแล้ว และวันนี้ปัญหาก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
 
ในวันที่การค้าออนไลน์และการค้าแพลตฟอร์มเติบโตขึ้น ผู้ประกอบการไทยคือผู้ที่ต้องเสียเปรียบมาโดยตลอด เกิดจากช่องว่างทางภาษีที่อนุญาตให้สินค้านำเข้าที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาทไม่ต้องเสีย VAT ขณะที่สินค้าไทยที่ขายอยู่ในร้านค้าคนไทยต้องจ่าย VAT ตั้งแต่บาทแรกของมูลค่าสินค้า
จากการประเมินของผู้ประกอบการที่มาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ ประเมินว่ามีคนไทยซื้อสินค้าและบริการออนไลน์สูงถึง 9 แสนล้านบาทต่อปี นี่คือปริมาณผลกระทบที่กำลังเกิดกับผู้ประกอบการเอกชน รวมถึงภาษีที่อาจจะสูญเสียไปที่รัฐไม่สามารถเก็บได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
 
นายสิทธิพล ยังระบุด้วยว่า ที่สำคัญที่สุด คือ มีข้อตกลงระหว่างประเทศที่อนุญาตให้เข้าผู้ประกอบการต่างชาติสามารถนำสินค้ามาพักในคลังสินค้า ที่เรียกว่า Free Trade Zone Distribution Center โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายภาษี ทำให้สามารถเอาสินค้าเข้ามากองไว้ก่อนในคลังสินค้า แล้วพอลูกค้าซื้อของค่อยส่งจากคลังสินค้าที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยเหล่านี้ เช่น ที่สมุทรปราการหรือชลบุรี
 
เมื่อประกอบกับกฎหมายที่อนุญาตให้สินค้ามูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทไม่ต้องเสียภาษีทั้งอากรนำเข้าหรือ VAT ก็ยิ่งทำให้สินค้าจากต่างประเทศยิ่งไม่ต้องเสียภาษีอะไรเลย ทั้งหมดนี้จึงเป็นเหตุผลให้สินค้าออนไลน์จากต่างชาติเข้ามาเอาเปรียบสินค้าไทย และทำให้นับวันสินค้าคนไทยยิ่งขายได้ยากขึ้น ทำให้เงินทุกบาทที่คนไทยซื้อของออนไลน์ไหลออกต่างประเทศ กระทบเศรษฐกิจไทยในภาพรวม นับวันยิ่งเงินหมุนเวียนในประเทศลดลง กระทบการจ้างงาน และกระทบไปถึงการลงทุนด้วย
 
ถ้าวันนี้ไปเปิดดูในแพลตฟอร์มชอปปิ้งทั้งหลาย จะพบได้ว่าสินค้าราคาต่ำกว่า 1,500 บาทมีปริมาณเฉลี่ยถึง 95% ของสินค้าทั้งหมด เพราะฉะนั้นเรียกได้ว่าสินค้าเกือบทั้งหมดที่ขายอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ล้วนแต่ได้รับการยกเว้นภาษี ขณะที่สินค้าไทยทั้งหมดถูกปฏิบัติในอีกแบบหนึ่ง คือต้องจ่ายภาษี เป็นความอยุติธรรมจริงๆ
 
ในฐานะที่พรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านเชิงรุกที่อยากให้รัฐบาลทำงานได้ง่ายขึ้น เราจึงเสนอว่าต้นเหตุของปัญหาที่ต้องมีการแก้ไขในทันที คือประกาศกรมศุลกากรที่ 191/2561 ระบุหลักเกณฑ์ของนำเข้าที่ได้รับการยกเว้นอากร ซึ่งประกาศนี้คือต้นตอที่เป็นปัญหาที่ฆ่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในรอบหลายปีที่ผ่านมา เพราะระบุอนุญาตให้สินค้ามูลค่าไม่เกิน 1,500 บาทได้รับการยกเว้นอากร ซึ่งถ้ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็คือนายกรัฐมนตรีอยากแก้ปัญหานี้ มีอำนาจสามารถทำได้ทันทีด้วยการแก้ประกาศกรมศุลกากร เป็นเหมือนกุญแจดอกแรก
 
แต่ทั้งนี้ ยังมีประมวลรัษฎากร มาตรา 81 (2) (ค) กำหนดให้ของที่ได้รับการยกเว้นอากรตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากรได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มไปด้วย ทำให้ของที่เข้าข่ายมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาทจึงได้รับการยกเว้น VAT ไปด้วย ซึ่งประมวลรัษฎากรนี้กระบวนการแก้ไขทำได้ยากกว่าและต้องใช้เวลา
 
ขณะเดียวกัน ตนดีใจและมีความคาดหวังว่านายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่กำกับดูแลกรมศุลกากรโดยตรงจะสามารถแก้ปัญหานี้ได้ทันที เพราะเป็นปัญหาที่ผู้ค้าเอสเอมอีชาวไทยถูกเอารัดเอาเปรียบและเผชิญความไม่เท่าเทียมจากกฎหมายมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือหรือแก้ไข พวกเขาจึงควรได้รับการช่วยเหลือทันที ไม่ควรล่าช้าไปกว่านี้แล้ว


 
สรรพากรแจงแล้ว ยื่นภาษีออนไลน์คลาดเคลื่อน ข้อมูลรายได้ไม่ถูก คนโดนกันเพียบ
https://www.khaosod.co.th/economics/news_8100600

สรรพากรแจงแล้ว ยื่นภาษีออนไลน์คลาดเคลื่อน เพราะปรับปรุงระบบ ตอนนี้แก้ไขแล้ว ยื่นได้ตามปกติ
 
จากกรณีที่โซเชี่ยลมีเดีย เปิดเผยข้อมูลการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2566 ผ่านออนไลน์ ในระบบ myTax Account ของกรมสรรพากร โดยปรากฎ ว่า พบข้อมูลรายได้ไม่ถูก ทำให้เกิดความสับสนเป็นวงกว้าง ในวันที่ 16 ก.พ. ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันที่ 17 ก.พ. 67 นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า เนื่องจากกรมสรรพากรมีการปรับปรุงระบบใหม่ในวันที่ 16 ก.พ. 2567 ตั้งแต่ 18.00. น ทำให้มีข้อมูลบางรายการคลาดเคลื่อนบนระบบ myTax Account ขณะนี้กรมสรรพากรแก้ไขเรียบร้อยแล้ว และผู้เสียภาษีสามารถยื่นแบบได้ตามปกติ กรมสรรพากรจึงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่