https://mgronline.com/qol/detail/9670000013738
“คนไทยพิทักษ์สิทธิ์” เรียกร้อง กมธ.สาธารณสุข สภาผู้แทนฯ ชี้แจงความคืบหน้าการหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทย ที่เชื่อมโยงกับวัคซีน mRNA หลังทางกลุ่มเข้าให้ข้อมูล กมธ. แต่ยังไม่เห็นการดำเนินการที่ชัดเจน
วันนี้(14 ก.พ.) กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์เขียนจดหมายเปิด ถึงนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ ประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข เรื่อง ขอติดตามการดำเนินการเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทยตามที่นำเสนอต่อคณะกรรมาธิการ การสาธารณสุข เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ มีเนื้อหาดังนี้
ตามที่กรรมาธิการการสาธารณสุข ของรัฐสภาได้เชิญกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องซึ่งประกอบไปด้วย กรมควบคุมโรค สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้เข้าไปชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับ mRNA vaccine และการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ นั้น ในการประชุมดังกล่าวได้มีการตั้งข้อสงสัยหลายประการให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจง แต่เนื่องจากเวลาที่จัดสรรให้กับเรื่องการเสียชีวิตของคนไทยมีจำนวนจำกัด ทำให้หน่วยงานเหล่านั้นมิได้ตอบข้อสงสัยตามรายละเอียดด้านล่างนี้ในที่ประชุม
ad
๑. การตั้งข้อสงสัยว่ายาฉีด mRNA เป็นพันธุกรรมบำบัด (Gene Therapy มิใช่วัคซีน)
๒. การที่ อย.ไม่ให้ความสนใจว่าเมื่อฉีดยาฉีด mRNA ที่อ้างว่าเป็นวัคซีนเข้าสู่ร่างกายแล้ว ยาฉีดดังกล่าวจะกระจายไปยังอวัยวะส่วนใดบ้างในร่างกาย และอยู่ในร่างกายนานเท่าใด
๓. การที่ อย.ไม่สนใจว่ายาฉีด mRNA จะเข้าไปปรับเปลี่ยนพันธุกรรมมนุษย์หรือไม่
๔. การที่ อย.ไม่สนใจว่ายาฉีด mRNA จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งหรือไม่
๕. การที่ อย.ไม่สนใจว่ายาฉีด mRNA จะก่อผลกระทบกับทารกในครรภ์มารดาหรือไม่
๖. การที่ อย.มีพฤติกรรม เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยา โดยมีการต่ออายุให้กับยาฉีดที่คงค้างอยู่ในสต๊อก และมีการปกปิดข้อมูลแผนความเสี่ยงและฐานข้อมูลการลงทะเบียนผู้ฉีดยา mRNA เพื่อติดตามผลข้างเคียง
๗. การที่กรมควบคุมโรคไม่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนในใบยินยอมที่ให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอมให้เด็กและเยาวชนรับวัคซีนโควิด
๘. การที่กรมควบคุมโรคปกปิดข้อเท็จจริงว่า “ยังไม่ทราบผลกระทบในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดยาฉีด mRNA”
๙. การที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติยอมรับว่า ยังไม่ได้ทำการทดสอบว่ายาฉีด mRNA ก่อให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาวเช่นใดบ้าง แต่กลับบอกว่ายาฉีดเหล่านั้นปลอดภัย
๑๐. การหาสาเหตุการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย ทั้งที่การระบาดของโรคโควิดยุติลงแล้ว ทั้งนี้มีการเสนอให้ทำการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการเสียชีวิตที่ผิดปกติกับการรับวัคซีน mRNA โดยกรมควบคุมโรคจะรับไปดำเนินการ
๑๑. ท่านสามารถรับชมการนำเสนอข้อมูล/ข้อสงสัยที่นำเสนอใน กรรมาธิการการสาธารณสุขได้ที่ลิ้งค์
https://rumble.com/v4bmro6-title-health-uncensored-by-dr.atapol-test-draft-1-.html?
๑๒. สามารถดาวน์โหลดข้อมูลเอกสารต่างๆได้ที่ ฐานข้อมูลเอกสารที่กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นต่อกรรมาธิการการสาธารณสุขได้ที่ลิ้งค์
การเพิ่มขึ้นของอัตราการเสียชีวิตชองคนไทยอย่างผิดปกติติดต่อกันเป็นเวลาสามปีเป็นเรื่องสำคัญที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรรมาธิการการสาธารณสุข สมควรจัดเป็นวาระสำคัญของชาติ การเสียชีวิตอย่างผิดปกติดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบร้อยปี โดยก่อนหน้าการระบาดของโรคโควิด-๑๙ ค่าเฉลี่ยอัตราการเสียชีวิตของคนไทยอยู่ที่ ๔๗๗,๐๙๘ รายต่อปี ในปี ๒๕๖๓ ที่เริ่มมีการระบาดของโรคโควิด-๑๙ คนไทยเสียชีวิตรวม ๕๐๑,๔๓๘ ราย ในปี ๒๕๖๔ ที่มีการระบาดของโรครุนแรงที่สุด คนไทยเสียชีวิตรวม ๕๖๓,๖๕๐ ราย ในปี ๒๕๖๕ คนไทยเสียชีวิตรวม ๕๙๕,๙๖๕ ราย สูงขึ้นอย่างมากทั้งที่การระบาดลดความรุนแรงลงจนมีการยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน ในปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา การระบาดยุติลง ทั้งปีมีผู้เสียชีวิตจากโควิดเพียง ๘๓๗ ราย แต่คนไทยเสียชีวิตจากทุกสาเหตุรวมกันถึง ๕๖๕,๙๙๒ ราย มากกว่าค่าเฉลี่ยก่อนการระบาดถึงร้อยละ ๑๙
ทั้งนี้ในระหว่างปี ๒๕๖๔ ต่อ ๒๕๖๕ เป็นปีที่มีการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีน mRNA เป็นจำนวนมาก
การสืบสวนเพื่อหาความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีน mRNA กับการตายที่ผิดปกติจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ เป็นที่น่าเศร้าใจที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้อ้างว่าจะเข้ามาทำหน้าที่รับใช้ประชาชนกลับไม่สนใจที่จะหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทย
จี้ กมธ.สธ.แถลงคืบหน้าสืบหาสาเหตุการตายของคนไทยที่เชื่อมโยงวัคซีน mRNA
“คนไทยพิทักษ์สิทธิ์” เรียกร้อง กมธ.สาธารณสุข สภาผู้แทนฯ ชี้แจงความคืบหน้าการหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทย ที่เชื่อมโยงกับวัคซีน mRNA หลังทางกลุ่มเข้าให้ข้อมูล กมธ. แต่ยังไม่เห็นการดำเนินการที่ชัดเจน
วันนี้(14 ก.พ.) กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์เขียนจดหมายเปิด ถึงนายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ ประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข เรื่อง ขอติดตามการดำเนินการเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทยตามที่นำเสนอต่อคณะกรรมาธิการ การสาธารณสุข เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ มีเนื้อหาดังนี้
ตามที่กรรมาธิการการสาธารณสุข ของรัฐสภาได้เชิญกลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องซึ่งประกอบไปด้วย กรมควบคุมโรค สถาบันวัคซีนแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้เข้าไปชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับ mRNA vaccine และการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๗ นั้น ในการประชุมดังกล่าวได้มีการตั้งข้อสงสัยหลายประการให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ชี้แจง แต่เนื่องจากเวลาที่จัดสรรให้กับเรื่องการเสียชีวิตของคนไทยมีจำนวนจำกัด ทำให้หน่วยงานเหล่านั้นมิได้ตอบข้อสงสัยตามรายละเอียดด้านล่างนี้ในที่ประชุม
ad
๑. การตั้งข้อสงสัยว่ายาฉีด mRNA เป็นพันธุกรรมบำบัด (Gene Therapy มิใช่วัคซีน)
๒. การที่ อย.ไม่ให้ความสนใจว่าเมื่อฉีดยาฉีด mRNA ที่อ้างว่าเป็นวัคซีนเข้าสู่ร่างกายแล้ว ยาฉีดดังกล่าวจะกระจายไปยังอวัยวะส่วนใดบ้างในร่างกาย และอยู่ในร่างกายนานเท่าใด
๓. การที่ อย.ไม่สนใจว่ายาฉีด mRNA จะเข้าไปปรับเปลี่ยนพันธุกรรมมนุษย์หรือไม่
๔. การที่ อย.ไม่สนใจว่ายาฉีด mRNA จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งหรือไม่
๕. การที่ อย.ไม่สนใจว่ายาฉีด mRNA จะก่อผลกระทบกับทารกในครรภ์มารดาหรือไม่
๖. การที่ อย.มีพฤติกรรม เอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทยา โดยมีการต่ออายุให้กับยาฉีดที่คงค้างอยู่ในสต๊อก และมีการปกปิดข้อมูลแผนความเสี่ยงและฐานข้อมูลการลงทะเบียนผู้ฉีดยา mRNA เพื่อติดตามผลข้างเคียง
๗. การที่กรมควบคุมโรคไม่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วนในใบยินยอมที่ให้ผู้ปกครองเซ็นยินยอมให้เด็กและเยาวชนรับวัคซีนโควิด
๘. การที่กรมควบคุมโรคปกปิดข้อเท็จจริงว่า “ยังไม่ทราบผลกระทบในระยะยาวที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดยาฉีด mRNA”
๙. การที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติยอมรับว่า ยังไม่ได้ทำการทดสอบว่ายาฉีด mRNA ก่อให้เกิดผลข้างเคียงในระยะยาวเช่นใดบ้าง แต่กลับบอกว่ายาฉีดเหล่านั้นปลอดภัย
๑๐. การหาสาเหตุการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติของคนไทย ทั้งที่การระบาดของโรคโควิดยุติลงแล้ว ทั้งนี้มีการเสนอให้ทำการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการเสียชีวิตที่ผิดปกติกับการรับวัคซีน mRNA โดยกรมควบคุมโรคจะรับไปดำเนินการ
๑๑. ท่านสามารถรับชมการนำเสนอข้อมูล/ข้อสงสัยที่นำเสนอใน กรรมาธิการการสาธารณสุขได้ที่ลิ้งค์
https://rumble.com/v4bmro6-title-health-uncensored-by-dr.atapol-test-draft-1-.html?
๑๒. สามารถดาวน์โหลดข้อมูลเอกสารต่างๆได้ที่ ฐานข้อมูลเอกสารที่กลุ่มคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นต่อกรรมาธิการการสาธารณสุขได้ที่ลิ้งค์
การเพิ่มขึ้นของอัตราการเสียชีวิตชองคนไทยอย่างผิดปกติติดต่อกันเป็นเวลาสามปีเป็นเรื่องสำคัญที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรรมาธิการการสาธารณสุข สมควรจัดเป็นวาระสำคัญของชาติ การเสียชีวิตอย่างผิดปกติดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในรอบร้อยปี โดยก่อนหน้าการระบาดของโรคโควิด-๑๙ ค่าเฉลี่ยอัตราการเสียชีวิตของคนไทยอยู่ที่ ๔๗๗,๐๙๘ รายต่อปี ในปี ๒๕๖๓ ที่เริ่มมีการระบาดของโรคโควิด-๑๙ คนไทยเสียชีวิตรวม ๕๐๑,๔๓๘ ราย ในปี ๒๕๖๔ ที่มีการระบาดของโรครุนแรงที่สุด คนไทยเสียชีวิตรวม ๕๖๓,๖๕๐ ราย ในปี ๒๕๖๕ คนไทยเสียชีวิตรวม ๕๙๕,๙๖๕ ราย สูงขึ้นอย่างมากทั้งที่การระบาดลดความรุนแรงลงจนมีการยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน ในปี ๒๕๖๖ ที่ผ่านมา การระบาดยุติลง ทั้งปีมีผู้เสียชีวิตจากโควิดเพียง ๘๓๗ ราย แต่คนไทยเสียชีวิตจากทุกสาเหตุรวมกันถึง ๕๖๕,๙๙๒ ราย มากกว่าค่าเฉลี่ยก่อนการระบาดถึงร้อยละ ๑๙
ทั้งนี้ในระหว่างปี ๒๕๖๔ ต่อ ๒๕๖๕ เป็นปีที่มีการรณรงค์ให้ฉีดวัคซีน mRNA เป็นจำนวนมาก
การสืบสวนเพื่อหาความเชื่อมโยงระหว่างวัคซีน mRNA กับการตายที่ผิดปกติจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ เป็นที่น่าเศร้าใจที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้อ้างว่าจะเข้ามาทำหน้าที่รับใช้ประชาชนกลับไม่สนใจที่จะหาสาเหตุของการเสียชีวิตอย่างผิดปกติของคนไทย