ผมควรจัดการความคิดตัวเองยังไงดีครับ
ปัจจุบันผมอายุ 30 แล้วครับ
ทำงานอยู่ในกทม เงินเดือนเกือบๆ 30 เรื่องของเรื่องก็คือตลอดเวลาที่ผ่านมา
ด้วยเรื่องราวๆหลายๆอย่างที่เจอตอนนี้ก็ไม่มีเงินเก็บเพราะต้องเคลียปัญหาบางอย่าง
ก็เดือนชนเดือนมาตลอด จะมีหลายๆช่วงที่เจอมรสุมทางการเงินเข้ามา เช่นเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ โยกย้ายงาน
ก็ต้องให้พ่อแม่ช่วยเหลือเรื่องเงินอยู่ตลอด ถึงแม่ว่าทางบ้านก็ไม่ค่อยจะคล่องด้านการเงินเท่าไหร่
และในเร็วๆนี้ผมจำเป็นต้องทำธุระที่ต่างจังหวัดซึ่งเป็นจังหวัดห่างไกลและจำเป็นต้องใช้รถ
ผมมีรถเก่าๆของผมสภาพมันไม่ค่อยดีครับ ซึ่งพอพ่อแม่รู้ว่าจะต้องไปต่างจังหวัดไกล ก็นำรถไปซ่อม
ซึ่งส่วนตัวผมไม่อยากให้ซ่อมจนรถสมบูรณ์แบบเพราะทราบดีว่ารถมีปัญหาเยอะ
แต่ถ้าซ่อมค่าซ่อมก็จะแพง ระดับนึงเลย อยากให้ซ่อมแค่พอขับไปได้แบบพอใช้ได้
แต่หลังจากที่นำกลับไปพ่อแม่ก็นำไปซ่อมซึ่งก็ซ่อมจนเสียเงินไปหลายหมื่น
สิ่งที่ผมรู้สึกในตอนนี้คือเรารู้สึกว่าเราทราบสถานะทางการเงินของครอบครัว
และเรารู้สึกว่าจริงๆมันควรเป็นความรับผิดชอบของเรา แต่เรากลับรับผิดชอบอะไรไม่ได้ จะเอารถไปซ่อมเอง งานก็ลาไม่ได้
จะออกค่าซ่อมเงินก็ไม่มี เงินที่เคยยืมพ่อแม่มาก็ตลอดคืนทุกเดือน
แล้วมาถึงการซ่อมรถครั้งนี้ก็อีกหลายหมื่น เรารู้สึกเราไม่สามารถรับผิดชอบอะไรที่เป็นของตัวเองได้เลย
เรารู้สึกแย่มากๆ อายุก็เข้า 30 ไปแล้ว เดือนๆนึงยังอยู่ได้แค่เดือนชนเดือน
นั่งทำบัญชี ค่าหอ ค่าเดินทาง ค่ากินรายวัน ค่าหนี้ ก็ไม่เหลือเก็บแล้ว รู้สึกเสียใจทุกครั้งที่ยังต้องพึ่งพ่อแม่อยู่
จัดการความคิดและความรู้สึกตัวเองยังไงดีครับ
ปัจจุบันผมอายุ 30 แล้วครับ
ทำงานอยู่ในกทม เงินเดือนเกือบๆ 30 เรื่องของเรื่องก็คือตลอดเวลาที่ผ่านมา
ด้วยเรื่องราวๆหลายๆอย่างที่เจอตอนนี้ก็ไม่มีเงินเก็บเพราะต้องเคลียปัญหาบางอย่าง
ก็เดือนชนเดือนมาตลอด จะมีหลายๆช่วงที่เจอมรสุมทางการเงินเข้ามา เช่นเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ โยกย้ายงาน
ก็ต้องให้พ่อแม่ช่วยเหลือเรื่องเงินอยู่ตลอด ถึงแม่ว่าทางบ้านก็ไม่ค่อยจะคล่องด้านการเงินเท่าไหร่
และในเร็วๆนี้ผมจำเป็นต้องทำธุระที่ต่างจังหวัดซึ่งเป็นจังหวัดห่างไกลและจำเป็นต้องใช้รถ
ผมมีรถเก่าๆของผมสภาพมันไม่ค่อยดีครับ ซึ่งพอพ่อแม่รู้ว่าจะต้องไปต่างจังหวัดไกล ก็นำรถไปซ่อม
ซึ่งส่วนตัวผมไม่อยากให้ซ่อมจนรถสมบูรณ์แบบเพราะทราบดีว่ารถมีปัญหาเยอะ
แต่ถ้าซ่อมค่าซ่อมก็จะแพง ระดับนึงเลย อยากให้ซ่อมแค่พอขับไปได้แบบพอใช้ได้
แต่หลังจากที่นำกลับไปพ่อแม่ก็นำไปซ่อมซึ่งก็ซ่อมจนเสียเงินไปหลายหมื่น
สิ่งที่ผมรู้สึกในตอนนี้คือเรารู้สึกว่าเราทราบสถานะทางการเงินของครอบครัว
และเรารู้สึกว่าจริงๆมันควรเป็นความรับผิดชอบของเรา แต่เรากลับรับผิดชอบอะไรไม่ได้ จะเอารถไปซ่อมเอง งานก็ลาไม่ได้
จะออกค่าซ่อมเงินก็ไม่มี เงินที่เคยยืมพ่อแม่มาก็ตลอดคืนทุกเดือน
แล้วมาถึงการซ่อมรถครั้งนี้ก็อีกหลายหมื่น เรารู้สึกเราไม่สามารถรับผิดชอบอะไรที่เป็นของตัวเองได้เลย
เรารู้สึกแย่มากๆ อายุก็เข้า 30 ไปแล้ว เดือนๆนึงยังอยู่ได้แค่เดือนชนเดือน
นั่งทำบัญชี ค่าหอ ค่าเดินทาง ค่ากินรายวัน ค่าหนี้ ก็ไม่เหลือเก็บแล้ว รู้สึกเสียใจทุกครั้งที่ยังต้องพึ่งพ่อแม่อยู่