สวัสดีค่ะ เรื่องที่ 37 วันนี้เป็นหนังสือเก่าอีกแล้ว เล่มนี้แมวอ้วนชอบมาก ถือว่าเป็นวรรณกรรมคลาสสิกอีกเรื่องก็ว่าได้ ภาษาอังกฤษไม่ยากมากค่ะ บางครั้งเห็นจัดอยู่ในหมวดวรรณกรมเยาวชน

The Book Thief  เขียนโดย  Markus Zusak
จำนวนหน้า 550 หน้า
แปลไทย ชื่อ จอมโจรขโมยหนังสือ

มีเป็นภาพยนตร์

🌹ความตาย ในฐานะผู้เล่าเรื่องของหนังสือเล่มนี้
ครั้งแรกที่เขาเห็นจอมโจรขโมยหนังสือ(Liesel) คือบนรถไฟ ครั้งต่อมาคือตอนที่เขามาหานักบินที่เครื่องบินชนและครั้งที่สามคือหลังจากการทิ้งระเบิด

เขาเชื่อมโยงสีกับการพบกันแต่ละครั้ง: ขาว แดง และดํา ซึ่งเป็นสีของธงนาซี

ความตายเริ่มเล่าเรื่องของ Liesel แม่ของเธอ และ Werner น้องชายของเธอ กําลังเดินทางบนรถไฟไปมิวนิก  Werner เสียชีวิตอย่างกะทันหัน Liesel และแม่ของเธอต้องลงจากรถไฟเพื่อฝังศพ
Liesel ขโมยหนังสือจากสัปเหร่อ
เธอและแม่เดินทางต่อไปยังเมืองMolching ซึ่ง Liesel จะไปอยู่กับพ่อแม่บุญธรรม Hans และ Rosa Hubermann

ตอนแรก Liesel ไม่ชอบพ่อแม่บุญธรรมของเธอ แต่ต่อมาความคิดก็เปลี่ยนไป

Liesel ค่อยๆ ปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่
เธอมักถูกรบกวนด้วยฝันร้ายเรื่องการเสียชีวิตของน้องชาย

เธอเป็นเพื่อนกับเด็กชายชื่อ Rudy ซึ่งชื่นชอบนักกีฬาชาวอเมริกัน Jesse Owens  

Hans เริ่มสอนให้เธออ่าน

สถานการณ์ทางการเมืองใน Molching และเยอรมนีรุนแรงขึ้น โดยสงคราม การขาดแคลนอาหารและ ในเมืองจัดงานเผาหนังสือเพื่อฉลองวันเกิดของฮิตเลอร์ Liesel ขโมยหนังสืออีกเล่มจากกองไฟ

Liesel ช่วยงานส่งผ้าให้ Rosa ซึ่งรับจ้างซักผ้า หนึ่งในลูกค้าของ Rosa คือ Ilsa Hermann ภรรยาของนายกเทศมนตรีFrau Hermann  วันหนึ่งเธอชวน Liesel ให้เข้าไปอ่านหนังสือในห้องสมุด

เวลาเดียวกัน ใน Stuttgart ชาวยิวชื่อ Max ซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าที่ไม่มีอาหาร หรือน้ํา จากนั้นหลบหนีขึ้นรถไฟไปที่บ้านของ Hubermanns
Hans เคยรู้จักกับพ่อของ Max ในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง หลังจากที่พ่อของMax เสียชีวิต Hans สัญญากับแม่ของMax ว่าเขาจะช่วยเธอเสมอ
เมื่อ Max มาถึง Molching
Hans และ Rosa ซ่อนเขาไว้ในห้องใต้ดิน เขาและ Liesel กลายเป็นเพื่อนกัน และ Max เขียนหนังสือให้เธอ จากกระดาษเก่า

Frau Hermann บอก Liesel ว่าเธอไม่ต้องส่งผ้าอีกต่อไป Liesel โกรธมากเพราะครอบครัวของเธอกําลังลำบากและ Hermanns ไม่ขัดสนอะไร

ด้วยความช่วยเหลือของ Rudy  Liesel แอบเข้าไปในห้องสมุดของ Hermanns และขโมยหนังสือ

คริสต์มาส Liesel สร้างตุ๊กตาหิมะให้ Max ในห้องใต้ดิน ต่อมาเขาป่วยและอาการโคม่า พวกเขากังวลว่าจะกําจัดศพอย่างไรถ้าเขาตาย
หลายเดือนผ่านไป  Max ก็ฟื้นตัวขึ้น มีทหารนาซีมาตรวจสอบห้องใต้ดินเพื่อดูว่าลึกพอที่หลบระเบิดหรือไม่ โชคดีที่พวกเขาไม่เห็น Max

Liesel ยังคงขโมยหนังสือจากห้องสมุดของ Hermanns ซึ่งมีหนังสือทิ้งไว้ให้เธอพร้อมโน้ตที่บอกว่าเธอรู้ว่า Liesel มา

ฝ่ายสัมพันธมิตรเริ่มทิ้งระเบิดใกล้ Molching และผู้คนต้องหลบภัยในห้องใต้ดินของเพื่อนบ้านที่มี แต่ละครั้ง Liesel จะอ่านหนังสือให้พวกเขาฟังจนกว่าจะปลอดภัยที่จะออกไปได้

เมื่อสงครามรุนแรงขึ้น ทหารนาซีเดินขบวนพานักโทษชาวยิวผ่านเมืองไปยังค่ายกักกันที่ดาเคา เมื่อ Hans เห็นชายชราคนหนึ่ง เขาก็ให้ขนมปังชิ้นหนึ่ง ทหารนาซีเข้ามาและเฆี่ยนทั้งชายชราและHans
Hans ตระหนักว่า Max ไม่ปลอดภัยในห้องใต้ดินอีกต่อไป

คืนนั้น Max ออกจากบ้านไป

ต่อมา Alex พ่อของ Ruby และ Hans ถูกเกณฑ์ทหารเข้ากองทัพเยอรมัน

Rosa ให้หนังสือที่ Max ทำขึ้นชื่อ "The Word Shaker" แก่ Liesel เป็นเรื่องราวของมิตรภาพของ Max และ Liesel และสัญญาว่าพวกเขาจะพบกันอีก

Hans ถูกส่งไปยัง Essen และเกิดอุบัติเหตุขาหัก จึงถูกส่งกลับบ้านเพื่อพักฟื้น

หลังจากการโจมตีทางอากาศLiesel และ Rudy พบนักบินรบฝ่ายสัมพันธมิตร พวกเขาเห็นนักบินตาย ความตายเห็น Liesel เป็นครั้งที่สองเมื่อเขามาเก็บวิญญาณของนักบิน
นาซียังคงพาขบวนชาวยิวผ่าน Molching และ Liesel เห็น Max ท่ามกลางนักโทษ

Liesel บอก Rudy เกี่ยวกับการซ่อนตัวของ Max ซึ่งเธอไม่เคยเปิดเผยให้ใครรู้

Ilsa ให้สมุดบันทึกแก่ Liesel เพื่อเธอจะได้เขียนเรื่องราวของเธอเอง

คืนหนึ่ง ขณะที่ Liesel อยู่ในห้องใต้ดินกำลังเขียนหนังสือ แถวบ้านของเธอถูกทิ้งระเบิด Hans, Rosa, Rudy และเพื่อนบ้านตาย

เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยดึง Liesel ออกจากซากปรักหักพัง เธอพบศพของ Rudy และจูบเขาซึ่งเป็นสิ่งที่เขาต้องการมาโดยตลอด

เมื่อเธอถูกพาไป เธอทิ้งหนังสือที่เขียนเสร็จแล้วไว้ชื่อ "The Book Thief"

ความตายที่เฝ้าดูอยู่และเก็บหนังสือไว้

Liesel ไปอยู่กับนายกเทศมนตรีและภรรยาของเขา
หลังจากได้รับการปล่อยตัว Max กลับไปที่ Molching และพบ Liesel

ในที่สุด Liesel เติบโตขึ้นและย้ายไปออสเตรเลีย เธอมีครอบครัวและใช้ชีวิตจนถึงวัยชรา ความตายมาถึงเพื่อรับเอาวิญญาณของเธอไป เขาให้เธอดูหนังสือที่เธอเขียนไว้เมื่อหลายปีก่อน

😻จบแล้วค่ะ แอบมีน้ำตาตอนอ่านอยู่เหมือนกัน เป็นเรื่องความโหดร้ายของสงคราม ที่ยังมีสิ่งสวยงามแทรกอยู่
มีความสุขในการอ่านค่ะ😻