ชีวิตของคนอัปยศ

มีวันนึงผมได้คุยกับพี่ที่รู้จักตามปกติสนุกเฮฮา ได้เปิดประเด็นคุยกันเรื่องชีวิตตอนเด็กๆ ผมได้เล่าว่าตอนเด็กๆผมโดนทำร้ายจากเพื่อนในห้อง โดนบูลลี่ โดนเเกล้งต่างๆนาๆให้เเกฟังเเต่มันมีอยู่เรื่องนึงที่ผมไม่ได้เล่าเเต่จะมาโพสต์ในนี้เเทน 
คือมันมีครั้งนึงที่มันไม่ไหว อารมณ์มันระเบิดออกมา ผมได้กระทำการบีบคอเพื่อนในห้องผมเอง จนเเทบจะขาดอากาศหายใจ หน้ามันเเดงกล่ำ ดิ้นทุรนทุรายคามือผมเอง มันชื่อเต้ย ผมเเทบจะฆ่าคนตายในช่วงประถม ชั้นป.4 มันตัวเล็กกว่าผม เเต่มันมีเพื่อนเยอะ ผมตัวโตกว่า เเต่ผมไม่ได้สู้ใคร หลังจากนั้น ผมก็ไม่เคยเหมือนเดิมอีกเลย ไม่ไว้ใจใคร ไม่เชื่อใจใคร ชื่นชอบในการใช้ความรุนเเรงเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มทำร้ายเพื่อนในห้องเรียนช่วงมัธยม อาละวาดหน้าเเถว ทำเรื่องชั่วๆมาก็เยอะ ผ่าท้องหนูที่จับได้ ฆ่าไก่ฆ่าสัตว์สารพัด เพียงเเค่ตอบสนองตัวเองเเละคิดเเต่ว่ามันสมควรโดน เคยวางยาคนในบ้านโดยใส่ลงในน้ำดื่ม คิดจะฆ่าพ่อเลี้ยงตัวเองทุกวัน 
โตมาถึงได้รู้ว่าตัวผมเองเลวยิ่งกว่าไอ้เต้ยด้วยซ้ำ ผมตรวจพบว่าตัวเองเป็นโรคประสาทในช่วงปวช.ไปหาหมอจนถึงช่วงปวส. เป็นโรคที่อยู่ตั้งเเต่เด็กเล็กๆ แต่ตอนนั้นป้าไม่รู้คิดว่าผมคงเเต่อารมณ์ไม่ดีเฉยๆ อาการยังไม่ชัดเจนเขาเลยไม่สนใจ จนถึงวันที่ได้รับรู้เเละซึมซับความรุนเเรงจากผู้อื่น ทั้งตั้งใจเเละไม่ตั้งใจ เหมือนเป็นการเปิดประตูให้กับตัวผมเอง หนักที่สุดคือผมกรีดข้อมือตัวเอง เย็บหนังตัวเอง เอาบุหรี่จี้ผิวตัวเองเป็นรูปยิ้ม พอเพื่อนหรือใครถามผมมักจะหาข้ออ้างหรือหลีกเลี่ยงที่จะตอบ สาเหตุที่ทำทั้งหมดมาจากอารมณ์ที่มันรุนเเรงจนควบคุมไม่ได้ไร้สติ ตอนนั้นผมสามารถฆ่าคนได้ตลอดเวลาเเม้กระทั่งป้าของตัวเอง 1แผลคืออารมณ์รุนเเรง1ครั้ง สรุปสุดท้ายกลายเป็นร้อยๆแผลในระยะเวลาเเค่ไม่กี่อาทิตย์ เเต่มันน่าสลดใจกว่านั้นคือ ผมเอาเลือดละเลงบนฝาฝนังเเละหน้าตัวเอง ผมควบคุมอะไรไม่ได้เลย  ไร้ซึ่งสติ เเต่สุดท้าย ป้าผมนี่เเหละต้องคอยมาเช็ดเลือดนั้นเสมอ ถึงตอนนี้ผมหดหู่ใจในการกระทำตัวเอง ป้าผมกลายเป็นคนหวาดผวาไปด้วยอีกคน เเทบจะคุ้มดีคุ้มร้ายไม่ต่างจากผู้ป่วยจิตเวช ผมเคยเอาปืนจ่อหัวตัวเอง กินยาพยายามฆ่าตัวตายมาก็แล้ว เเต่ไม่ตาย มันโคตรทรมานแทน 
ถึงตอนนี้อะไรหลายอย่างก็ดีขึ้นเเล้ว อารมณ์ผมสงบลงเเล้ว ด้วยอายุที่โตขึ้น ความคิดมากขึ้น เเต่ความหวาดระเเวง เเละความเครียดในชีวิตผมยังคงเหมือนเดิมเเค่ไม่มากเท่าเก่า 
สิ่งที่ผมจะสื่อถึงคือ1. ความรุนเเรงในวันเด็ก ผู้ใหญ่ห้ามมองข้าม มันส่งผลมาจนถึงปัจจุบันเสมอ เมื่อบุตร ลูกเด็กเล็กเเดง มีอาการคล้ายผม ให้รีบพาหาหมอโดยทันที 
2.ผมคงไม่มีโอกาสได้ขึ้นสวรรค์แน่นอน ผมรู้ตัวเองดี ต่อให้ผมสำนึกผิดจากการกระทำที่ได้ก่อไว้มากเเค่ไหน นรกก็เรียกผมอยู่ดี 
เลยอยากให้เรื่องผมเป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าความรุนเเรงในชีวิต เเละการบูลลี่มันส่งผลได้อย่างน่ากลัวเเละเกินกว่าจะคาดคิด
ตอนนี้ผมไร้ซึ่งความรู้สึก หมดเเล้วอารมณ์ดี ในหัวมีเเต่ความหวาดระเเวง ปนกับความเศร้าโศกกับตัวเองในทุกๆวัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่