หนูก็แค่คนกระจอกคนหนึ่ง

สวัสดีค่ะ หนูอายุ 14 เรียนอยู่ ม.4 อยู่ประเทศลาวค่ะ

อยู่ลาวประถมศึกษา จะมี ป.1-5 มัธยมศึกษา จะมี ม.1-7 ทุกๆปีจะมีการ สอบคัดเลือกนักเรียนเก่งประจำวิชา ซึ่งจะมี ป.5 เขาเรียกสอบคัดเลือกนักเรียนเก่งชั้น ประถมศึกษา ม.4 สอบคัดเลือกนักเรียนเก่ง ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
ม.7 สอบคัดเลือกนักเรียนเก่ง ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ถ้าสอบที่โรงเรียนติดแล้วจะได้ไปสอบต่อที่ ต่างจังหวัด

ซึ่งตอนหนูอยู่ ประถม หนูเรียนเก่งมาก พ่อแม่คาดหวัง แล้วพอถึงป.5 ได้มีการสอบคัดเลือกนักเรียนเก่ง หนูก็สอบวิชท คณิตศาสตร์ แล้วก็สอบติดได้ไปสอบที่ต่างจังหวัด พ่อแม่ดีใจมาก พอไปสอยที่ต่างจังหวัด แต่ก็สอบไม่ได้ตอนนั้นก็ไม่เป็นไร เพราะคิดไว้แล้วยังไงก็ไม่ได้

พอเข้า ม.1 รู้สึกไม่เหมื่อนก่อน เรียนไม่เก่งเหมื่อนแต่ก่อน ติดโทรศัพท์ บอกตรงเลยว่าไม่ได้ตั้งใจเรียนเลยตอนนั้น พ่อแม่ก็ไม่ค่อยได้ถามเรื่องการเรียน เพราะพ่อแม่หมั่นใจในตัวหนูมากๆ
แล้วหนูก็ไม่เคยพัฒนาตัวเองเลย เรียนไม่ได้คะแนนดีก็ช่างมันขอแค่สอบไม่ตกแค่นั้นก็พอ นั้นคือความคิดตอนนั้น

พอเข้าม.2ก็ยังคิดเหมื่อนเดิม จนปิดเทอมก็เริ่มคิดแล้วว่า ปีหน้าจะเข้าม.3แต่เรายังติดโทรศัพท์ แบบนี้แล้วถ้าเราเข้า ม.4เราจะสอบติดไหม ก็คิดว่าม.3 จะเริ่มตั้งใจเรียนวิชา คณิตศาสตร์ เพื่อม.4จะได้สอบวิชานี้

พอเข้า ม.3 ก็เริ่มตั้งใจเรียน เริ่มตั้งใจฟังอาจารย์สอน แต่ก็ไม่เข้าใจอะไรเลย เพราะตอนอยู่ ม.1-2 เราไม่ได้ฟังที่อาจารย์สอนเลย จำได้ว่ากลับบ้านมา ท้อมากโทษตัวเอง นั่งร้องให้คิดมากว่าจะทำยังไงดี ก็เลยคิดว่ากลับไปเรียน ม.1-2ด้วยตัวเอง แต่ก็แค่คิดแล้วกลับ มาเล่นโทรศัพท์ต่อ ใครเคยขี้เกียจมีนิสัย ผลัดวันประกันพรุ่งจะรู้ดี ซึ่งเราก็เป็นแบบนี้น หาข้ออ้างที่จะไม่อ่านหนังสือ เยอะแยะมากมาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่อ่านเลยนะ ก็อ่านแต่ทำได้ไม่ถึงอาทิตย์ ก็ยกเลิก แต่ก็ได้ความรู้อยู่ แต่แค่ไม่มาก ก็เป็นแบบนี้มาจนปิดเทอม

พอเข้า ม.4 ก็เป็นแบบเดิมเลยค่ะ ว่าจะสู้จะตั้งใจจริงจัง แต่ก็ทำได้ไม่ถึงไหนก็หยุด ในห้องจะมีคนที่เก่ง วิชาคณิตศาสตร์ แบบเก๋งมากก บอกได้เลยว่าเป็นลูกรัก อาจารย์คณิตศาสตร์ เราก็อิจฉานิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแต่ว่าพอถึงเวลาเราตั้งใจเรียนจริงๆคือต้องเก่งกว่าแน่นอน คือคิดแค่นี้ นอกจากพ่อแม่ ที่คาดหวังก็รวมถึงตัวเราเองแหละที่คาดหวังด้วย คิดว่ามันง่ายมาก ตอนนั้น พออรกประมาณหนึ่งเดือน จะสอบ เราก็ลองเริ่มอ่านหนังสือ แก้โจทย์ เลยได้รู้ว่ามันยากมากแค่ไหน ตอนนั้นนั่งร้องไห้หนักมากๆ แล้วก็ท้อมาก แต่ว่าต่างจากตอนนั้นเพราะครั้งนี้ร้องไห้เสร็จแล้ว สู้ต่อ ทำแบบนี้ทุกวันแล้วก็ท้อทุกวัน ยิ่งเวลาเรียนคณิตศาสตร์ แล้วเห็นเพื่อนเก่งกว่ายิ่งท้อหนักเข้าไป ตอนนั้นจำได้ว่า ตั้งใจเรียนได้ประมาณสองสามอาทิตย์ ก็ยกเลิก คิดว่าตัวเองทำไม่ได้ สู้เขาไม่ได้ แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรน่ะ คิดแต่จะปลอบใจตัวเองไว้ก่อน พออีกประมาณ4วันจะสอบ อาจารย์คณิตศาสตร์ ก็มาถามว่าใครจะสอบวิชาอาจารย์บ้าง ซึ่งแน่นอนอาจารย์ต้องเลือกลูกรักอาจารย์เข้าสอบแน่นอน แต่ว่าโรงเรียนอยากเอาเพิ่มอีกคน อาจารย์ถามหนูว่าอยากสอบไหม ตอนนั้นมีอะไรมากมายคิดขึ้นมาในหัว แต่ก็เลือกตอบปฏิเสธไป พอกลับถึงบ้าน ก็คิดได้อีกว่าเราจะเสียโอกาสนี้ไปได้ไง แล้วพ่อแม่ที่คาดหวังในตัวเรา แถมตัวเรายังเคยพยายาม แต่เลือกที่จะไม่ชอบเพราะกลัวทำไม่ได้เนี่ยนะ ตอนนั้นรู้สึกเสยใจมากที่ปฏิเสธอาจารย์ไป เลยไปขออาจารย์สอบด้วยคน อาจารย์ให้โอกาส ตอนนั้นเราดีใจมาก เราแก้โจทย์ไม่ได้หลับไม่ได้นอนมา4วันเต็ม มีบ้างข้อที่ทำไม่ได้ก็ร้องไห้ท้อ แต่ว่าก็สู้ต่อ ตอนนั้นพ่อแม่ถามทุกวันว่าไม่ได้สอบคัดเลือกนักเรียนเก่งหรอ หนูก็เลือกตอบว่าไม่เพราะหนูไม่อยากให้พ่อแม่คาดหวังกับหนู หนูกลัวพ่อแม่จะผิดหวัง แต่พ่อแม่ก็ยังถามอีก ตอนนั้นยอมรับว่ากดดันมาก อยากทำให้พ่อแม่ภูมิใจอีกสักครั้ง พอถึงวันสอบยอมรับว่าไม่หมั่นใจเลย พอข้อสอบออก หนูแก้ไม่ได้หมดทุกข้อแต่ก็พอได้บ้าง หนูมีความหวังนิดๆว่าจะได้ พ่อแม่ก็ถามอยู่อย่างนั้นว่าได้สอบไหม หนูก็ปฏิเสธทุกครั้งบวกกับมีความหวังในใจว่าจะได้ พอถึงวันที่ผลสอบออกมา หนูกลับสอบไม่ได้ตอนนี้ร้องไห้หนักมากอยากขอโทษพ่อแม่มากๆ ที่หนูทำไม่ได้ ทำให้พ่อแม่ภูมิใจไม่ได้
แต่ก็ปลอบใจตัวเองอีกครั้งว่าไม่เป็นไร เราทำเต็มที่แล้ว พอพ่อแม่กลับมาจากที่ทำงาน แม่ถามหาเราเป็นคนแรก แม่เหมื่อนรู้ว่าเราพึ่งไปสอบมา แม่ก็ถามว่าสอบได้ไหมลูก ตอนนั้นกลั้นน้ำตาแทบไม่ได้ พูดตอบแม่ไปแบบเสียงสั่นเลยว่าไม่ได้ ตอนนั้นแม่ก็เงียบ เราไม่แอบร้องไห้คนเดียวหนักมาก เสยใจมากๆ ยิ่งพ่อแม่คาดหวัง หนูยิ่งเสยใจมากที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจไม่ได้ อยากขอโทษพ่อแม่มากๆ ถ้าหนูคิดได้ตั้งแต่ตอนนั้นตอนนี้หนูคงทำได้แล้ว ตอนนี้หนูไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย เสยใจมาก😔
เป็นเพราะตัวหนูเอง😭😭

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่