ตลาดนัดจตุจักร เรียกว่าเป็นตลาดนัดชื่อดัง ที่ทั้งคนไทยและต่างประเทศ ตบเท้าเข้ามาช้อปปิ้งสุดสัปดาห์กันอย่างคับคั่ง แต่ล่าสุด เหล่าผู้ค้าโอดกันไม่น้อย เมื่อค่าเช่าล่าสุด พุ่งไปถึงเดือนละ 55,000 บาทแล้ว
โดยเฟซบุ๊ก เช่าร้าน ตลาดนัดจตุจักร ห้างแพลตตินัมพื้นที่ให้เช่า ตลาดนัดจตุจักร ห้างแพลตตินัม ได้โพสต์เรตล่าสุด ระบุว่า คนในเปลี่ยนตลอด คนนอกอยากเข้า!!! ตลาดนัดจตุจักร บริหารโดย สำนักงานตลาด กทม. ขึ้นอยู่กับกรุงเทพมหานครโดยตรง ซึ่งเป็นองค์กรของภาครัฐ เน้นช่วยเหลือประชาชน
“เชื่อหรือไม่ ตลาดนัดจตุจักร ค่าเช่าแพงที่สุดในประเทศ 55,000 บาท / เดือน (5 ตารางเมตร) 6,875 บาทต่อวัน ขายได้ 8 วันต่อเดือน 687.5 บาท ต่อชั่วโมง ขายได้ 10 ชั่วโมงต่อวัน
ปล. ราคานี้คือราคาที่มีการเช่าช่วงต่อวัน จากราคาปกติที่สำนักงานตลาด กทม. ให้เช่าคือ 1,800 บาทต่อเดือน ค่าเช่าแต่ละแผงค้าแตกต่างกันไป ตามทำเลที่ตั้ง และความพึงพอใจของผู้ให้เช่าและผู้เช่า”
ซึ่งแต่ละคนก็เข้าไปคอมเมนต์กันหลากหลาย อาทิ
“ริมถนน ตอนนี้ ห้องละ 50000-60000 ละครับ ถ้ามันขายดีเหมือนก่อนก็ไหว ไม่หวั่น แต่ตอนนี้ ไม่สู้ละครับ ยอม ออกมาละ 555”
“สอบถามแล้ว ทำเลดีเดือนละ 55,000 บาท 60,000 บาทขายได้สัปดาห์ละ 3 วันมีคนเยอะจริงๆ แค่เสาร์,อาทิตย์ วันที่ขายดีแค่ 8 วันต่อเดือน”
เป็นปัญหาที่ผู้บริหาร ไม่ยอมลงมาดูเลย ว่ามันลำบากแค่ไหนแล้ว
เจ้าของ กับนายหน้าแดกยับ กด
ผู้ขายตัวจริงทำไรไม่ได้ต้องทนกันต่อไป
สมควรที่จะมีตั้งลิมิตกันสักทีได้แล้วว่าได้แค่ไหน ราคาไม่ควรเกินเท่าไร
เราผู้ขายตัวจริงอดทนกันมาก ไม่อยู่ก็ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไรกัน
แต่พวกที่เอาเปรียบทำนาบนหลังคน นั่งกระดิกนิ้วรับเงินจากหยาดเหงี่อของพ่อค้าแม่ค้าตัวจริงที่ต้องดิ้นรนแทบตายกว่าจะได้เงินแต่ละบาท”
ปัญหาสะสมมานาน ไม่คิดว่า กทม.จะไม่รู้ ราชการปรับราคาก็อ้างทำลายโอกาสผู้ค้าระดับล่างชาวบ้านยากจน เอาเข้าจริงเจ้าของปัจจุบันนายหน้าค้ากำไร คนมีอันจะกินทั้งนั้น ค่าเช่าจริงแพงกว่าที่จ่าย กทม.ไม่รู้กี่เท่า แถมมีสัมปทานชั่วลูกชั่วหลาน จะให้แฟร์ต้องปรับราคาตามตลาดแฟร์ทั่วไป ยกเลิกสัมปทานหรือสัญญาเก่า ให้เช่าตรงกับ กทม. ตามราคากลไกตลาด พบเช่าช่วงตัดสิทธิ์ทันที จะยุติธรรมมากกว่า ย้ำอีกครั้งว่า ไม่เชื่อว่า กทม.จะไม่รู้ วัตถุประสงค์เดิมคือเอาพื้นที่หลวงมาจัดสรรให้ประชาชนทำมาหากิน ไม่ใช่ให้มาเช่าช่วงทำกำไรชั่วลูกชั่วหลานขนาดนี้”
ค่าที่จริงๆ ริมราง 1800+500
ถ้าเจ้าของขายเองยังไงก็อยู่ได้เพราะอย่างน้อยคงวันละ 3000-4000 ถ้าเจ้าของปล่อยให้คนอื่นเช่าถ้าอยู่กันมานานก็ประมาณ 2 หมื่น ถึง 2 ห้า แต่แรงมาหน่อยก็ 3 หมื่น ส่วนร้านไหนเจอพวกนายหน้าก็เจอเลย 50000 – 60000
ส่วนมากพวกที่เจอนายหน้าอยู่ไม่ได้สักรายรอหมดสัญญาก็ไปและก็มีคนใหม่ที่โดนเขย่าพุ่มมาละหมดสัญญาก็ไป
ถ้าใครที่เช่าอยู่โดนพวกนายหน้าเล่นหนักๆให้มาตามหาเจ้าของล๊อคตัวจริงวันตลาดต้นไม้ตรงที่ตัวเองขายนั้นแหละค่ะขอเบอร์ติดต่อจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายต้นไม้เพราะคนเก่าๆรู้จักกันหมดเผื่อดีลตรงอาจจะได้ลดราคา อันนี้แค่แนะนำนะคะ จากที่จ่าย 5-6 หมื่นอาจได้ลดเหลือสัก 3 หมื่น เผื่ออยู่ต่อได้”
เครดิตจาก มติชนออนไลน์
https://www.matichon.co.th/economy/news_4418622
แพงสุดในไทย? ตลาดนัดจตุจักร ค่าเช่าพุ่งเดือนละ 55,000 บาท ผู้เช่าวอนกทม.ดูแล
ตลาดนัดจตุจักร เรียกว่าเป็นตลาดนัดชื่อดัง ที่ทั้งคนไทยและต่างประเทศ ตบเท้าเข้ามาช้อปปิ้งสุดสัปดาห์กันอย่างคับคั่ง แต่ล่าสุด เหล่าผู้ค้าโอดกันไม่น้อย เมื่อค่าเช่าล่าสุด พุ่งไปถึงเดือนละ 55,000 บาทแล้ว
โดยเฟซบุ๊ก เช่าร้าน ตลาดนัดจตุจักร ห้างแพลตตินัมพื้นที่ให้เช่า ตลาดนัดจตุจักร ห้างแพลตตินัม ได้โพสต์เรตล่าสุด ระบุว่า คนในเปลี่ยนตลอด คนนอกอยากเข้า!!! ตลาดนัดจตุจักร บริหารโดย สำนักงานตลาด กทม. ขึ้นอยู่กับกรุงเทพมหานครโดยตรง ซึ่งเป็นองค์กรของภาครัฐ เน้นช่วยเหลือประชาชน
“เชื่อหรือไม่ ตลาดนัดจตุจักร ค่าเช่าแพงที่สุดในประเทศ 55,000 บาท / เดือน (5 ตารางเมตร) 6,875 บาทต่อวัน ขายได้ 8 วันต่อเดือน 687.5 บาท ต่อชั่วโมง ขายได้ 10 ชั่วโมงต่อวัน
ปล. ราคานี้คือราคาที่มีการเช่าช่วงต่อวัน จากราคาปกติที่สำนักงานตลาด กทม. ให้เช่าคือ 1,800 บาทต่อเดือน ค่าเช่าแต่ละแผงค้าแตกต่างกันไป ตามทำเลที่ตั้ง และความพึงพอใจของผู้ให้เช่าและผู้เช่า”
ซึ่งแต่ละคนก็เข้าไปคอมเมนต์กันหลากหลาย อาทิ
“ริมถนน ตอนนี้ ห้องละ 50000-60000 ละครับ ถ้ามันขายดีเหมือนก่อนก็ไหว ไม่หวั่น แต่ตอนนี้ ไม่สู้ละครับ ยอม ออกมาละ 555”
“สอบถามแล้ว ทำเลดีเดือนละ 55,000 บาท 60,000 บาทขายได้สัปดาห์ละ 3 วันมีคนเยอะจริงๆ แค่เสาร์,อาทิตย์ วันที่ขายดีแค่ 8 วันต่อเดือน”
เป็นปัญหาที่ผู้บริหาร ไม่ยอมลงมาดูเลย ว่ามันลำบากแค่ไหนแล้ว
เจ้าของ กับนายหน้าแดกยับ กด
สมควรที่จะมีตั้งลิมิตกันสักทีได้แล้วว่าได้แค่ไหน ราคาไม่ควรเกินเท่าไร
เราผู้ขายตัวจริงอดทนกันมาก ไม่อยู่ก็ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไรกัน
แต่พวกที่เอาเปรียบทำนาบนหลังคน นั่งกระดิกนิ้วรับเงินจากหยาดเหงี่อของพ่อค้าแม่ค้าตัวจริงที่ต้องดิ้นรนแทบตายกว่าจะได้เงินแต่ละบาท”
ปัญหาสะสมมานาน ไม่คิดว่า กทม.จะไม่รู้ ราชการปรับราคาก็อ้างทำลายโอกาสผู้ค้าระดับล่างชาวบ้านยากจน เอาเข้าจริงเจ้าของปัจจุบันนายหน้าค้ากำไร คนมีอันจะกินทั้งนั้น ค่าเช่าจริงแพงกว่าที่จ่าย กทม.ไม่รู้กี่เท่า แถมมีสัมปทานชั่วลูกชั่วหลาน จะให้แฟร์ต้องปรับราคาตามตลาดแฟร์ทั่วไป ยกเลิกสัมปทานหรือสัญญาเก่า ให้เช่าตรงกับ กทม. ตามราคากลไกตลาด พบเช่าช่วงตัดสิทธิ์ทันที จะยุติธรรมมากกว่า ย้ำอีกครั้งว่า ไม่เชื่อว่า กทม.จะไม่รู้ วัตถุประสงค์เดิมคือเอาพื้นที่หลวงมาจัดสรรให้ประชาชนทำมาหากิน ไม่ใช่ให้มาเช่าช่วงทำกำไรชั่วลูกชั่วหลานขนาดนี้”
ค่าที่จริงๆ ริมราง 1800+500
ถ้าเจ้าของขายเองยังไงก็อยู่ได้เพราะอย่างน้อยคงวันละ 3000-4000 ถ้าเจ้าของปล่อยให้คนอื่นเช่าถ้าอยู่กันมานานก็ประมาณ 2 หมื่น ถึง 2 ห้า แต่แรงมาหน่อยก็ 3 หมื่น ส่วนร้านไหนเจอพวกนายหน้าก็เจอเลย 50000 – 60000
ส่วนมากพวกที่เจอนายหน้าอยู่ไม่ได้สักรายรอหมดสัญญาก็ไปและก็มีคนใหม่ที่โดนเขย่าพุ่มมาละหมดสัญญาก็ไป
ถ้าใครที่เช่าอยู่โดนพวกนายหน้าเล่นหนักๆให้มาตามหาเจ้าของล๊อคตัวจริงวันตลาดต้นไม้ตรงที่ตัวเองขายนั้นแหละค่ะขอเบอร์ติดต่อจากพ่อค้าแม่ค้าที่ขายต้นไม้เพราะคนเก่าๆรู้จักกันหมดเผื่อดีลตรงอาจจะได้ลดราคา อันนี้แค่แนะนำนะคะ จากที่จ่าย 5-6 หมื่นอาจได้ลดเหลือสัก 3 หมื่น เผื่ออยู่ต่อได้”
เครดิตจาก มติชนออนไลน์
https://www.matichon.co.th/economy/news_4418622