อยากสอบถามทุกคนนะคะ
เรื่องมีอยู่ว่า เราคยกับแฟนมา 8 ปี
มีลูกด้วยกัน 2 คน คนแรกปีหนึ่งปีกว่าๆ อีกคนกำลังท้องอยู่ 5 เดือน
เรากับแฟนแยกกันอยู่นะคะ ตอนแรกพวกเราก็อยู่ด้วยกัน
แต่ด้วยหน้าที่การงาน และภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น
เราเลยตัดสินใจย้ายกับมาอยู่ที่บ้านเกิดกับพ่อแม่ของเรา
และเราให้แฟนอยู่ที่อีกที่ เพราะแฟนยังต้องทำงานที่นั่นตามสัญญาจ้าง
ซึ่งก่อนที่เราจะกลับมาอยู่ที่บ้าน เราตกลงกันแล้วว่า
พวกเราต้องหนักแน่น อดทน และเชื่อใจกัน
มีอะไรให้พูด ให้คุยกัน เพราะความห่างไกล
มักจะทำให้เราหวั่นไหวได้กับทุกเรื่อง
แต่แล้ววันนึงหลังจากที่เราย้ายกลับมาอยู่บ้านได้แค่ 2-3 เดือน
พฤติกรรมของแฟนเราก็เปลี่ยนไป เมื่อก่อนจะไม่ค่อยไปเที่ยวกลางคืน
(ถ้าจะไป จะไปกับเพื่อนและเราตลอด เขาไม่ดื่มค่ะ เพราะถ้าดื่มจะนิสัยเปลี่ยน)
แต่เขาไปเที่ยวกับเพื่อนรุ่นน้องที่ทำงาน ที่เป็นผู้หญิง โดยเขาให้เหตุผลว่า
น้องชวน และน้องไม่เคยไปเที่ยว (เด็กเพิ่งอายุ 20 อยากลองเที่ยวกลางคืน)
เรารู้จักน้องผู้หญิงคนนั้นดีนะคะ สนิทกันมาก เคยไปมาหาสู่กันบ่อย
ในกลุ่มที่ไปเที่ยววันนั้นมีแค่ผู้หญิง 4 และผู้ชาย 1
เขาก่อนที่จะออกไปเที่ยว เขาบอกเราว่า จะไปกินข้าว
แต่พอตกดึกประมาณ 3-4 ทุ่ม ทักแชทมาบอกเราว่า ตอใจนนี้มาเที่ยวข้างนอกนะ
มากับคนนี้ๆๆนะ เราเลยทะเลาะกันค่ะ เพราะเราไม่โอเคกับการที่เขาไปเที่ยว
และไปกับผู้หญิง ทั้งๆที่ปกติไม่ค่อยไป เราเลยทะเลาะกันหนักมาก
และมันมีประโยคนึง ที่แฟนพูดกับเรา มันทำให้เป็นเรื่องฝังใจเรามาก
เขาพูดว่า "การที่เรามาเที่ยว มันผิดมากหรอ เราแค่ต้องการหาความสุขกับตัวเอง
บางครั้งเราก็ต้องการความเป็นส่วนตัว เราต้องการความเป็นอิสระ"
ประโยคที่เราพูดนะตอนนั้น เราใจสั่นมาก รู้สึกเหมือนทำไมผู้ชายคนนี้
ใจร้ายจังวะ เรานอนอยู่บ้านเลี้ยงลูก แต่เขากลับไปหาความสุขใส่ตัวเอง
เฮ้อ ลืมบอกว่า เราไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆ นะคะ เราทำงาน และเลี้ยงลูกไปด้วย
ที่ทำงานเราไกลมากๆ ขับรถไปกลับก็ 100+ กิโล แต่ต้องทำ เพราะเราไม่อยากห่างลูก
ที่เขาไปเที่ยวกลางคืนมันเลยทำให้เรารู้สึกว่า ไม่ยุติธรรม เราเกนื่อยทั้งกาย ทั้งใจ
แฟนเรากลับไม่คิดเลยว่า ลูกเมียจะเป็นยังไง แต่กลับเอาเวลาที่ควรจะพักผ่อน
คิดหาหนทาง หาลู่ทางอนาคต เพื่อเก็บเงินสร้างครอบครัว แต่กลับไม่คิด ไม่ทำ
อันนี้เรื่องแรกนะคะ
เรื่องต่อมา มีวันนึงหลังจากที่เราทะเลาะกันเรื่องที่น้องผู้หญิงคนนั้นชวนไปเที่ยว
แฟนได้มาหาเราที่บ้านเกิดและเราได้ไปเล่นมือถือแฟน แล้วเห็นว่าทำไม แชทน้องคนนั้น ถึงไม่มีประวัติการสนทนา
ทั้งแชท ทั้งไลน์ เราเลยไปถามแฟน แฟนก็ตอบเรานะคะ
บอกว่าน้องผู้หญิงคนนั้นเป็นคนลบทิ้ง เพราะกลัวกว่าเราจะไม่สบายใจ
เราเลยสงสัยว่า เราจะไม่สบายใจก็เรื่องอะไร
เรื่องที่พวกคุณไปเที่ยวกัน มันก็จบแล้ว เราไม่ได้ไประรานผู้หญิงนะคะ
เราทะเลาะแค่กับแฟน และเคลียร์กันได้
แต่เรามารู้สึกสะกิดใจตรงที่ทำไมประวัติการพูดคุยของแฟนเรากับน้องผู้หญิงคนนั้นถึงถูกลบไปหมดเลย
และเราก็ทะเลาะกันอีกรอบ เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ปกติ
แต่แฟนเราก็บอกว่าเขาบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง เขาไม่ได้ทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง
เขาขอความเชื่อใจและไว้วางใจเขา บอกให้เราคิดถึงครอบครัวคิดถึงลูก
อย่าไปคิดเรื่องแบบนั้น เพราะเขาบอกว่าเราเคยตกลงกันแล้ว
ว่ามีอะไรเราจะพูดคุยกันทุกเรื่อง เราเลยลองเชื่อใจเขาอีก 1 ครั้ง
และเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เราได้พูดคุยกับแฟนแล้วว่าเราจะไปเที่ยวหาเขา
และเราก็บอกให้เขามารับเรากับลูกที่สถานีปลายทาง ก่อนวันเดินทางประมาณ 3-4
ก็เกิดเรื่องนี้คาดฝัน มีอยู่คืนนึงแฟนเราบอกว่า วันนี้ต้องไปช่วยหลานขายของเพราะไม่มีคนช่วย
เขาต้องอยู่กับหลานเขาแค่สองคน และเขาบอกว่าคืนนี้ให้เราเลยนอนเลยนะ
ไม่ต้องรอเพราะน่าจะดึกกว่าเขาจะขายของเสร็จ เราเลยตอบตกลง
เช้าวันต่อมาเราทำงานบ้านและไม่มีเวลาได้จับมือถือ เราเห็นแชทที่เขาโทรหาเรา
ประมาณ 4-5 สาย เราเลยโทรกลับหาเขาช่วงบ่าย เขาก็ได้พูดคุยกับลูกประมาณซัก 10 นาที
เราเลยบอกเขาว่าแค่นี้ก่อนนะเราต้องไปทำงานบ้านต่อเดี๋ยวจะไม่เสร็จ และเขาก็วางไป
และหลังจากนั้นประมาณซัก 2 ทุ่ม เขาก็โทรกลับมาหาเราอีกรอบนึงเพื่อที่จะพูดคุยกับลูก
หลังจากที่คุยกับลูกเสร็จแล้วลูกนอนหลับ เขาก็ได้พูดคุยกับเราเรื่องสัพเพเหระ
และก่อนจะนอนเขาก็มีเรื่องนึงมาสารภาพกับเรา เขาบอกเราว่าเมื่อคืนเขาได้ขับรถประสบอุบัติเหตุ
เราตกใจมากว่าไปประสบอุบัติเหตุได้ยังไง แล้วทำไมถึงพึ่งมาบอกตอนนี้
เขาอ้ำอึ้งอยู่ชั่วขณะ แล้วเขาก็บอกเราว่าเมื่อคืนเขาได้ขับรถไปส่งน้องผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านตอนประมาณเที่ยงคืน
ระหว่างทางมีรถตำรวจที่เมาเหล้าขับข้ามเลนมาชนทำให้รถเสียหลัก รถเสียหายหนักเลยไปต่อไม่ได้
แล้วเขาเห็นว่ามันดึกแล้วเขาเลยไม่โทรบอกเราหรือแจ้งเราผ่านข้อความแชท
เราเลยบอกเขาว่ามันไม่ใช่เหตุผลที่ฟังขึ้นเลย และเขาก็เแย้งมาว่ากลัวเราไม่สบายใจเลยไม่อยากบอก
เราเลยถามเขาไปว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น แล้วเราก็ถามเขาต่อว่า แล้วทำไมเขาถึงได้ไปส่งน้องผู้หญิงคนนั้น
ในเวลาดึกขนาดนี้ เขาบอกเราว่าคืนนั้นน้องผู้หญิงเข้ามาช่วยงานที่ร้าน แต่เขาไม่ได้บอกเราเขากลัวว่าเราจะไม่สบายใจ
เขาบอกว่าเขาเลือกที่จะโกหกเพราะไม่อยากให้เรารู้สึกไม่สบายใจ เรารู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่เขาทำมากๆเลย
เพราะสิ่งที่เขาทำนอกจากจะโกหกแล้วยังปิดบังเรื่องอุบัติเหตุด้วย วันนั้นเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราทะเลาะกันหนักมาก
เรารู้สึกว่าความไว้วางใจเราความเชื่อใจเราจากที่เราเคยมีให้เขาเกือบเต็มร้อย
ตอนนี้มันมีแต่ความหวาดระแวง เราต้องใช้ชีวิตอยู่บนความรู้สึกกลัวตลอดเวลา
เพราะเราไม่รู้ว่าตอนนี้คนที่เป็นพ่อของลูกเรา เขาพูดความจริงกี่เปอร์เซ็นต์และโกหกเรากี่เปอร์เซ็นต์
สิ่งที่เรากลัวที่สุดก็คือความจริงเรากลัวที่จะรับมันไม่ได้ เพราะตอนนี้เรามี 2 ชีวิตที่เราต้องรับผิดชอบ
เรารู้สึกแยกกับตัวเองมากๆ ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเรา
เราเคยคิดว่าเราจะเลิกกับแฟน แต่เราก็ไม่อยากให้ลูกต้องขาดพ่อ
เราเครียดมากๆเลยเราไม่รู้ว่าเราจะทำยังไงต่อ ......
ขอปรึกษาเรื่องแฟนหน่อยค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า เราคยกับแฟนมา 8 ปี
มีลูกด้วยกัน 2 คน คนแรกปีหนึ่งปีกว่าๆ อีกคนกำลังท้องอยู่ 5 เดือน
เรากับแฟนแยกกันอยู่นะคะ ตอนแรกพวกเราก็อยู่ด้วยกัน
แต่ด้วยหน้าที่การงาน และภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น
เราเลยตัดสินใจย้ายกับมาอยู่ที่บ้านเกิดกับพ่อแม่ของเรา
และเราให้แฟนอยู่ที่อีกที่ เพราะแฟนยังต้องทำงานที่นั่นตามสัญญาจ้าง
ซึ่งก่อนที่เราจะกลับมาอยู่ที่บ้าน เราตกลงกันแล้วว่า
พวกเราต้องหนักแน่น อดทน และเชื่อใจกัน
มีอะไรให้พูด ให้คุยกัน เพราะความห่างไกล
มักจะทำให้เราหวั่นไหวได้กับทุกเรื่อง
แต่แล้ววันนึงหลังจากที่เราย้ายกลับมาอยู่บ้านได้แค่ 2-3 เดือน
พฤติกรรมของแฟนเราก็เปลี่ยนไป เมื่อก่อนจะไม่ค่อยไปเที่ยวกลางคืน
(ถ้าจะไป จะไปกับเพื่อนและเราตลอด เขาไม่ดื่มค่ะ เพราะถ้าดื่มจะนิสัยเปลี่ยน)
แต่เขาไปเที่ยวกับเพื่อนรุ่นน้องที่ทำงาน ที่เป็นผู้หญิง โดยเขาให้เหตุผลว่า
น้องชวน และน้องไม่เคยไปเที่ยว (เด็กเพิ่งอายุ 20 อยากลองเที่ยวกลางคืน)
เรารู้จักน้องผู้หญิงคนนั้นดีนะคะ สนิทกันมาก เคยไปมาหาสู่กันบ่อย
ในกลุ่มที่ไปเที่ยววันนั้นมีแค่ผู้หญิง 4 และผู้ชาย 1
เขาก่อนที่จะออกไปเที่ยว เขาบอกเราว่า จะไปกินข้าว
แต่พอตกดึกประมาณ 3-4 ทุ่ม ทักแชทมาบอกเราว่า ตอใจนนี้มาเที่ยวข้างนอกนะ
มากับคนนี้ๆๆนะ เราเลยทะเลาะกันค่ะ เพราะเราไม่โอเคกับการที่เขาไปเที่ยว
และไปกับผู้หญิง ทั้งๆที่ปกติไม่ค่อยไป เราเลยทะเลาะกันหนักมาก
และมันมีประโยคนึง ที่แฟนพูดกับเรา มันทำให้เป็นเรื่องฝังใจเรามาก
เขาพูดว่า "การที่เรามาเที่ยว มันผิดมากหรอ เราแค่ต้องการหาความสุขกับตัวเอง
บางครั้งเราก็ต้องการความเป็นส่วนตัว เราต้องการความเป็นอิสระ"
ประโยคที่เราพูดนะตอนนั้น เราใจสั่นมาก รู้สึกเหมือนทำไมผู้ชายคนนี้
ใจร้ายจังวะ เรานอนอยู่บ้านเลี้ยงลูก แต่เขากลับไปหาความสุขใส่ตัวเอง
เฮ้อ ลืมบอกว่า เราไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆ นะคะ เราทำงาน และเลี้ยงลูกไปด้วย
ที่ทำงานเราไกลมากๆ ขับรถไปกลับก็ 100+ กิโล แต่ต้องทำ เพราะเราไม่อยากห่างลูก
ที่เขาไปเที่ยวกลางคืนมันเลยทำให้เรารู้สึกว่า ไม่ยุติธรรม เราเกนื่อยทั้งกาย ทั้งใจ
แฟนเรากลับไม่คิดเลยว่า ลูกเมียจะเป็นยังไง แต่กลับเอาเวลาที่ควรจะพักผ่อน
คิดหาหนทาง หาลู่ทางอนาคต เพื่อเก็บเงินสร้างครอบครัว แต่กลับไม่คิด ไม่ทำ
อันนี้เรื่องแรกนะคะ
เรื่องต่อมา มีวันนึงหลังจากที่เราทะเลาะกันเรื่องที่น้องผู้หญิงคนนั้นชวนไปเที่ยว
แฟนได้มาหาเราที่บ้านเกิดและเราได้ไปเล่นมือถือแฟน แล้วเห็นว่าทำไม แชทน้องคนนั้น ถึงไม่มีประวัติการสนทนา
ทั้งแชท ทั้งไลน์ เราเลยไปถามแฟน แฟนก็ตอบเรานะคะ
บอกว่าน้องผู้หญิงคนนั้นเป็นคนลบทิ้ง เพราะกลัวกว่าเราจะไม่สบายใจ
เราเลยสงสัยว่า เราจะไม่สบายใจก็เรื่องอะไร
เรื่องที่พวกคุณไปเที่ยวกัน มันก็จบแล้ว เราไม่ได้ไประรานผู้หญิงนะคะ
เราทะเลาะแค่กับแฟน และเคลียร์กันได้
แต่เรามารู้สึกสะกิดใจตรงที่ทำไมประวัติการพูดคุยของแฟนเรากับน้องผู้หญิงคนนั้นถึงถูกลบไปหมดเลย
และเราก็ทะเลาะกันอีกรอบ เพราะเรารู้สึกว่ามันไม่ปกติ
แต่แฟนเราก็บอกว่าเขาบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง เขาไม่ได้ทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง
เขาขอความเชื่อใจและไว้วางใจเขา บอกให้เราคิดถึงครอบครัวคิดถึงลูก
อย่าไปคิดเรื่องแบบนั้น เพราะเขาบอกว่าเราเคยตกลงกันแล้ว
ว่ามีอะไรเราจะพูดคุยกันทุกเรื่อง เราเลยลองเชื่อใจเขาอีก 1 ครั้ง
และเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เราได้พูดคุยกับแฟนแล้วว่าเราจะไปเที่ยวหาเขา
และเราก็บอกให้เขามารับเรากับลูกที่สถานีปลายทาง ก่อนวันเดินทางประมาณ 3-4
ก็เกิดเรื่องนี้คาดฝัน มีอยู่คืนนึงแฟนเราบอกว่า วันนี้ต้องไปช่วยหลานขายของเพราะไม่มีคนช่วย
เขาต้องอยู่กับหลานเขาแค่สองคน และเขาบอกว่าคืนนี้ให้เราเลยนอนเลยนะ
ไม่ต้องรอเพราะน่าจะดึกกว่าเขาจะขายของเสร็จ เราเลยตอบตกลง
เช้าวันต่อมาเราทำงานบ้านและไม่มีเวลาได้จับมือถือ เราเห็นแชทที่เขาโทรหาเรา
ประมาณ 4-5 สาย เราเลยโทรกลับหาเขาช่วงบ่าย เขาก็ได้พูดคุยกับลูกประมาณซัก 10 นาที
เราเลยบอกเขาว่าแค่นี้ก่อนนะเราต้องไปทำงานบ้านต่อเดี๋ยวจะไม่เสร็จ และเขาก็วางไป
และหลังจากนั้นประมาณซัก 2 ทุ่ม เขาก็โทรกลับมาหาเราอีกรอบนึงเพื่อที่จะพูดคุยกับลูก
หลังจากที่คุยกับลูกเสร็จแล้วลูกนอนหลับ เขาก็ได้พูดคุยกับเราเรื่องสัพเพเหระ
และก่อนจะนอนเขาก็มีเรื่องนึงมาสารภาพกับเรา เขาบอกเราว่าเมื่อคืนเขาได้ขับรถประสบอุบัติเหตุ
เราตกใจมากว่าไปประสบอุบัติเหตุได้ยังไง แล้วทำไมถึงพึ่งมาบอกตอนนี้
เขาอ้ำอึ้งอยู่ชั่วขณะ แล้วเขาก็บอกเราว่าเมื่อคืนเขาได้ขับรถไปส่งน้องผู้หญิงคนนั้นกลับบ้านตอนประมาณเที่ยงคืน
ระหว่างทางมีรถตำรวจที่เมาเหล้าขับข้ามเลนมาชนทำให้รถเสียหลัก รถเสียหายหนักเลยไปต่อไม่ได้
แล้วเขาเห็นว่ามันดึกแล้วเขาเลยไม่โทรบอกเราหรือแจ้งเราผ่านข้อความแชท
เราเลยบอกเขาว่ามันไม่ใช่เหตุผลที่ฟังขึ้นเลย และเขาก็เแย้งมาว่ากลัวเราไม่สบายใจเลยไม่อยากบอก
เราเลยถามเขาไปว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น แล้วเราก็ถามเขาต่อว่า แล้วทำไมเขาถึงได้ไปส่งน้องผู้หญิงคนนั้น
ในเวลาดึกขนาดนี้ เขาบอกเราว่าคืนนั้นน้องผู้หญิงเข้ามาช่วยงานที่ร้าน แต่เขาไม่ได้บอกเราเขากลัวว่าเราจะไม่สบายใจ
เขาบอกว่าเขาเลือกที่จะโกหกเพราะไม่อยากให้เรารู้สึกไม่สบายใจ เรารู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่เขาทำมากๆเลย
เพราะสิ่งที่เขาทำนอกจากจะโกหกแล้วยังปิดบังเรื่องอุบัติเหตุด้วย วันนั้นเป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราทะเลาะกันหนักมาก
เรารู้สึกว่าความไว้วางใจเราความเชื่อใจเราจากที่เราเคยมีให้เขาเกือบเต็มร้อย
ตอนนี้มันมีแต่ความหวาดระแวง เราต้องใช้ชีวิตอยู่บนความรู้สึกกลัวตลอดเวลา
เพราะเราไม่รู้ว่าตอนนี้คนที่เป็นพ่อของลูกเรา เขาพูดความจริงกี่เปอร์เซ็นต์และโกหกเรากี่เปอร์เซ็นต์
สิ่งที่เรากลัวที่สุดก็คือความจริงเรากลัวที่จะรับมันไม่ได้ เพราะตอนนี้เรามี 2 ชีวิตที่เราต้องรับผิดชอบ
เรารู้สึกแยกกับตัวเองมากๆ ว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับเรา
เราเคยคิดว่าเราจะเลิกกับแฟน แต่เราก็ไม่อยากให้ลูกต้องขาดพ่อ
เราเครียดมากๆเลยเราไม่รู้ว่าเราจะทำยังไงต่อ ......