เอาตามที่ผมเข้าใจแล้วกัน
ถ้าเอาเงินใส่เป๋าตัง ต้องกู้เงินมาครบจำนวนทีเดียว แล้วยัดเข้าไป.....แบบที่หลาย ๆ ท่านเข้าใจ แบบนี้..
แบบดิจิตอลฯที่เพื่อไทยคิด คือ แจกบัตรของขวัญ ยังไม่เป็นเงิน แต่มีมูลค่าเท่ากับเงิน ยังไม่กู้ จะกู้เมื่อครบกำหนดให้แลกเป็นเงิน เช่นหกเดือนแรกให้เปลี่ยนได้ ห้าหมื่นล้านก็กู้ห้าหมื่นล้าน ครบหนึ่งปี แลกเป็นเงินแสนล้านก็กู้แสนล้าน แล้วแต่เขากำหนด....
ถามว่าอย่างไหนเป็นภาระ แบบกู้เลย นั่นแหละ
แล้วแบบที่สอง ถ้าหากเงินมันหมุนไปอย่างที่เขาคิด อาจจะไม่ต้องกู้เลย เพราะภาษีคืนกลับมาอาจจะโคฟเวอร์กับจอดเงินที่จ่ายก็ได้
ส่วนจะทำได้หรือไม่ ลองไปดูคำตัดสินเรื่องสัมปะทาน กับสรรพสามิต สมัยคุณทักษิณดูครับ....แม้ยอดเงินที่ได้รับเท่ากัน แถมได้เงินมาใช้ก่อนทุกเดือน แทนที่จะรับสิ้นปี...แต่ผลก็เป็นแบบนั้น ครั้งนี้ก็เหมือนกันแหละ ....ทำไงก็ไม่รอด....
เอาเงินใส่เป๋าตัง-ดิจิตอลวอลเล็ท ต่างกันไง?
ถ้าเอาเงินใส่เป๋าตัง ต้องกู้เงินมาครบจำนวนทีเดียว แล้วยัดเข้าไป.....แบบที่หลาย ๆ ท่านเข้าใจ แบบนี้..
แบบดิจิตอลฯที่เพื่อไทยคิด คือ แจกบัตรของขวัญ ยังไม่เป็นเงิน แต่มีมูลค่าเท่ากับเงิน ยังไม่กู้ จะกู้เมื่อครบกำหนดให้แลกเป็นเงิน เช่นหกเดือนแรกให้เปลี่ยนได้ ห้าหมื่นล้านก็กู้ห้าหมื่นล้าน ครบหนึ่งปี แลกเป็นเงินแสนล้านก็กู้แสนล้าน แล้วแต่เขากำหนด....
ถามว่าอย่างไหนเป็นภาระ แบบกู้เลย นั่นแหละ
แล้วแบบที่สอง ถ้าหากเงินมันหมุนไปอย่างที่เขาคิด อาจจะไม่ต้องกู้เลย เพราะภาษีคืนกลับมาอาจจะโคฟเวอร์กับจอดเงินที่จ่ายก็ได้
ส่วนจะทำได้หรือไม่ ลองไปดูคำตัดสินเรื่องสัมปะทาน กับสรรพสามิต สมัยคุณทักษิณดูครับ....แม้ยอดเงินที่ได้รับเท่ากัน แถมได้เงินมาใช้ก่อนทุกเดือน แทนที่จะรับสิ้นปี...แต่ผลก็เป็นแบบนั้น ครั้งนี้ก็เหมือนกันแหละ ....ทำไงก็ไม่รอด....