สวัสดีค่ะ กระทู้ค่อนข้างยาวนะคะ ^^
เราไม่เคยรู้สึกว่าได้รับความรักเลยจริงๆ ครอบครัวเราก็มีนะคะแต่เหมือนแค่ในนามเลยจริงๆ เขาแค่เลี้ยงดูเราซื้อของให้ตามนั้น แต่ไม่คุยด้วยไม่เล่นด้วย ส่วนใหญ่ถ้าคุยก็คุยเรื่องว่า "อันดับที่เท่าไหร่ในห้อง" "เกรดอะไร" ประมาณนี้อ่ะค่ะ บางทีก็รู้สึกเหมือนเป็นแค่หมากของเขา ไม่เคยได้ทำอะไรที่ตัวเองเลือกเลยค่ะ เราอยากเข้าสตรีมากๆ เคยพูดไปหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ไปทำงานและทิ้งเราไว้ ไม่ให้เราไปสอบค่ะ
รร.ตอนมัธยมก็เลือกให้หมดเลยจริงๆค่ะ บอกตามตรงเลยว่าตอนประถมอยากเข้าสตรีมากจริงๆ ตอนนั้นเสียใจมากเลยค่ะ ตอนนี้ก็ยังเสียใจเป็นไปได้อยากเข้าสตรีมากๆค่ะ บางทีเขาก็บอกว่าไม่ได้คาดหวังอยากเป็นอะไรก็เป็น แต่สุดท้ายก็กดดันเกรดเรา จนเราเครียดและปสด.เรื่องเกรดไปเลยค่ะ ตอนนี้ก็ยังมีเครียดมากๆอยู่ค่ะ ยิ่งช่วงก่อนสอบยิ่งทั้งอ้วก และนอนไม่หลับเลยค่ะ
ส่วนเรื่องเพื่อนๆก็มีนะคะ และก็มีคนรู้จักเยอะด้วยยิ่งตอนประถมเพื่อนครึ่งรร.เลย แต่ว่าเราก็ไปคบเพื่อนคนหนึ่งและ ถูกบูลี่หนักมากๆจนเป็นแผลใจไปเลยค่ะ ตอนนี้ก็ยังกลัวๆอยู่เลยค่ะ
ตอนนั้นเลยได้ย้ายรร.เพราะโดนหนักจริงๆ พอย้ายมาแล้วก็เข้ากับคนที่รร.ใหม่ไม่ได้ค่ะ ทุกคนแบนเราหมดเลย แต่ก็มีเพื่อนคนนึงเข้ามาคุยด้วย ขอสมมุติว่าชื่อ"พี"นะคะ เป็นคนที่ดีมากๆเลยค่ะ ดีจนคิดว่าตัวเองไม่สมควรมีเพื่อนแบบนี้เลย
ตอนน้นค่อนข้างสงสัยเรื่องที่โดนแบน พอไปถามพี พีก็ตอนนั้นพีตอบกลับประมาณว่า เราเข้ามาใหม่แล้วไปตอบคำถามของครูคนหนึ่งได้ คุณครูคนนั้นก็มีพูดในห้องเลยค่ะว่า "เพื่อนย้ายมาใหม่ทำไมมีความรู้มากกว่าอีก" เพื่อนๆเลยไม่ชอบเรา บอกตามตรงว่าตอนนั้นเครียดค่ะ เครียดจนเกรดตก เรียนไม่ได้ สุดท้ายครูภาษาไทยคนเดิมก็พูดในห้องกับเราให้คนทั้งห้องได้ยินตอนใกล้จบการศึกษาว่า "ตอนแรกก็เก่งดีทำไมตอนนี้มาถึงถามอะไรตอบไม่ได้แล้ว" ค่ะ
ตอนนั้นเรานิ่งไปเลย แล้วพอกลับมาอีกทีเราก็เริ่มคิดว่าเรามันไม่ได้เรื่องอะไรประมาณนี้เลยอ่ะค่ะ555 แต่ก็ทนนะคะอยู่ที่นั้นประมาณ 2ปี มีเพื่อนคนเดียวแต่ว่า พีก็ช่วยเราได้เยอะเลยค่ะ ^^
พอจบป.6 เราเลยได้ย้ายมาที่อีกรร.หนึ่ง ตอนม.1ก็ดรียกได้ว่าไม่ค่อยมีเพื่อนเข้าหาเลยค่ะ เพราะหลังจากที่ผ่านเรื่องราวตอนประถมมาเราก็เลยไม่กล้าเข้าหาใครไปเลย เป็นคนเงียบๆไปเลยค่ะ
แต่พอสักพักก็มีเพื่อนมาคุยด้วยเยอะเลยค่ะ แต่สุดท้ายเพื่อนที่เคยบูลลี่เราที่รร.แรกดันมาย้ายมาที่นี่ด้วยขอสมมุติว่าชื่อ "ทา" นะคะ
เราเลยถูกแซะ และนินทาเป็นบางครั้งค่ะ ดีที่คนที่นี่ไม่ได้เกลียดเราทุกคนเลยมีแค่ ทา กับกลุ่มเพื่อนๆของทาที่ตามแซะเรา ซึ่งกลุ่มเพื่อนของทาก็มีเยอะจนงงเลยค่ะ555
การเรียนเราก็ดีขึ้นเพราะอย่างที่ว่า ว่าเราปสด.เรื่องเกรด เริ่มประมาณช่วงนี้แหละค่ะ555
สรุปพอจบม.1 ทาก็ย้ายออกค่ะ เพราะเกรดตกและก็เพื่อนในห้องเริ่มไม่ชอบที่ ทา ไปแซะคนอื่นไปทั่วค่ะ
มาม.2 เราก็เข้ากับเพื่อนได้เยอะเลยค่ะเพราะ ทา ออกไป^^ ยิ่งพอผ่านไปเราก็ยิ่งสนิทกับเพื่อนๆมากกก แต่พอมาเทอม2 ม.2 เพื่อนๆก็เริ่มตีตัวห่างไปจากเรา ก็ไม่ใช่ว่าเขาเกลียดเรานะคะ แต่เราก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน555
สรุปเราก็อยู่กับ "เอฟ" เอฟ(ชื่อสมมุตินะคะ)เป็นเพื่อนที่ทักเราคนแรกในรร.นี้เลยค่ะ ก็คุยๆกันสองคนไปนั้นแหละค่ะ แต่มีเพื่อนที่สมมุติชื่อ "เอน" เข้ามาค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้อะไรเกินไปไหนด้วยกันสามคนก็ดี
แต่เอนเริ่มทำตัวแปลกๆกับเราค่ะ พอตอนนั่งด้วยกันสมมุติเรากำลังจะนั่งข้างเอฟ เอนก็จะมาผลักเราออกแล้วนั่งข้างเอฟแทน เอฟก็คนไม่คิดอะไรด้วย(ไม่คิดอะไรเลย)เอฟก็เลยไม่ได้แอ็คชั่นหรือรู้สึกอะไรกับการกระทำของเอนเลยค่ะ พอตอนไปทัศนศึกษาต้องขึ้นรถบัส เอนก็ดีลกับเอฟไว้ว่าจะนั่งด้วยกัน ส่วนเรานั่งคนเดียวค่ะ ตอนนั้นมีปัญหาเรื่องครอบครัวอยู่ด้วย ช่วงนั้นเรียกได้ว่าทะเลาะกับครอบครัวทุกวันเลยค่ะ เราเลยร้องไห้มะนบนรถบัสนั้นแหละ แต่เราเป็นคนที่ร้องไห้ไม่มีเสียงอยูแล้วค่ะเลยไม่มีใครรู้
เราร้องไห้ไม่มีเสียงเพราะตอนเด็กเราจะชอบโดนคุณยายบอกว่า "ถ้าร้องไห้จะตีปาก" หรือ "ถ้าร้องไห้จะตีให้ตาย" ค่ะ
เอาจริงๆมันทรมาณเหมือนมีใครมาบีบคอเลยค่ะเวลาร้องออกมาแต่ไม่มีเสียง(สำหรับเรานะคะ)
แต่ว่าสุดท้ายตอนไปถึงที่ที่ต้องไปทัศนศึกษาเราก็เดินกันสามคนค่ะ
แต่หลังจากนั้น เอฟ กับ เอน ก็เป็นเพื่อนสนิทกันไปแล้วเราก็โดนทิ้งเลยค่ะ555
แต่ว่าเราเป็นคนเรียนเก่งบวกกับพออยู่คนเดียวได้ ทำงานทุกอย่างคนเดียวได้และตอนนั้นยังมีพีคอยคุยแชทด้วยอยู่ค่ะ ก็เลยไม่เป็นไรมาก
สักพัก พีเริ่มไปมีสังคมใหม่ค่ะ เรียกได้ว่าดังสุดเลยแหละ555 เข้ากับคนเก่งจนตอบแชทเราช้า พูดตามตรงเลยว่าแอบๆนอย แต่ก็คิดว่าตัวเองนอยไม่เข้าเรื่องเลยสลัดความรู้สึกไป สุดท้ายพีก็ห่างเราไปเลยค่ะ ไม่ได้แขทกันเลย 10เดือนทีถึงจะได้คุยกันได้มั้งคะเพราะพีก็มีสะงคมใหม่ ไม่ชอบทักมาก่อนและงานยุ่งด้วย
แต่เราก็เริ่มมองเพื่อนในห้องคนหนึ่งด้วยค่ะ เขาชอบมาถามเราบ่อยๆเรื่องเรียน หรือเรื่องหนังสือที่เราอ่านแล้วซื้อมาอ่านตามค่ะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เก่งนะคะ เก่งค่ะ เก่งกว่าเราหลายขุมเลย เขาเก่งมากและมีเพื่อนเยอะมาก ชอบเล่นฟุตบอล เล่นเกม ใส่แว่น เข้าสังคมเก่ง เรียกได้ว่าสเป็คเราเลยค่ะ เราเลยเริ่มปรึกษากับเพื่อน(สมมุติชื่อ Hค่ะ) เคยรู้จักอยู่บ้างค่อนไปทางสนิทค่ะ พอเริ่มปรึกษาHก็รู้แหละว่าเราชอบใคร แต่ก็เก็บเงียบไว้ Hบอกให้เราลองทักไปหาเขาหล่ยครั้งมากแต่เราไม่กล้าเลยจริงๆ
เพราะคนที่เราเคยชอบ เป็นคนที่บูลลี่เราตอนประถมค่ะ เราเลยกลัวมากกก แต่พอดี เอนเป็นเพื่อนสนิทกับเขา เราเลยปรึกษา เอน ดีที่เอนไม่ได้เป็นคนไม่ดีค่ะ เอนเลยไม่ได้บอกใครว่าเราชอบเขา
แต่เราเลยได้รู้มาแทนว่าเข้าชอบรุ่นพี่คนหนึ่งไปแล้ว
ถ้าถามว่าเราเสียใจมั้ย ไม่ค่ะเพราะเขาชอบพี่คนนั้นไป1อาทิตย์แล้วเลิกชอบเลย เพราะเราได้ยินเขาบอกกับเพื่อนว่ารุ่นพี่คนนั้นงี่เง่าค่ะ เรายังไม่ทันได้เสียใจเลยค่ะ555
สรุปปัจจุบัน เราเรียนเก่งทำทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียวมีงานกลุ่มก็แบกคนเดียวให้จบไปใน1-2วันได้ แต่เราไม่มีเพื่อนเลย เดินคนเดียว นั่งคนเดียว กินข้าวคนเดียว เบื่อและเครียดมาก คนที่ตัวเองชอบก็ไม่กล้าทักกลัวเขาจะใจร้าย TT
ถ้าพอรู้ว่าเราจะแก้ปัญหาประมาณนี้ได้ยังไงช่วยหน่อยเถอะนะคะเราไม่ไหวแล้วจริงๆ ช่วงนี้เริ่มเครียดจนอยากผูกคอตายเลยค่ะ ทุกอย่างมันแย่ไปหมด อยากไปหาหมอมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ครอบครัวไม่ให้ไปค่ะ เขาบอกว่าเปลือง ส่วนเรื่องสายด่วยสุขภาพจิต ไม่กล้าโทรเลยค่ะ เรากลัวคนที่รับสายเหนื่อยหรือไปรบกวนเขาค่ะ TT
ไม่เคยรู้สึกว่าได้รับความรักเลยค่ะ
เราไม่เคยรู้สึกว่าได้รับความรักเลยจริงๆ ครอบครัวเราก็มีนะคะแต่เหมือนแค่ในนามเลยจริงๆ เขาแค่เลี้ยงดูเราซื้อของให้ตามนั้น แต่ไม่คุยด้วยไม่เล่นด้วย ส่วนใหญ่ถ้าคุยก็คุยเรื่องว่า "อันดับที่เท่าไหร่ในห้อง" "เกรดอะไร" ประมาณนี้อ่ะค่ะ บางทีก็รู้สึกเหมือนเป็นแค่หมากของเขา ไม่เคยได้ทำอะไรที่ตัวเองเลือกเลยค่ะ เราอยากเข้าสตรีมากๆ เคยพูดไปหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ไปทำงานและทิ้งเราไว้ ไม่ให้เราไปสอบค่ะ
รร.ตอนมัธยมก็เลือกให้หมดเลยจริงๆค่ะ บอกตามตรงเลยว่าตอนประถมอยากเข้าสตรีมากจริงๆ ตอนนั้นเสียใจมากเลยค่ะ ตอนนี้ก็ยังเสียใจเป็นไปได้อยากเข้าสตรีมากๆค่ะ บางทีเขาก็บอกว่าไม่ได้คาดหวังอยากเป็นอะไรก็เป็น แต่สุดท้ายก็กดดันเกรดเรา จนเราเครียดและปสด.เรื่องเกรดไปเลยค่ะ ตอนนี้ก็ยังมีเครียดมากๆอยู่ค่ะ ยิ่งช่วงก่อนสอบยิ่งทั้งอ้วก และนอนไม่หลับเลยค่ะ
ส่วนเรื่องเพื่อนๆก็มีนะคะ และก็มีคนรู้จักเยอะด้วยยิ่งตอนประถมเพื่อนครึ่งรร.เลย แต่ว่าเราก็ไปคบเพื่อนคนหนึ่งและ ถูกบูลี่หนักมากๆจนเป็นแผลใจไปเลยค่ะ ตอนนี้ก็ยังกลัวๆอยู่เลยค่ะ
ตอนนั้นเลยได้ย้ายรร.เพราะโดนหนักจริงๆ พอย้ายมาแล้วก็เข้ากับคนที่รร.ใหม่ไม่ได้ค่ะ ทุกคนแบนเราหมดเลย แต่ก็มีเพื่อนคนนึงเข้ามาคุยด้วย ขอสมมุติว่าชื่อ"พี"นะคะ เป็นคนที่ดีมากๆเลยค่ะ ดีจนคิดว่าตัวเองไม่สมควรมีเพื่อนแบบนี้เลย
ตอนน้นค่อนข้างสงสัยเรื่องที่โดนแบน พอไปถามพี พีก็ตอนนั้นพีตอบกลับประมาณว่า เราเข้ามาใหม่แล้วไปตอบคำถามของครูคนหนึ่งได้ คุณครูคนนั้นก็มีพูดในห้องเลยค่ะว่า "เพื่อนย้ายมาใหม่ทำไมมีความรู้มากกว่าอีก" เพื่อนๆเลยไม่ชอบเรา บอกตามตรงว่าตอนนั้นเครียดค่ะ เครียดจนเกรดตก เรียนไม่ได้ สุดท้ายครูภาษาไทยคนเดิมก็พูดในห้องกับเราให้คนทั้งห้องได้ยินตอนใกล้จบการศึกษาว่า "ตอนแรกก็เก่งดีทำไมตอนนี้มาถึงถามอะไรตอบไม่ได้แล้ว" ค่ะ
ตอนนั้นเรานิ่งไปเลย แล้วพอกลับมาอีกทีเราก็เริ่มคิดว่าเรามันไม่ได้เรื่องอะไรประมาณนี้เลยอ่ะค่ะ555 แต่ก็ทนนะคะอยู่ที่นั้นประมาณ 2ปี มีเพื่อนคนเดียวแต่ว่า พีก็ช่วยเราได้เยอะเลยค่ะ ^^
พอจบป.6 เราเลยได้ย้ายมาที่อีกรร.หนึ่ง ตอนม.1ก็ดรียกได้ว่าไม่ค่อยมีเพื่อนเข้าหาเลยค่ะ เพราะหลังจากที่ผ่านเรื่องราวตอนประถมมาเราก็เลยไม่กล้าเข้าหาใครไปเลย เป็นคนเงียบๆไปเลยค่ะ
แต่พอสักพักก็มีเพื่อนมาคุยด้วยเยอะเลยค่ะ แต่สุดท้ายเพื่อนที่เคยบูลลี่เราที่รร.แรกดันมาย้ายมาที่นี่ด้วยขอสมมุติว่าชื่อ "ทา" นะคะ
เราเลยถูกแซะ และนินทาเป็นบางครั้งค่ะ ดีที่คนที่นี่ไม่ได้เกลียดเราทุกคนเลยมีแค่ ทา กับกลุ่มเพื่อนๆของทาที่ตามแซะเรา ซึ่งกลุ่มเพื่อนของทาก็มีเยอะจนงงเลยค่ะ555
การเรียนเราก็ดีขึ้นเพราะอย่างที่ว่า ว่าเราปสด.เรื่องเกรด เริ่มประมาณช่วงนี้แหละค่ะ555
สรุปพอจบม.1 ทาก็ย้ายออกค่ะ เพราะเกรดตกและก็เพื่อนในห้องเริ่มไม่ชอบที่ ทา ไปแซะคนอื่นไปทั่วค่ะ
มาม.2 เราก็เข้ากับเพื่อนได้เยอะเลยค่ะเพราะ ทา ออกไป^^ ยิ่งพอผ่านไปเราก็ยิ่งสนิทกับเพื่อนๆมากกก แต่พอมาเทอม2 ม.2 เพื่อนๆก็เริ่มตีตัวห่างไปจากเรา ก็ไม่ใช่ว่าเขาเกลียดเรานะคะ แต่เราก็ไม่รู้เหตุผลเหมือนกัน555
สรุปเราก็อยู่กับ "เอฟ" เอฟ(ชื่อสมมุตินะคะ)เป็นเพื่อนที่ทักเราคนแรกในรร.นี้เลยค่ะ ก็คุยๆกันสองคนไปนั้นแหละค่ะ แต่มีเพื่อนที่สมมุติชื่อ "เอน" เข้ามาค่ะ ตอนแรกเราก็ไม่ได้อะไรเกินไปไหนด้วยกันสามคนก็ดี
แต่เอนเริ่มทำตัวแปลกๆกับเราค่ะ พอตอนนั่งด้วยกันสมมุติเรากำลังจะนั่งข้างเอฟ เอนก็จะมาผลักเราออกแล้วนั่งข้างเอฟแทน เอฟก็คนไม่คิดอะไรด้วย(ไม่คิดอะไรเลย)เอฟก็เลยไม่ได้แอ็คชั่นหรือรู้สึกอะไรกับการกระทำของเอนเลยค่ะ พอตอนไปทัศนศึกษาต้องขึ้นรถบัส เอนก็ดีลกับเอฟไว้ว่าจะนั่งด้วยกัน ส่วนเรานั่งคนเดียวค่ะ ตอนนั้นมีปัญหาเรื่องครอบครัวอยู่ด้วย ช่วงนั้นเรียกได้ว่าทะเลาะกับครอบครัวทุกวันเลยค่ะ เราเลยร้องไห้มะนบนรถบัสนั้นแหละ แต่เราเป็นคนที่ร้องไห้ไม่มีเสียงอยูแล้วค่ะเลยไม่มีใครรู้
เราร้องไห้ไม่มีเสียงเพราะตอนเด็กเราจะชอบโดนคุณยายบอกว่า "ถ้าร้องไห้จะตีปาก" หรือ "ถ้าร้องไห้จะตีให้ตาย" ค่ะ
เอาจริงๆมันทรมาณเหมือนมีใครมาบีบคอเลยค่ะเวลาร้องออกมาแต่ไม่มีเสียง(สำหรับเรานะคะ)
แต่ว่าสุดท้ายตอนไปถึงที่ที่ต้องไปทัศนศึกษาเราก็เดินกันสามคนค่ะ