มั่นใจ”ก้าวไกล”พุ่งทะลุ 20 ล้าน จ่อ 250 เสียง ผิดหวัง”ทักษิณ” เพื่อไทยไหลมาเติม
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4417669
 
 
The Politics ข่าวบ้าน การเมือง สัมภาษณ์พิเศษ พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เจาะลึก วิกฤต-โอกาสของพรรคก้าวไกลกลางวงล้อมชนชั้นนำอนุรักษ์นิยม ขวาจัดสุดขั้วเล่นไม่เลิก เชื่อก้าวไกลพุ่งทะลุ 20 ล้าน จ่อ 250 เสียง คนผิดหวัง ทักษิณ ชินวัตร เพื่อไทย ไหลมาเติม ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้

---

จิรัฏฐ์ ยังคาใจ ทบ.แจงคลิปว่อน กดเอทีเอ็มให้เพื่อน ชี้แบบนี้ผิดกม. จ่อเอาเข้ากมธ.ทหาร
https://www.matichon.co.th/politics/news_4417548

จิรัฏฐ์ ยังคาใจ ทบ.แจงคลิปว่อนทหาร กด ATM ชี้แบบนี้ผิดกม. ย้อนเท่ากับใช้รหัสเดียวกันทั้งค่าย จ่อเอาเข้ากมธ.ทหาร สัปดาห์หน้า
 
จากกรณีที่โซเซียลแชร์ภาพทหารกำลังถอนเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็ม โดยรับถอนเงินไปให้เพื่อนๆ ทหารกองประจำการในผลัดเดียวกันหลายนายนั้น ล่าสุด กองทัพบกได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่า ภาพดังกล่าวเป็น ได้รับการอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาและได้รับความยินยอมจากเพื่อนทหารร่วมผลัดให้มาถอนเงินเบี้ยเลี้ยงจากตู้เอทีเอ็มนั้น
 
ล่าสุด (2 ก.พ.) นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ผู้ออกมาเปิดคลิปดังกล่าว ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เรื่องเด่นเย็นนี้” ทางช่อง 3 ภายหลังกองทัพบกชี้แจงว่า เป็นค่าเบี้ยเลี้ยงทหารเกณฑ์ ว่า กลับเรื่องเรื่องนี้พอชี้แจงมา ดี ที่ชี้แจง จะได้รู้ว่าเป็นเงินอะไร เพราะมันผิดวิสัยการมากดเงินที คนละ 30-40 ใบ และไม่เข้าใจว่า ทำไมทำไมไม่ปล่อยให้เขาออกมากดกันเอง หรือว่าที่ค่ายไม่มีตู้เอทีเอ็ม
 
ส่วนที่กองทัพบก ชี้แจงว่า เป็นการอำนวยความสะดวก นายจิรัฏฐ์ มองว่า ตามกฎหมาย ถือว่าผิดกฏหมาย เพราะไม่ได้ให้ความยินยอมเป็นหนังสือ
 
เมื่อถามย้ำว่า ที่กองทัพบกชี้แจงระบุว่า ได้รับความยินยอมจากเจ้าตัว นายจิรัฏฐ์ ย้อนถามว่า ก็เท่ากับ ต้องใช้รหัสบัตรเอทีเอ็มเหมือนกันทั้งหมดทั้ง 40 ใบ แล้วดูจากคลิปก็ใช้รหัสเดียวกันทั้งค่ายนั่นแหละ มันก็แปลกๆ กดไปทำอะไร ปกติแล้วในค่าย ก็น่าจะมีบริการทุกอย่างแล้ว
 
ส่วนเรื่องนี้จะตามต่อหรือไม่ นายจิรัฏฐ์ ระบุ ตนได้คลิปมาจากผู้ที่เห็น และหวังดี ถ่ายมาให้ดู ซึ่งถ้าตนจำไม่ผิดสัปดาห์หน้านี้ คณะกรรมาธิการการทหาร สภาฯ จะพูดคุยกับหน่วยงานทางทหาร ถึงเรื่องนี้ บัตร ATM. และเบี้ยเลี้ยงทหาร รวมถึงเรื่องการซื้อขาย สด.43 ด้วย

---

สทท.เร่งรัฐติดสปีด ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย โกยรายได้ 3.5 ล้านล้าน
https://www.dailynews.co.th/news/3159401/ 
 
สทท. คาดปี 67 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 30-32 ล้านคน ชี้หากจะดันรายได้รวมให้ได้ 3.5 ล้านล้านบาทตามเป้าหมายรัฐบาลจะต้องดึงต่างชาติให้ได้ 40 ล้านคน

นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ท่องเที่ยวไทยในปี 67 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยทั้งปี จำนวน 30 ล้านคน โดยคาดการณ์ในช่วงไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 4 ของปี 67 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดือนละ 3 ล้านคน หรือไตรมาสละ 9 ล้านคน รวมเป็น 18 ล้านคน ส่วนในช่วงไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 ของปี 67 คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดือนละ 2 ล้านคน หรือไตรมาสละ 6 ล้านคน รวมเป็น 12 ล้านคน ทำให้ตลอดทั้งปีจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 30-32 ล้านคน
 
ขณะที่เป้าหมายของรายได้รวมที่ 3.5 ล้านล้านบาท ตามเป้าหมายของรัฐบาลนั้น รัฐบาลจะต้องทำงานเชิงรุกกับเอกชนเพื่อที่ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศให้ได้ 40 ล้านคน โดยคำนวณจากจำนวนค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อทริปของทั้งปี 66 ที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 5,193 ต่อคนต่อทริป ซึ่งจะทำมีรายได้รวมเฉพาะตลาดต่างประเทศอยู่ที่ 2.3 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นโจทย์ท้าทาย
 
“รัฐบาลจะต้องทำยุทธศาสตร์แบบพุ่งเป้ามากขึ้น โดยทำแผนกระจายแบบไม่กระจุกด้วยการกระจายนักท่องเที่ยวไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ทั้งในพื้นที่โดยรอบกรุงเทพฯ หรือ 6 จังหวัดอันดามัน จังหวัดในอ่าวไทย โดยให้รัฐบาลเป็นผู้วางแผนและใช้เอกชนด้านการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือ เพื่อที่จะทำให้นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะตลาดระยะไกลอย่างยุโรปเข้ามาเที่ยวได้มากขึ้นและเกิดการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยงในภูมิภาค ขณะเดียวกันในพื้นที่ภาคอีสานที่มีศักยภาพที่จะสามารถส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเพื่อนบ้านอย่างลาวเข้าไทยเพิ่มขึ้นได้ ก็จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้ก้าวไปถึงเป้าหมายที่ 3.5 ล้านล้านบาทได้”
 
น.ส.ผกากรอง เทพรักษ์ อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวไตรมาส 4 ของปี 66 อยู่ที่ระดับ 77% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ของปี 66 ที่อยู่ในระดับ 69% สะท้อนสถานการณ์ท่องเที่ยวยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปกติมาก แต่ดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
 
ทั้งนี้คาดการณ์สถานการณ์ท่องเที่ยวไตรมาสที่ 1 ของปี 67 จะอยู่ที่ระดับ 82 ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเล็กน้อยและดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คาดว่าสถานการณ์ท่องเที่ยวทั้งปี 67 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 33.4-34 ล้านคน น้อยกว่าปีที่ 62 อยู่ 16% และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท น้อยกว่าปีที่ 62 อยู่ 18% คาดว่าปี 67 มีจํานวนนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 6.5-7 ล้านคน น้อยกว่าปีที่ 62 อยู่ 40% และมีรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 353,359 ล้านบาท น้อยกว่าปีที่ 62 อยู่ 34%
 
ขณะที่ค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวไทยในไตรมาส 4 ของปี 66 เฉลี่ยอยู่ที่ 4,293 บาทต่อคนต่อทริป ไม่แตกต่างจากไตรมาส 3 ของปี 66 ที่มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 4,285 บาทต่อคนคนต่อทริป แต่แตกต่างจากไตรมาส 1 ของปี 66 มาก ที่มีการใช้จ่ายเฉลี่ย 7,000 บาทต่อคนต่อทริป สะท้อนภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวลงมาก คาดว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนสถานการณ์ท่องเที่ยวไทยไม่ค่อยดี ประชาชน 73% ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นเมื่อเทียบกับก่อนเกิดวิกฤติโควิด-19 โดย 87% มีการลดค่าใช้จ่ายในหมวดของใช้ส่วนตัวมากขึ้น และ 89% มีการลดการซื้อของฝากของที่ระลึกในการเดินทางท่องเที่ยว

---

เกิดเหตุประท้วงรุนแรงในรัฐอุตตราขัณฑ์ของอินเดีย-ตาย 2
https://tna.mcot.net/world-1317508

นิวเดลี 9 ก.พ. – เจ้าหน้าที่อินเดียกล่าวว่า เกิดเหตุประท้วงใช้ความรุนแรงในเมืองฮัลด์วานิ ทางตอนเหนือของอินเดีย หลังจากที่รัฐบาลเดินหน้ารื้อถอนสิ่งที่ทางการเรียกว่าการบุกรุกพื้นที่อย่างผิดกฎหมาย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บอีกมากกว่า 80 ราย
 
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เหตุรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีเมื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐอุตตราขัณฑ์เดินหน้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ไม่ได้ขึ้นทะเบียนว่าเป็นสถานศึกษา หรือสถานที่สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาของศาสนามุสลิม แม้ชาวบ้านจะระบุว่าเป็นพื้นที่ทางศาสนาก็ตาม เจ้าหน้าที่กล่าวยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุประท้วง 2 ราย และมี 3 รายบาดเจ็บสาหัส ส่วนอีกกว่า 80 รายได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากถูกหินปาเข้าใส่ ซึ่งในจำนวนผู้บาดเจ็บนี้มีทั้งตำรวจและนักข่าวรวมอยู่ด้วย
 
สมาชิกรัฐสภาที่เป็นตัวแทนของพรรคคองเกรส ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอินเดียกล่าวว่า เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากการกระทำที่เร่งด่วนของผู้บริหาร ชาวบ้านควรจะได้รับแจ้งก่อนที่จะเริ่มการรื้อถอน ในขณะที่มุขมนตรีของรัฐอุตตราขัณฑ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะใฃ้มาตการขั้นเด็ดขาดกับผู้ประท้วง ตำรวจได้รับคำสั่งให้ใช้ความเด็ดขาด ขณะนี้กำลังหาตัวผู้ก่อเหตุวางเพลิงและขว้างปาก้อนหิน สำหรับเมืองฮัลด์วานิ มีประกาศเคอร์ฟิวเป็นวันที่ 2 แล้ว.-813.-สำนักข่าวไทย