เครือข่ายแรงงานฯ ยื่นอัยการสูงสุด ยุติดำเนินคดีการเมือง 774 คดี ลดความขัดแย้ง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8089253
เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน ยื่นหนังสือถึง อัยการสูงสุด เรียกร้องยุติดำเนินคดีทางการเมือง 774 คดี เชื่อช่วยคลี่คลายความขัดแย้งได้
เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2567 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน เดินทางไปยื่นหนังสือถึง อัยการสูงสุด ขอให้ยุติการดำเนินคดีทางการเมือง เนื่องจากการดำเนินคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
โดยระบุว่า จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่เริ่มการชุมนุมของ “
เยาวชนปลดแอก” เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2563 จนถึงวันที่ 31 ม.ค.2567 มีประชาชนถูกดำเนินคดีจากสถานการณ์ชุมนุทและการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองไปแล้วอย่างน้อย 1,947 คน ในจำนวน 1,268 คดี ในจำนวนนี้ เป็นเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 286 ราย ใน 217 คดี
จากจำนวนคดี 1,268 คดี มี 494 คดีที่สิ้นสุดไปแล้ว เท่ากับยังมีอีกกว่า 774 คดีที่อยู่ในกระบวนการชั้นต่างๆ ของพนักงานอัยการ และคดีทางการเมืองกว่า 774 คดี ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในรัฐบาลพล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเกิดจากมูลเหตุความเห็นที่แตกต่างทางการเมือง และการแสดงออกทางการเมือง ไม่ใช่คดีที่เกิดจากความตั้งใจเป็นอาชญากร
อีกทั้งการดำเนินคดีทางการเมืองนั้น ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชนตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งส่งผลต่อประชาธิปไตย และไม่เป็นผลดีต่อสังคม
ทางเครือข่ายฯ จึงขอให้ อัยการพิจารณาสั่งไม่ฟ้อง ไม่ยื่นคำร้อง ไม่อุทธรณ์ ไม่ฎีกา ไม่ถอนฟ้อง ถอนคำร้อง ถอนอุทธรณ์และถอนฎีกา คดีซึ่งเกิดจากการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทางการเมือง 774 คดีที่ยังไม่ถึงที่สุด เนื่องจากการดำเนินคดีทางการเมืองต่อไปนั้นไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
การไม่ดำเนินคดีจะทำให้หน่วยงานรัฐมีเวลาดูแลประชาชนได้เพิ่มขึ้น และยังมีบทบาทช่วยคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองที่มีมายาวนาน คืนความปกติให้แก่ประชาชน เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนอย่างแท้จริง
"สมชัย" ยัน รัฐบาลคิดหนัก กู้เงิน 5 แสนล้าน ดิจิทัลวอลเล็ต ป.ป.ช.แค่ไม้ 1
https://www.thairath.co.th/news/politic/2761941
"สมชัย" อดีต กกต.โพสต์เฟซบุ๊ก รัฐบาลต้องคิดหนัก กู้เงิน 5 แสนล้าน มาแจกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ยก มี 4 ไม้ ชี้ ป.ป.ช.แค่ไม้หนึ่ง คตง.-กกต.ศาล ยังตามมาอีกหากพบมีการทุจริต บอก เสียงจิ้งจกทัก ไม่ต้องเชื่อก็ได้
วันที่ 9 ก.พ. 2567 นายส
มชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.โพสต์เฟซบุ๊ก รัฐบาลต้องคิดหนัก กู้เงิน 5 แสนล้าน มาแจกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ยก 4 มีไม้ ชี้ ป.ป.ช.แค่ไม้หนึ่ง คตง.-กกต.ศาล ยังตามมาอีกหากพบมีการทุจริต บอก เสียงจิ้งจกทัก ไม่ต้องเชื่อก็ได้
คำแนะนำของ ปปช. อาจเป็นเพียงแค่ไม้หนึ่ง
วันนี้ จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาล ต้องคิดหนักเรื่อง การกู้เงินมาแจกว่าจะเดินหน้าอย่างไรจึงไม่ผิดกฎหมาย
เพราะไม้สอง ไม้สาม ไม้สี่ ยังอาจตามมาและหนักหน่วงยิ่งกว่านี้
ม. 245 ของรัฐธรรมนูญ ให้ คตง. ปปช. กกต. ประชุมร่วมกัน ในกรณีที่มีการกระทำผิดวินัยการเงินการคลังของรัฐ อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่การเงินการคลังของรัฐอย่างร้ายแรง โดยให้แจ้ง สภาผู้แทน วุฒิสภา และ ครม. ทราบ นี่อาจเป็นไม้สองที่ตามมา
ม. 148 ของรัฐธรรมนูญยังมีกลไกให้ส่ง ร่าง พ.ร.บ. ที่อาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งหากขัดในสาระสำคัญ กฎหมายก็ตกไปทั้งฉบับ ซึ่งหลายคนเดาว่าอาจเกิดขึ้น หาก ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้าน ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เป็นไม้สาม แต่อาจไม่จบเท่านี้
ม. 234 และ ม.235 ของรัฐธรรมนูญยังให้อำนาจ ปปช. ในการไต่สวนในกรณี ครม. จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือขัดต่อกฎหมาย ซึ่งมีปลายทางที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามด้วยการพ้นตำแหน่ง และตัดสิทธิทางการเมือง อาจจะตามมาเป็นไม้สี่
ทั้งหมดเป็นแค่เสียงจิ้งจกทักครับ ไม่ต้องเชื่อก็ได้
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid027diq3k2B6HkdL2MJ7xczBbRYr4TzLk2uQqAdYRQUGwzzrw8z1jeAKsgUJ8oN8wKbl
พิษดอกเบี้ย ที่ดินแพง ราคาบ้านกทม.-ปริมณฑลพุ่งขึ้น 24% ปีนี้จ่อขยับอีก 5-10%
https://www.matichon.co.th/economy/news_4416768
พิษดอกเบี้ย ที่ดินแพง ราคาบ้านกทม.-ปริมณฑลพุ่งขึ้น 24% ปีนี้จ่อขยับอีก 5-10%
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ นาย
ประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล พี เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ปี 2566 ราคาที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5.49 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 24% จากปี 2565 โดยมีจำนวนโครงการเปิดตัวใหม่ทั้งหมด 437 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 544,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% และ 18% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งการเปิดตัวใหม่ 99,012 หน่วย ลดลง 4% มีอัตราการขายเฉลี่ย ณ วันเปิดตัวโครงการอยู่ที่ 17% ของมูลค่าโครงการที่เปิดตัว
“
จำนวนหน่วยเปิดตัวปี 2566 ลดลง เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยต่อหน่วยในปี 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ผนวกกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้มีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการเปิดตัวโครงการราคาที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ทำให้มูลค่าการเปิดตัวโครงการปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยเปิดตัวที่ลดลง” นาย
ประพันธ์ศักดิ์กล่าว
นายประพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า จากการเปิดตัวโครงการจำนวนมากในปี 2566 ทำให้มีจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยคงค้างในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล (Inventory) ณ สิ้นปี 2566 ประเภทบ้านพักอาศัยจำนวน 145,634 หน่วย เพิ่มขึ้น 12.6% ในขณะที่คอนโดมิเนียมมีหน่วยคงค้าง 84,200 หน่วย ลดลง 1.7% โดยจำนวนหน่วยคงค้างดังกล่าวทำให้บ้านพักอาศัยต้องใช้ระยะเวลาในการขายประมาณ 4-5 ปีและกลุ่มคอนโดมิเนียม ใช้เวลาในการขายประมาณ 1-2 ปี
“
คาดการณ์จำนวนและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งประเทศ มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2566 อยู่ที่ 1.06-1.08 ล้านล้านบาท หรือ ทรงตัวใกล้เคียงกับปี 2565 หรือเพิ่มขึ้น 1-2% โดยราคาเฉลี่ยในการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 2.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.99 %” นาย
ประพันธ์ศักดิ์กล่าว
นาย
ประพันธ์ศักดิ์กล่าว ทั้งนี้ราคาขายเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวในปี 2566 ที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงราคาเฉลี่ยในการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มว่าราคาเฉลี่ยในการโอนกรรมสิทธิ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงสภาพตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2566 ที่ต้นทุนในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวสูงขึ้นจากหลายปัจจัยทั้งราคาที่ดิน วัสดุก่อสร้าง รวมไปถึงต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวสูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
และปัจจัยดังกล่าว รวมถึงค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับตัวสูงขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลในปี 2567 ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาที่อยู่อาศัยในปี 2567 ที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-10% โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ที่ราคาที่ดินมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าและในทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการความต้องการของผู้ซื้อ ซึ่งที่ดินในทำเลดังกล่าว มีจำนวนจำกัด ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลโดยตรงต่อราคาที่อยู่อาศัยในปี 2567 ที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น
JJNY : เครือข่ายแรงงานฯ ยื่นอัยการสูงสุด│สมชัยยันรบ.คิดหนัก│พิษดอกเบี้ย ที่ดินแพง ราคาบ้านพุ่ง│วิกฤตแล้ว! ญี่ปุ่นหนาวจัด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_8089253
เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2567 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน เดินทางไปยื่นหนังสือถึง อัยการสูงสุด ขอให้ยุติการดำเนินคดีทางการเมือง เนื่องจากการดำเนินคดีที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
โดยระบุว่า จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่เริ่มการชุมนุมของ “เยาวชนปลดแอก” เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2563 จนถึงวันที่ 31 ม.ค.2567 มีประชาชนถูกดำเนินคดีจากสถานการณ์ชุมนุทและการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองไปแล้วอย่างน้อย 1,947 คน ในจำนวน 1,268 คดี ในจำนวนนี้ เป็นเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 286 ราย ใน 217 คดี
จากจำนวนคดี 1,268 คดี มี 494 คดีที่สิ้นสุดไปแล้ว เท่ากับยังมีอีกกว่า 774 คดีที่อยู่ในกระบวนการชั้นต่างๆ ของพนักงานอัยการ และคดีทางการเมืองกว่า 774 คดี ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และเกิดจากมูลเหตุความเห็นที่แตกต่างทางการเมือง และการแสดงออกทางการเมือง ไม่ใช่คดีที่เกิดจากความตั้งใจเป็นอาชญากร
อีกทั้งการดำเนินคดีทางการเมืองนั้น ละเมิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชนตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งส่งผลต่อประชาธิปไตย และไม่เป็นผลดีต่อสังคม
ทางเครือข่ายฯ จึงขอให้ อัยการพิจารณาสั่งไม่ฟ้อง ไม่ยื่นคำร้อง ไม่อุทธรณ์ ไม่ฎีกา ไม่ถอนฟ้อง ถอนคำร้อง ถอนอุทธรณ์และถอนฎีกา คดีซึ่งเกิดจากการชุมนุมทางการเมืองหรือการแสดงออกทางการเมือง 774 คดีที่ยังไม่ถึงที่สุด เนื่องจากการดำเนินคดีทางการเมืองต่อไปนั้นไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
การไม่ดำเนินคดีจะทำให้หน่วยงานรัฐมีเวลาดูแลประชาชนได้เพิ่มขึ้น และยังมีบทบาทช่วยคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมืองที่มีมายาวนาน คืนความปกติให้แก่ประชาชน เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนอย่างแท้จริง
"สมชัย" ยัน รัฐบาลคิดหนัก กู้เงิน 5 แสนล้าน ดิจิทัลวอลเล็ต ป.ป.ช.แค่ไม้ 1
https://www.thairath.co.th/news/politic/2761941
"สมชัย" อดีต กกต.โพสต์เฟซบุ๊ก รัฐบาลต้องคิดหนัก กู้เงิน 5 แสนล้าน มาแจกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ยก มี 4 ไม้ ชี้ ป.ป.ช.แค่ไม้หนึ่ง คตง.-กกต.ศาล ยังตามมาอีกหากพบมีการทุจริต บอก เสียงจิ้งจกทัก ไม่ต้องเชื่อก็ได้
วันที่ 9 ก.พ. 2567 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.โพสต์เฟซบุ๊ก รัฐบาลต้องคิดหนัก กู้เงิน 5 แสนล้าน มาแจกโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ยก 4 มีไม้ ชี้ ป.ป.ช.แค่ไม้หนึ่ง คตง.-กกต.ศาล ยังตามมาอีกหากพบมีการทุจริต บอก เสียงจิ้งจกทัก ไม่ต้องเชื่อก็ได้
คำแนะนำของ ปปช. อาจเป็นเพียงแค่ไม้หนึ่ง
วันนี้ จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาล ต้องคิดหนักเรื่อง การกู้เงินมาแจกว่าจะเดินหน้าอย่างไรจึงไม่ผิดกฎหมาย
เพราะไม้สอง ไม้สาม ไม้สี่ ยังอาจตามมาและหนักหน่วงยิ่งกว่านี้
ม. 245 ของรัฐธรรมนูญ ให้ คตง. ปปช. กกต. ประชุมร่วมกัน ในกรณีที่มีการกระทำผิดวินัยการเงินการคลังของรัฐ อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่การเงินการคลังของรัฐอย่างร้ายแรง โดยให้แจ้ง สภาผู้แทน วุฒิสภา และ ครม. ทราบ นี่อาจเป็นไม้สองที่ตามมา
ม. 148 ของรัฐธรรมนูญยังมีกลไกให้ส่ง ร่าง พ.ร.บ. ที่อาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งหากขัดในสาระสำคัญ กฎหมายก็ตกไปทั้งฉบับ ซึ่งหลายคนเดาว่าอาจเกิดขึ้น หาก ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 500,000 ล้าน ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เป็นไม้สาม แต่อาจไม่จบเท่านี้
ม. 234 และ ม.235 ของรัฐธรรมนูญยังให้อำนาจ ปปช. ในการไต่สวนในกรณี ครม. จงใจปฏิบัติหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือขัดต่อกฎหมาย ซึ่งมีปลายทางที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตามด้วยการพ้นตำแหน่ง และตัดสิทธิทางการเมือง อาจจะตามมาเป็นไม้สี่
ทั้งหมดเป็นแค่เสียงจิ้งจกทักครับ ไม่ต้องเชื่อก็ได้
https://www.facebook.com/somchaivision/posts/pfbid027diq3k2B6HkdL2MJ7xczBbRYr4TzLk2uQqAdYRQUGwzzrw8z1jeAKsgUJ8oN8wKbl
พิษดอกเบี้ย ที่ดินแพง ราคาบ้านกทม.-ปริมณฑลพุ่งขึ้น 24% ปีนี้จ่อขยับอีก 5-10%
https://www.matichon.co.th/economy/news_4416768
พิษดอกเบี้ย ที่ดินแพง ราคาบ้านกทม.-ปริมณฑลพุ่งขึ้น 24% ปีนี้จ่อขยับอีก 5-10%
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่นส์ จำกัด บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล พี เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมที่อยู่อาศัยในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ปี 2566 ราคาที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 5.49 ล้านบาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 24% จากปี 2565 โดยมีจำนวนโครงการเปิดตัวใหม่ทั้งหมด 437 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 544,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% และ 18% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งการเปิดตัวใหม่ 99,012 หน่วย ลดลง 4% มีอัตราการขายเฉลี่ย ณ วันเปิดตัวโครงการอยู่ที่ 17% ของมูลค่าโครงการที่เปิดตัว
“จำนวนหน่วยเปิดตัวปี 2566 ลดลง เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยต่อหน่วยในปี 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ผนวกกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้มีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านบาทเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการเปิดตัวโครงการราคาที่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ทำให้มูลค่าการเปิดตัวโครงการปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยเปิดตัวที่ลดลง” นายประพันธ์ศักดิ์กล่าว
นายประพันธ์ศักดิ์กล่าวว่า จากการเปิดตัวโครงการจำนวนมากในปี 2566 ทำให้มีจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยคงค้างในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล (Inventory) ณ สิ้นปี 2566 ประเภทบ้านพักอาศัยจำนวน 145,634 หน่วย เพิ่มขึ้น 12.6% ในขณะที่คอนโดมิเนียมมีหน่วยคงค้าง 84,200 หน่วย ลดลง 1.7% โดยจำนวนหน่วยคงค้างดังกล่าวทำให้บ้านพักอาศัยต้องใช้ระยะเวลาในการขายประมาณ 4-5 ปีและกลุ่มคอนโดมิเนียม ใช้เวลาในการขายประมาณ 1-2 ปี
“คาดการณ์จำนวนและมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ทั้งประเทศ มีมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั่วประเทศในปี 2566 อยู่ที่ 1.06-1.08 ล้านล้านบาท หรือ ทรงตัวใกล้เคียงกับปี 2565 หรือเพิ่มขึ้น 1-2% โดยราคาเฉลี่ยในการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 อยู่ที่ 2.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.99 %” นายประพันธ์ศักดิ์กล่าว
นายประพันธ์ศักดิ์กล่าว ทั้งนี้ราคาขายเฉลี่ยของที่อยู่อาศัยที่เปิดตัวในปี 2566 ที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงราคาเฉลี่ยในการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยที่มีแนวโน้มว่าราคาเฉลี่ยในการโอนกรรมสิทธิ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงสภาพตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2566 ที่ต้นทุนในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่ปรับตัวสูงขึ้นจากหลายปัจจัยทั้งราคาที่ดิน วัสดุก่อสร้าง รวมไปถึงต้นทุนทางการเงินที่ปรับตัวสูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
และปัจจัยดังกล่าว รวมถึงค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับตัวสูงขึ้นตามนโยบายของรัฐบาลในปี 2567 ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาที่อยู่อาศัยในปี 2567 ที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-10% โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และ ปริมณฑล ที่ราคาที่ดินมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าและในทำเลที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับการความต้องการของผู้ซื้อ ซึ่งที่ดินในทำเลดังกล่าว มีจำนวนจำกัด ทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลโดยตรงต่อราคาที่อยู่อาศัยในปี 2567 ที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น