นายกฯ เศรษฐา มอง จีน ผลิตกางเกงลายช้างได้ราคาถูก ตีตลาดไทย เป็นการฉวยโอกาส ไม่ได้เกิดครั้งแรก จะต้องนำเป็นบทเรียนเพื่อชิงการตลาดกลับมา จ่อยกระดับพาสปอร์ตของไทย ชิงการเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้
เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 4 ก.พ. 2567 ที่ท่าอาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์เรื่องกางเกงช้างที่ถือเป็น Soft Power ของไทย แต่บริษัทในจีนได้ผลิต และส่งมาขายยังประเทศไทยในราคาที่ถูกกว่าจำนวนมาก จนทำให้คนไทยเสียดุลการค้า และเป็นเรื่องลิขสิทธิ์ด้วย ว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องการค้า ซึ่งที่ไหนมีโอกาสเขาก็ฉกฉวยกันไป โดยตนเชื่อว่าเราก็จะต้องดูของเรื่องลิขสิทธิ์ รวมถึงความรวดเร็วในการฉกฉวยโอกาสทางการค้า เพราะถ้าเราช้าก็จะมีคนนำไปทำก่อน ซึ่งตรงนี้ถือเป็นบทเรียนอย่างหนึ่งที่เราจะต้องนำมาพูดคุยกัน เมื่อถามย้ำว่าจะต้องมีการวางแผนในการผลิตกางเกงช้างเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องแก้ในเรื่องรากฐานก่อนดีกว่า ว่าจริงๆ แล้วเราเข้าใจวิธีการทำการตลาดหรือไม่ และมีการปกป้องเรื่องลิขสิทธิ์หรือเปล่า เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการค้าหรือธุรกิจ เพราะตรงไหนมีโอกาสก็จะมีผู้ฉกฉวยโอกาสนั้น เพราะหากช้าก็จะเสียโอกาสไป เหมือนอย่างในหลายๆ เรื่องที่เรายังช้า และทำไม่ทันใจ ซึ่งก็ต้องเร่ง อย่างเช่น การทำเรื่องวีซ่าฟรี และยกระดับพาสปอร์ตของไทย ที่จะต้องเป็นผู้นำในการทำตรงนี้ ฉะนั้นเราก็จะต้องฉกฉวยโอกาสในการเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้ พร้อมมองว่าปัญหาดังกล่าว ถือเป็นเรื่องเล็กๆ แต่สะท้อนการทำงานในภาพใหญ่ ที่ต้องทำงานให้ไวและคิดให้เร็ว และปกป้องประโยชน์ของประเทศชาติ.
กางเกงช้าง เกิดที่ไทย โตเพราะ จีนตีตลาดไทย สะท้อนปัญหาใหญ่
เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 4 ก.พ. 2567 ที่ท่าอาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์เรื่องกางเกงช้างที่ถือเป็น Soft Power ของไทย แต่บริษัทในจีนได้ผลิต และส่งมาขายยังประเทศไทยในราคาที่ถูกกว่าจำนวนมาก จนทำให้คนไทยเสียดุลการค้า และเป็นเรื่องลิขสิทธิ์ด้วย ว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องการค้า ซึ่งที่ไหนมีโอกาสเขาก็ฉกฉวยกันไป โดยตนเชื่อว่าเราก็จะต้องดูของเรื่องลิขสิทธิ์ รวมถึงความรวดเร็วในการฉกฉวยโอกาสทางการค้า เพราะถ้าเราช้าก็จะมีคนนำไปทำก่อน ซึ่งตรงนี้ถือเป็นบทเรียนอย่างหนึ่งที่เราจะต้องนำมาพูดคุยกัน เมื่อถามย้ำว่าจะต้องมีการวางแผนในการผลิตกางเกงช้างเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ต้องแก้ในเรื่องรากฐานก่อนดีกว่า ว่าจริงๆ แล้วเราเข้าใจวิธีการทำการตลาดหรือไม่ และมีการปกป้องเรื่องลิขสิทธิ์หรือเปล่า เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการค้าหรือธุรกิจ เพราะตรงไหนมีโอกาสก็จะมีผู้ฉกฉวยโอกาสนั้น เพราะหากช้าก็จะเสียโอกาสไป เหมือนอย่างในหลายๆ เรื่องที่เรายังช้า และทำไม่ทันใจ ซึ่งก็ต้องเร่ง อย่างเช่น การทำเรื่องวีซ่าฟรี และยกระดับพาสปอร์ตของไทย ที่จะต้องเป็นผู้นำในการทำตรงนี้ ฉะนั้นเราก็จะต้องฉกฉวยโอกาสในการเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวของภูมิภาคนี้ พร้อมมองว่าปัญหาดังกล่าว ถือเป็นเรื่องเล็กๆ แต่สะท้อนการทำงานในภาพใหญ่ ที่ต้องทำงานให้ไวและคิดให้เร็ว และปกป้องประโยชน์ของประเทศชาติ.