สวัสดีครับ ผมมีเรื่องเดือดร้อน ต้องการสอบถามและขอคำชี้แนะจากผู้รู้กฏหมายทั้งหลายครับ โดยเรื่องเป็นอย่างนี้ครับ
วันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่าน คู่กรณีของผมได้ยืมรถมอเตอร์ไซค์ของผมไปขับและได้เกิดอุบัติเหตุชนกับเสาหลักกิโล ตัวคู่กรณีบาดเจ็บเล็กน้อยแต่รถของผมเสียหายพังยับเกือบทั้งคัน ผมจึงเรียกตำรวจมาเพื่อดูที่เกิดเหตุและได้นำรถที่เสียหายไปโรงพัก ซึ่งคู่กรณีของผมไม่ได้ให้ความร่วมมือใดๆ เลย เช่น ไม่ได้แจ้งชื่อและที่อยู่ให้ตำรวจ (ผมต้องไปสืบหาเอาเอง) หายไปจากที่เกิดเหตุ โดยหลังจากนั่นผมได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน. ไว้เป็นหลักฐาน
วันที่ 25 ธันวาคม ผมและคู่กรณีได้ไปให้ปากคำที่ สน. ซึ่งทางคู่กรณียอมรับผิดทุกอย่างและจะยอมซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ของผมให้กลับมาสภาพเดิม แต่เนื่องจากตกลงเรื่องราคาซ่อมกับอู่ที่จะส่งซ่อมไม่ได้ จึงยุติการสอบปากคำและลงลายมือชื่อในใบบันทึกประจำวันทั้งผม คู่กรณี และร้อยเวรที่รับเรื่องไว้เพียงเท่านี้ครับ
วันที่ 2 มกราคม ผมและคู่กรณีได้เดินทางไปที่ สน. อีกครั้งเพื่อแจ้งเรื่องราคาและอู่ที่จะส่งซ่อม โดยผมและคู่กรณีได้ตกลงกันว่าจะส่งซ่อมที่ศูนย์ยามาฮ่าใกล้ๆ บ้าน ซึ่งช่างที่ศูนย์ฯ ตีราคาค่าอะไหล่เปลี่ยน ค่าซ่อม ค่าแรง ไว้ที่ 12,729 บาท โดยต้องจ่ายมัดจำ 8,000 บาท ช่างถึงจะซ่อมให้ (แต่ไม่ได้ตกลงว่าซ่อมเสร็จภายในกี่วัน) ซึ่งทั้งผมและคู่กรณีมีความเห็นพ้องต้องกัน จึงยุติการสอบปากคำและลงลายมือชื่อในใบบันทึกประจำวันทั้งผม คู่กรณี และร้อยเวรที่รับเรื่องไว้เพียงเท่านี้ครับ
โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งผมและทางศูนย์ฯ ติดต่อทางคู่กรณีเพื่อให้มาจ่ายค่ามัดจำตลอด แต่คู่กรณีของผมบ่ายเบี่ยงที่จะจ่าย โดยอ้างว่าไม่มีเงินบ้าง ตกลงชิ้นส่วนอะไหล่กับช่างไม่ได้บ้าง (ทั้งที่ช่างแจ้งค่าใช้จ่ายมาที่ผมและที่คู่กรณีแล้วก็โอเคกันทั้งสองฝ่าย) ซึ่งมาถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ผมก็ติดต่อคู่กรณีไม่ได้ (ไม่รับโทรศัพท์) แต่ทางศูนย์ฯ ยังติดต่อได้ แต่เขาก็บ่ายเบี่ยงด้วยเหตุผลเดิมๆ
ผมจึงมีคำถามอยากจะเรียนถามผู้รู้หน่อยครับว่า
1.ในกรณีนี้เราจะใช้กฏหมายใด เพื่อทำให้คู่กรณียอมจ่ายเงินตามที่ตกลงกันไว้ได้บ้างครับ (ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยครับถ้ามี เนื่องจากผมไม่ทราบข้อกฏหมายใดๆ เลย)
2.เนื่องจากรถคันนี้เป็นรถที่ต้องใช้ไปทำงานทุกวัน หลังจากเกิดเหตุทำให้ผมต้องนั่งรถโดยสารไปเอง ในกรณีนี้สามารถเรียกร้องค่าชดเชยกรณีทำให้เสียรายได้ได้ไหมครับ
คู่กรณียืมรถไปชนเสากิโลจนรถพังเสียหาย ทางคู่กรณียอมชดใช้ค่าซ่อมรถให้ แต่ผ่านมาเป็นเดือนก็ไม่ไปวางเงินมัดจำกับทางอู่ซักที
วันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่าน คู่กรณีของผมได้ยืมรถมอเตอร์ไซค์ของผมไปขับและได้เกิดอุบัติเหตุชนกับเสาหลักกิโล ตัวคู่กรณีบาดเจ็บเล็กน้อยแต่รถของผมเสียหายพังยับเกือบทั้งคัน ผมจึงเรียกตำรวจมาเพื่อดูที่เกิดเหตุและได้นำรถที่เสียหายไปโรงพัก ซึ่งคู่กรณีของผมไม่ได้ให้ความร่วมมือใดๆ เลย เช่น ไม่ได้แจ้งชื่อและที่อยู่ให้ตำรวจ (ผมต้องไปสืบหาเอาเอง) หายไปจากที่เกิดเหตุ โดยหลังจากนั่นผมได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน. ไว้เป็นหลักฐาน
วันที่ 25 ธันวาคม ผมและคู่กรณีได้ไปให้ปากคำที่ สน. ซึ่งทางคู่กรณียอมรับผิดทุกอย่างและจะยอมซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ของผมให้กลับมาสภาพเดิม แต่เนื่องจากตกลงเรื่องราคาซ่อมกับอู่ที่จะส่งซ่อมไม่ได้ จึงยุติการสอบปากคำและลงลายมือชื่อในใบบันทึกประจำวันทั้งผม คู่กรณี และร้อยเวรที่รับเรื่องไว้เพียงเท่านี้ครับ
วันที่ 2 มกราคม ผมและคู่กรณีได้เดินทางไปที่ สน. อีกครั้งเพื่อแจ้งเรื่องราคาและอู่ที่จะส่งซ่อม โดยผมและคู่กรณีได้ตกลงกันว่าจะส่งซ่อมที่ศูนย์ยามาฮ่าใกล้ๆ บ้าน ซึ่งช่างที่ศูนย์ฯ ตีราคาค่าอะไหล่เปลี่ยน ค่าซ่อม ค่าแรง ไว้ที่ 12,729 บาท โดยต้องจ่ายมัดจำ 8,000 บาท ช่างถึงจะซ่อมให้ (แต่ไม่ได้ตกลงว่าซ่อมเสร็จภายในกี่วัน) ซึ่งทั้งผมและคู่กรณีมีความเห็นพ้องต้องกัน จึงยุติการสอบปากคำและลงลายมือชื่อในใบบันทึกประจำวันทั้งผม คู่กรณี และร้อยเวรที่รับเรื่องไว้เพียงเท่านี้ครับ
โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งผมและทางศูนย์ฯ ติดต่อทางคู่กรณีเพื่อให้มาจ่ายค่ามัดจำตลอด แต่คู่กรณีของผมบ่ายเบี่ยงที่จะจ่าย โดยอ้างว่าไม่มีเงินบ้าง ตกลงชิ้นส่วนอะไหล่กับช่างไม่ได้บ้าง (ทั้งที่ช่างแจ้งค่าใช้จ่ายมาที่ผมและที่คู่กรณีแล้วก็โอเคกันทั้งสองฝ่าย) ซึ่งมาถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ผมก็ติดต่อคู่กรณีไม่ได้ (ไม่รับโทรศัพท์) แต่ทางศูนย์ฯ ยังติดต่อได้ แต่เขาก็บ่ายเบี่ยงด้วยเหตุผลเดิมๆ
ผมจึงมีคำถามอยากจะเรียนถามผู้รู้หน่อยครับว่า
1.ในกรณีนี้เราจะใช้กฏหมายใด เพื่อทำให้คู่กรณียอมจ่ายเงินตามที่ตกลงกันไว้ได้บ้างครับ (ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยครับถ้ามี เนื่องจากผมไม่ทราบข้อกฏหมายใดๆ เลย)
2.เนื่องจากรถคันนี้เป็นรถที่ต้องใช้ไปทำงานทุกวัน หลังจากเกิดเหตุทำให้ผมต้องนั่งรถโดยสารไปเอง ในกรณีนี้สามารถเรียกร้องค่าชดเชยกรณีทำให้เสียรายได้ได้ไหมครับ