ยาวหน่อยนะคะ แต่จะพยายามสรุปแค่บางเรื่องเท่านั้น
เรื่องมีอยู่ว่าดิฉันแต่งงานกับสามีมาสิบกว่าปี มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่การอยู่ด้วยกันไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เพราะถูกฉุดและขังไว้จนมีลูก (ที่จดทะเบียนสมรสก็เพราะมีลูก) ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน พ่อเด็กไม่เคยทำตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวเลย ทำหน้าที่แค่รับ-ส่งลูกไปกลับโรงเรียน แต่ไม่เคยช่วยค่าใช้จ่ายในเรื่องลูกเลย บอกแค่ว่าไม่มี แต่ก็ไม่คิดที่จะหางานประจำทำ รถที่เค้าไปซื้อมาแล้วบอกให้ช่วยกันผ่อน สุดท้ายเราก็เป็นคนผ่อนหลัก ดิฉันต้องไปกู้เงินมาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายขอล
งลูกและค่าใช้จ่ายในบ้าน พอเค้ารู้ เค้าก็โกรธมาก แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเรื่องหนี้สินเลย ลูกไม่สบายมาก ดิฉันขอให้พาไปหาหมอในช่วงที่ดิฉันยังไม่เลิกงาน เค้าก็ไม่พาไป ลูกจะต้องไปทำรายงานกลุ่ม ก็ไม่ให้ไป เพราะตัวเองไม่อยากไปนั่งรอลูก ลูกสายตาสั้น ก็ไม่ให้ใส่แว่น ดิฉันไปแอบตัดแว่นให้ลูก เค้ามาเจอ ก็ขว้างจนแตก จนลูกสายตาสั้นเยอะมากเลยเลี่ยงไม่ได้ ต้องยอมให้ใส่แว่น
ส่วนตัวดิฉัน ห้ามคบเพื่อน ห้ามดูทีวี ห้ามฟังวิทยุ เลิกงานต้องกลับบ้าน ห้ามไปไหนกับใคร ห้ามนั่งรถสาธารณะที่อยู่กับคนขับแค่สองคน ติดจีพีเอสที่รถ ที่โทรศัพท์ มีเรื่องให้ทะเลาะกันตลอด เพราะความคิดเห็นไม่ตรงกัน เวลาที่เค้าโมโห ก็จะทำร้ายร่างกายถึงแม้จะอยู่ต่อหน้าลูกๆ เป็นอย่างนี้มาตลอดสิบกว่าปี
จนวันนึง ดิฉันได้ไปเจอคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจ ช่วยเหลือเราทุกๆด้าน จนเรารู้สึกรักเค้า เค้าจับได้เพราะเห็นในไลน์แชท เค้าก็โมโห ทำร้ายร่างกายและไล่ดิฉันออกจากบ้าน หลังจากนั้นไม่นาน เค้าก็บอกให้ดิฉันกลับไปดูลูก แล้วเค้าจะออกไปเอง แต่เมื่อดิฉันกลับมา เค้าก็อ้างว่ารถเสีย แล้วก็เนียนอยู่ในบ้านต่อ (บ้านเป็นของแม่สามี) และอาจจะเพราะเค้ารู้ว่า เค้าเองก็คงไม่มีที่ไปเหมือนกัน เค้าเลยบอกว่าเรากับเค้าไม่ใช่สามีภรรยากันแล้ว (เพราะเราไม่ได้มีอะไรกับเค้ามาซักพักใหญ่ๆแล้ว เพราะที่อยู่ด้วยกัน ไม่ได้เริ่มจากความรัก เราจะพยายามเลี่ยงถ้าเลี่ยงได้ เพราะถ้าปฏิเสธเค้าก็จะทำร้ายร่างกายเรา) ให้ทำหน้าที่แค่พ่อและแม่กันต่อไป
เราตกลงกันแบบนั้น ว่าจะทำหน้าที่แค่พ่อและแม่ให้ลูก เราจึงยังคุยกับคนที่เรารักต่อ วันนึงเค้าไปถอดกล้องในรถไปดู และได้ยินที่ดิฉันคุยกับคนที่รู้สึกดี เค้ายื่นคำขาดให้เลิก ถ้าเลิก เค้าจะให้อภัย แต่ถ้าไม่เลิก เค้าจะเอาคลิปเสียง (ได้ยินแค่เสียงฝั่งเรา) หรือไลน์แชทไปประจานและทำให้เราทั้งคู่ตกงาน รวมถึงจะเอาเรื่องทางกฏหมาย แล้วก็จะไม่ให้เจอลูกอีก เราก็ถามว่าในเมื่อตกลงกันแล้ว ว่าทำหน้าที่แค่พ่อและแม่ให้ลูก เราก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องในหน้าที่แม่ ทำไมต้องแยกเราออกจากลูก เค้าก็บอกว่าเราจะได้ทั้งสองอย่างไม่ได้ ถ้าเราเอาลูกไป เค้าก็ไม่เหลือใคร
ใจจริง ดิฉันอยากเลิกกับเค้ามาก เพราะอยู่ไปก็ไม่มีความสุข แต่สงสารลูก เพราะลูกคนนึงมีปัญหาเป็นโรคซึมเศร้า ดิฉันก็ไม่ทราบว่าเกิดจากการที่เค้าเห็นพ่อทำร้ายแม่มาตลอดสิบกว่าปีรึเปล่า แต่การที่กลับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ จะทำให้ลูกยิ่งมีปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้นไม๊ เพราะต่อให้กลับไป ดิฉันมั่นใจว่าต้องทะเลาะกันเรื่องนี้อีกแน่ๆ เพราะเค้าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น เรื่องที่จบไปแล้ว ก็จะขุดมาพูดได้อีกถึงแม้จะผ่านไปเป็นสิบปี ดิฉันขอให้เค้านึกถึงความรู้สึกลูก หรือยอมให้เราพาลูกออกมาอยู่ด้วย เค้าก็อ้างว่าออกไป ลูกไม่ปลอดภัย ไม่มีที่ไหนที่ปลอดภัยเท่าที่บ้าน ต่อให้แม่เรามาดูหลาน เค้าก็ไม่ยอม เค้าบอก แม่เราเป็นคนไม่ดี เดี๋ยวลูกเค้าจะไม่ดีตาม
ดิฉันอยากออกมาตั้งหลัก เพื่อหาทางพาลูกออกมาอยู่ด้วย แต่กลัวเรื่องที่เค้าขู่ว่าจะเอาไลน์แชทและคลิปเสียงไปประจานและทำให้ตกงาน
เราควรตัดสินใจยังไงดีคะ ถ้าเราทำตามที่เค้าต้องการ ปัญหาเดิมๆในอดีต ก็จะยังมีเหมือนเดิม แต่ถ้าเราออกมา เค้าก็จะเอาเราไปประจานและทำให้คนที่เรารักและมีบุญคุณเดือดร้อนไปด้วย
อยากปรึกษาเรื่องครอบครัวค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่าดิฉันแต่งงานกับสามีมาสิบกว่าปี มีลูกด้วยกัน 2 คน แต่การอยู่ด้วยกันไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เพราะถูกฉุดและขังไว้จนมีลูก (ที่จดทะเบียนสมรสก็เพราะมีลูก) ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน พ่อเด็กไม่เคยทำตัวเป็นหัวหน้าครอบครัวเลย ทำหน้าที่แค่รับ-ส่งลูกไปกลับโรงเรียน แต่ไม่เคยช่วยค่าใช้จ่ายในเรื่องลูกเลย บอกแค่ว่าไม่มี แต่ก็ไม่คิดที่จะหางานประจำทำ รถที่เค้าไปซื้อมาแล้วบอกให้ช่วยกันผ่อน สุดท้ายเราก็เป็นคนผ่อนหลัก ดิฉันต้องไปกู้เงินมาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายขอล
งลูกและค่าใช้จ่ายในบ้าน พอเค้ารู้ เค้าก็โกรธมาก แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเรื่องหนี้สินเลย ลูกไม่สบายมาก ดิฉันขอให้พาไปหาหมอในช่วงที่ดิฉันยังไม่เลิกงาน เค้าก็ไม่พาไป ลูกจะต้องไปทำรายงานกลุ่ม ก็ไม่ให้ไป เพราะตัวเองไม่อยากไปนั่งรอลูก ลูกสายตาสั้น ก็ไม่ให้ใส่แว่น ดิฉันไปแอบตัดแว่นให้ลูก เค้ามาเจอ ก็ขว้างจนแตก จนลูกสายตาสั้นเยอะมากเลยเลี่ยงไม่ได้ ต้องยอมให้ใส่แว่น
ส่วนตัวดิฉัน ห้ามคบเพื่อน ห้ามดูทีวี ห้ามฟังวิทยุ เลิกงานต้องกลับบ้าน ห้ามไปไหนกับใคร ห้ามนั่งรถสาธารณะที่อยู่กับคนขับแค่สองคน ติดจีพีเอสที่รถ ที่โทรศัพท์ มีเรื่องให้ทะเลาะกันตลอด เพราะความคิดเห็นไม่ตรงกัน เวลาที่เค้าโมโห ก็จะทำร้ายร่างกายถึงแม้จะอยู่ต่อหน้าลูกๆ เป็นอย่างนี้มาตลอดสิบกว่าปี
จนวันนึง ดิฉันได้ไปเจอคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจ ช่วยเหลือเราทุกๆด้าน จนเรารู้สึกรักเค้า เค้าจับได้เพราะเห็นในไลน์แชท เค้าก็โมโห ทำร้ายร่างกายและไล่ดิฉันออกจากบ้าน หลังจากนั้นไม่นาน เค้าก็บอกให้ดิฉันกลับไปดูลูก แล้วเค้าจะออกไปเอง แต่เมื่อดิฉันกลับมา เค้าก็อ้างว่ารถเสีย แล้วก็เนียนอยู่ในบ้านต่อ (บ้านเป็นของแม่สามี) และอาจจะเพราะเค้ารู้ว่า เค้าเองก็คงไม่มีที่ไปเหมือนกัน เค้าเลยบอกว่าเรากับเค้าไม่ใช่สามีภรรยากันแล้ว (เพราะเราไม่ได้มีอะไรกับเค้ามาซักพักใหญ่ๆแล้ว เพราะที่อยู่ด้วยกัน ไม่ได้เริ่มจากความรัก เราจะพยายามเลี่ยงถ้าเลี่ยงได้ เพราะถ้าปฏิเสธเค้าก็จะทำร้ายร่างกายเรา) ให้ทำหน้าที่แค่พ่อและแม่กันต่อไป
เราตกลงกันแบบนั้น ว่าจะทำหน้าที่แค่พ่อและแม่ให้ลูก เราจึงยังคุยกับคนที่เรารักต่อ วันนึงเค้าไปถอดกล้องในรถไปดู และได้ยินที่ดิฉันคุยกับคนที่รู้สึกดี เค้ายื่นคำขาดให้เลิก ถ้าเลิก เค้าจะให้อภัย แต่ถ้าไม่เลิก เค้าจะเอาคลิปเสียง (ได้ยินแค่เสียงฝั่งเรา) หรือไลน์แชทไปประจานและทำให้เราทั้งคู่ตกงาน รวมถึงจะเอาเรื่องทางกฏหมาย แล้วก็จะไม่ให้เจอลูกอีก เราก็ถามว่าในเมื่อตกลงกันแล้ว ว่าทำหน้าที่แค่พ่อและแม่ให้ลูก เราก็ไม่ได้ขาดตกบกพร่องในหน้าที่แม่ ทำไมต้องแยกเราออกจากลูก เค้าก็บอกว่าเราจะได้ทั้งสองอย่างไม่ได้ ถ้าเราเอาลูกไป เค้าก็ไม่เหลือใคร
ใจจริง ดิฉันอยากเลิกกับเค้ามาก เพราะอยู่ไปก็ไม่มีความสุข แต่สงสารลูก เพราะลูกคนนึงมีปัญหาเป็นโรคซึมเศร้า ดิฉันก็ไม่ทราบว่าเกิดจากการที่เค้าเห็นพ่อทำร้ายแม่มาตลอดสิบกว่าปีรึเปล่า แต่การที่กลับไปอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ จะทำให้ลูกยิ่งมีปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้นไม๊ เพราะต่อให้กลับไป ดิฉันมั่นใจว่าต้องทะเลาะกันเรื่องนี้อีกแน่ๆ เพราะเค้าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น เรื่องที่จบไปแล้ว ก็จะขุดมาพูดได้อีกถึงแม้จะผ่านไปเป็นสิบปี ดิฉันขอให้เค้านึกถึงความรู้สึกลูก หรือยอมให้เราพาลูกออกมาอยู่ด้วย เค้าก็อ้างว่าออกไป ลูกไม่ปลอดภัย ไม่มีที่ไหนที่ปลอดภัยเท่าที่บ้าน ต่อให้แม่เรามาดูหลาน เค้าก็ไม่ยอม เค้าบอก แม่เราเป็นคนไม่ดี เดี๋ยวลูกเค้าจะไม่ดีตาม
ดิฉันอยากออกมาตั้งหลัก เพื่อหาทางพาลูกออกมาอยู่ด้วย แต่กลัวเรื่องที่เค้าขู่ว่าจะเอาไลน์แชทและคลิปเสียงไปประจานและทำให้ตกงาน
เราควรตัดสินใจยังไงดีคะ ถ้าเราทำตามที่เค้าต้องการ ปัญหาเดิมๆในอดีต ก็จะยังมีเหมือนเดิม แต่ถ้าเราออกมา เค้าก็จะเอาเราไปประจานและทำให้คนที่เรารักและมีบุญคุณเดือดร้อนไปด้วย