ผมกับแฟนคบกันเมื่อประมาณปี 2548 ตอนนั้นผมกำลังเรียนอยู่เทคนิค ปวส. ผมขอเล่าก่อนว่า ก่อนรู้จักกันตอนนั้นผมอยู่ปวช. ผมได้เคยจีบผู้หญิงครั้งแรกตอนเรียน รด.ได้มาฝึกที่โรงเรียนมัธยมและได้คบกับผู้หญิงคนนึงที่เรียนอยู่มัธยมปลายที่โรงเรียน และก็ได้เริ่มคุยกันและเธอก็นัดไปหาบ้างบางครั้ง ผมก็ชอบเธอแต่ก็ไม่เคยมีอะไรกันแค่จับมือนั่งรถเล่นไปกินข้าวด้วยกัน คบกันได้ประมาณ2เดือนแล้วเธอก็เงียบไปไม่ติดต่อมาผมโทรไปก็ไม่รับ เป็นเวลาประมาณ1สัปดาห์ แล้ววันนึงผมโทรไปเธอก็รับสายแล้วบอกว่าไม่ต้องโทรมาแล้วตอนนี้อยู่โรงพยาบาลกำลังจะคลอดลูก ผมก็อึ้งไปเลย สรุปเธอมีแฟนแล้วและก็ตั้งท้องอยู่ด้วยความที่เธอเป็นคนอวบๆเตี้ยๆผมก็เลยคิดว่าเธอแค่อ้วน ตอนนั้นรู้สึกเสียใจมากเพราะเป็นผู้หญิงคนแรกที่คบ และนี่คือเหตุการณ์ที่ทำให้ผมได้มารู้จักแฟนผม เธอเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันเธอเป็นรุ่นน้องและก็เป็นเพื่อนของผู้หญิงคนนั้น สมัยนั้นไม่มีไลน์ไม่มีface โทรศัพท์ก็ i-mobile Nokia 3310 เธอก็ขอเบอร์ผมจากผู้หญิงคนนั้นและโทรมาหาผม บอกว่าเธอเป็นห่วงผมนะคุยกับเธอแทนก็ได้นะเธอยังไม่มีแฟนเธอชอบผม ตอนแรกผมเฉยๆเพราะผมก็ไม่ได้ชอบเธอ แต่เธอก็โทรมาคุยบ่อยๆจนผมก็เริ่มรู้สึกดีกับเธอแล้วก็ได้คบกัน ตอนนั้นเธอเรียนอยู่ม.6 ผมก็เรียนปวส.1 พอเธอเรียนจบม.6 เธอก็ย้ายมาเข้าเรียนพานิช ปวส.1 คณะบัญชีที่วิทยาลัยผม กับเพื่อนให้ห้องเกือบทั้งห้อง แต่มันก็เป็นเรื่องปกติที่เด็กโรงเรียนมัธยมจะมาต่อสายอาชีพที่วิทยาลัย เพราะวิทยาลัยเทคนิคที่ผมเรียนเป็นวิทยาลัยรัฐบาลประจำจังหวัด และเราก็ได้คบกันจิงจังตอนมาเรียนที่เดียวกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันกินข้าวด้วยกันแล้วก็มีอะไรกัน ต้องเล่าก่อนว่าทางบ้านผมก็ค่อนข้างลำบาก ผมอยู่กับพ่อแม่พี่สาว ตอนนั้นเช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้านแออัดบ้านติดกันกำแพงอิฐบล็อกไม่ฉาบ ผมมีเพื่อนข้างบ้านอิฐบล็อกมันทะลุเราเอากระดาษหนังสือพิมอุดไว้เวลาเรียกกันก็เอากระดาษออกแล้วเรียกกัน หมู่บ้านค่อนข้างแออัดอยู่กันประมาณ50หลัง ตอนนั้นมีนักธุระกิจมาสนใจพื้นที่หมู่บ้านผมเพราะเป็นพื้นที่ขนาดกลุ่มและติดถนน เลยขอซื้อที่หมู่บ้านผมทั้งหมด เพื่อจะลงทุนเปิดห้างบิ๊กซี ตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องราคาอะไร รู้แต่ว่าเจ้าของที่ก็เริ่มให้พวกเราทุกคนย้ายออกมาตอนนั้นลำบากมากเพราะตอนนั้นห้องเช่าก็หายากแล้วต้องย้ายของให้ทันกำหนด แต่โชคดีที่แม่ผมก็หาห้องแถวที่อื่นแถวนั้นได้ บ้านอื่นๆก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง เราก็เช่ามาสด้าย้ายของเข้าห้องเช่า แต่โชคดีที่ห้องแถวที่ผมอยู่ใกล้ว.เทคนิคผมก็เดินไปเรียน หลังเลิกเรียนผมก็จะมาทำงานที่ร้านปักผ้าของญาติตั้งแต่ทุ่มนึงถึงตี1-2ทุกวัน ผมก็จะได้วันละประมาณวันละเกือบ100 บางทีก็50 เพราะไม่ได้เป็นชั่วโมงได้เป็นเปอร์เซ็น ถ้าวันไหนงานน้อยก็ได้น้อย ตังที่ผมได้ผมก็ให้แม่เก็บทั้งหมด จะเก็บไว้บางส่วน แต่เชื่อไหมแม่ผมเค้าก็ไม่เคยใช้เงินนั้นเลยผมรู้ทีหลังเค้าก็เก็บไว้ให้ผมนั้นแหละ เงินที่ผมเก็บวันละ 10 20 ก็เพื่อเอาไปซื้อของ เพราะแฟนผมชอบเค้าร้านกิฟช็อปเล็กๆผมจำชื่อร้านไม่ได้ แฟนผมบอกชอบกระเป๋าสะพานสีเขียวที่มีพวงกุญแจรูปลิงใบนี้ ถ้าจำไม่ผิดราคา ประมาณ 499 ผมก็เก็บตังจนวันเกิดเธอ ก็ให้ของขวัญเธอ แฟนผมก็ดีใจมาก ตอนนั้นเธอก็ขึ้นปวส .2 ผมก็เรียนจบพอดี ผมต้องขอเล่าก่อนว่าบ้านแฟนผมฐานะค่อนข้างลำบาก เธออยู่บ้านเป็นกระท่อมเล็กไม้ฝาผุๆกันเป็นห้อง หลังคาสังกะสีสนิมทะลุ มีใต้ถุนบ้านต่ำ เพราะข้างล่างเป็นทุ่งนาเก่า มีน้ำขังตลอดปี แฟนผมพ่อของเธอทิ้งเธอไปตั้งแต่เธอยังเด็ก และแม่ของเธอก็เสียไปตอนเธอเรียน เธออยู่กับน้า 3 คน และน้องชายกับลูกชายน้า รวมทั้งหมด5คน น้าของแฟนผมได้ไปค้ำประกันให้คนรู้จักกัน ผมไม่รู้ว่าเป็นเงินเท่าไหร่ แต่ที่รู้คือเมื่อคนรู้จักของน้าแฟนผมเค้าไม่มีตังจ่าย เค้าเลยหายไปไม่กลับมาบ้าน แล้วมันเป็นหนี้นอกระบบ เมื่อเวลามันผ่านไปนานเงินมันก็เพิ่มทวีคูณ เป็นจังหวะที่แฟนผมเรียนจบพอดี เจ้าหนี้ก็มาทวงทางบ้านแฟนผมจนสุดท้ายทางบ้านแฟนผมเลยต้องหนี ต้องบอกว่าน้าสาวของแฟนผมเป็นคนค่อนข้างสวย น้าสาวของเธอมีแฟนอยู่จังหวัดหนึ่ง จึงพากันหนีไปอยู่จังหวัดหนึ่ง (จบแค่ก่อนถ้ามีคนอยากฟังต่อบอกนะเดี๋ยวผมมาเล่าต่อคืนนี้ )
ผมรู้สึกทรมานกับชีวิตมากแต่ก็ห่วงลูก แฟนผมแอบไปมีอะไรกับญาติตัวเอง ระบายกับใครไม่ได้เครียดมาก