หลังจากรดน้ำศพกันเสร็จ พี่สิงหากับพี่แดนก็มายืนคุยกัน
พี่สิงหาพูดขึ้นมาก่อน

"ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้เลย ไม่น่าเลยจริงๆ"
พี่แดนได้กล่าวว่า "อืม ทำไงได้ ชีวิตก็แบบนี้
บางเรื่องก็ไม่มีเหตุผล"
"นีโอเคยบอกไว้นะว่าบางครั้งโชคชะตาก็ใช้แต่อารมณ์
บางทีก็อารมณ์ล้วนๆ"
"พูดไปก็คิดถึงมันเนอะ ได้ข่าวว่าช่วงนี้ชีวิตมันกำลังมีความสุข"
"เกิดมาแล้วให้มันตายตั้งแต่ยังหนุ่ม จะให้เกิดมาทำไมวะ"
"ไม่รู้เหมือนกัน การมีชีวิตบางครั้งก็ตอบยากว่าจะมีไปทำไมกัน"
"มนุษย์อาจเป็นของเล่นของธรรมชาติก็ได้ บางวันก็เอ็นดู
บางวันก็กำจัดทิ้ง"
ไม่นานนัก พี่แดนก็พูดขึ้น "วสุกับปราชญ์เดินมาโน้นแล้ว"

พี่วสุกับพี่ปราชญ์ค่อนข้างเก็บตัวทั้งคู่เพราะมีโลกส่วนตัวสูง
พี่ทั้งสองก็ไม่ได้สนิทกับพี่นีโอสักเท่าไหร่
แต่ก็มีน้ำใจมารดน้ำศพพี่นีโอ
พี่สุบินออกมาคุยกับพี่วสุและพี่ปราชญ์
พี่สุบินแปลกใจหลายอย่าง
อย่างแรกเลย แปลกใจที่วันนี้เขาทั้งสองปรากฏตัวขึ้น
เพราะโดยปกติแล้ว ทั้งคู่มักจะเก็บตัวเงียบ
แสดงว่าทั้งคู่มีน้ำใจต่อพี่นีโอมาก
อย่างที่สองพี่สุบินแปลกใจที่วันนี้ ทั้งคู่มาด้วยกัน
มารถคันเดียวกัน ทั้งๆโดยปกติแล้ว จะแยกกันมา
หลังจากรดน้ำศพแล้ว พี่วสุก็แยกไปยืนรออีกที่นึง
คงรอให้คนอื่นมา จะได้ไปสมทบกัน
อีกไม่นานนัก พี่วุฒิและพี่จักรก็เข้ามาที่งาน

พี่วุฒิกับพี่จักรนี่งานยุ่งทั้งคู่
แต่ก็ยังพยายามมางานรดน้ำศพของพี่นีโอให้ได้
ดูเหมือนกับว่าพวกพี่ๆจากคฤหาสน์อัสดงมากันครบแล้ว
ผมลองทบทวนดู ก็จะมี พี่สุบิน พี่อรรถ พี่โจ พี่แดน พี่สิงหา
พี่วสุ พี่ปราชญ์ พี่วุฒิและพี่จักร
นับไปนับมาก็ครบ 9 คนพอดี
พี่ๆ 9 คนแห่งคฤหาสน์อัสดงนับว่ารวมตัวกันยากมาก
โอกาสที่จะเจอกันครบทั้ง 9 คน นับว่ายากมากๆ
แต่วันนี้ทุกคนมากันครบ ถือว่าทุกคนมีน้ำใจกับพี่นีโอมาก
ตอนนี้พวกเขายืนคุยแบบแยกกัน คงรอเวลาให้พี่สุบินกับพี่อรรถเสร็จจากงานก่อน
พี่รุจเองยังคงอยู่กับแฟรงค์ที่หอพัก
2 คนแรกจากคฤหาสน์นาวาที่มาก่อนคือพี่วุธกับพี่มาคัส

พอพี่สองคนจากคฤหาสน์นาวา เข้ามาที่งานรดน้ำศพ
ก็เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี
มีนักข่าวบางคนมาขอถ่ายรูป
เท่าที่ผ่านมา นักข่าวบางคนจะทราบแค่ว่า
พี่ๆจากสองคฤหาสน์นี้ ไม่ถูกกัน
แต่จริงๆแล้ว ไม่น่าจะใช่
ตามคำทำนาย แค่บอกว่าชายหนุ่มจากสองตระกูลจะต้องเจอ
สงครามที่คาดไม่ถึง
คำทำนายมีแค่นั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้นครับ
วิมานมายา โดย ก้องภพ ตอนที่ 331 รวมตัว 9 หนุ่มแห่งคฤหาสน์อัสดง
พี่สิงหาพูดขึ้นมาก่อน
"ไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้เลย ไม่น่าเลยจริงๆ"
พี่แดนได้กล่าวว่า "อืม ทำไงได้ ชีวิตก็แบบนี้
บางเรื่องก็ไม่มีเหตุผล"
"นีโอเคยบอกไว้นะว่าบางครั้งโชคชะตาก็ใช้แต่อารมณ์
บางทีก็อารมณ์ล้วนๆ"
"พูดไปก็คิดถึงมันเนอะ ได้ข่าวว่าช่วงนี้ชีวิตมันกำลังมีความสุข"
"เกิดมาแล้วให้มันตายตั้งแต่ยังหนุ่ม จะให้เกิดมาทำไมวะ"
"ไม่รู้เหมือนกัน การมีชีวิตบางครั้งก็ตอบยากว่าจะมีไปทำไมกัน"
"มนุษย์อาจเป็นของเล่นของธรรมชาติก็ได้ บางวันก็เอ็นดู
บางวันก็กำจัดทิ้ง"
ไม่นานนัก พี่แดนก็พูดขึ้น "วสุกับปราชญ์เดินมาโน้นแล้ว"
พี่วสุกับพี่ปราชญ์ค่อนข้างเก็บตัวทั้งคู่เพราะมีโลกส่วนตัวสูง
พี่ทั้งสองก็ไม่ได้สนิทกับพี่นีโอสักเท่าไหร่
แต่ก็มีน้ำใจมารดน้ำศพพี่นีโอ
พี่สุบินออกมาคุยกับพี่วสุและพี่ปราชญ์
พี่สุบินแปลกใจหลายอย่าง
อย่างแรกเลย แปลกใจที่วันนี้เขาทั้งสองปรากฏตัวขึ้น
เพราะโดยปกติแล้ว ทั้งคู่มักจะเก็บตัวเงียบ
แสดงว่าทั้งคู่มีน้ำใจต่อพี่นีโอมาก
อย่างที่สองพี่สุบินแปลกใจที่วันนี้ ทั้งคู่มาด้วยกัน
มารถคันเดียวกัน ทั้งๆโดยปกติแล้ว จะแยกกันมา
หลังจากรดน้ำศพแล้ว พี่วสุก็แยกไปยืนรออีกที่นึง
คงรอให้คนอื่นมา จะได้ไปสมทบกัน
อีกไม่นานนัก พี่วุฒิและพี่จักรก็เข้ามาที่งาน
พี่วุฒิกับพี่จักรนี่งานยุ่งทั้งคู่
แต่ก็ยังพยายามมางานรดน้ำศพของพี่นีโอให้ได้
ดูเหมือนกับว่าพวกพี่ๆจากคฤหาสน์อัสดงมากันครบแล้ว
ผมลองทบทวนดู ก็จะมี พี่สุบิน พี่อรรถ พี่โจ พี่แดน พี่สิงหา
พี่วสุ พี่ปราชญ์ พี่วุฒิและพี่จักร
นับไปนับมาก็ครบ 9 คนพอดี
พี่ๆ 9 คนแห่งคฤหาสน์อัสดงนับว่ารวมตัวกันยากมาก
โอกาสที่จะเจอกันครบทั้ง 9 คน นับว่ายากมากๆ
แต่วันนี้ทุกคนมากันครบ ถือว่าทุกคนมีน้ำใจกับพี่นีโอมาก
ตอนนี้พวกเขายืนคุยแบบแยกกัน คงรอเวลาให้พี่สุบินกับพี่อรรถเสร็จจากงานก่อน
พี่รุจเองยังคงอยู่กับแฟรงค์ที่หอพัก
2 คนแรกจากคฤหาสน์นาวาที่มาก่อนคือพี่วุธกับพี่มาคัส
พอพี่สองคนจากคฤหาสน์นาวา เข้ามาที่งานรดน้ำศพ
ก็เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดี
มีนักข่าวบางคนมาขอถ่ายรูป
เท่าที่ผ่านมา นักข่าวบางคนจะทราบแค่ว่า
พี่ๆจากสองคฤหาสน์นี้ ไม่ถูกกัน
แต่จริงๆแล้ว ไม่น่าจะใช่
ตามคำทำนาย แค่บอกว่าชายหนุ่มจากสองตระกูลจะต้องเจอ
สงครามที่คาดไม่ถึง
คำทำนายมีแค่นั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้นครับ