หลายคนอาจจะเรียกอีโก้ หลายคนอาจจะอ้างกฏหมายจราจร หลายคนอาจจะอ้างเรื่องจิตสำนึก ทุกคนไม่ผิด แต่อุบัติเหตุก็ยังเกิดอยู่

มีเรื่องมาเล่า เมื่อวานต้องออกไปทำงานภายนอก มีเหตุให้ต้องใช้บริการรถและคนขับรถบริษัท(ปกติจะใช้รถส่วนตัว) ก็นั่งกันไปปกติดี จนเกือบจะถึงที่หมายแล้ว ต้องผ่านตลาดที่เป็นชุมชน มีรถยนต์จะเลี้ยวออกจากปากซอยซึ่งมีป้ายอันใหญ่ๆบังอยู่ คนขับไม่รู้มองเห็นหรือเปล่าแต่ขับพุ่งพรวดออกมา ส่วนคนขับรถคันของผมมองเห็นแต่ไกลแน่ๆ แต่กลับไม่ยอมเบรค กลับเร่งเครื่องเพื่อจะขับผ่านไปให้พ้น และกดแตรเสียงดังยาวววว เหมือนจะด่าหรือจะระบายอารมณ์ ส่วนคันที่จะออกมาก็เบรคชะลอ แต่ไม่จอดกลับพยายามวิ่งไหล่ทางและจะเบียดเข้ามา จนสุดท้ายผ่านมาโดยไม่ชนแบบฉิวเฉียด หน้ารถคันนั้นกับประตูหลังด้านซ้ายที่ผมนั่งเฉียดห่างกันไม่ถึงคืบ ผมก็ตกใจและงงในความบ้าดีเดือดของทั้งสองคัน พอผ่านมาได้ผมเลยเตือนคนขับไปเบาๆว่า "น้องไม่ต้องรีบมากก็ได้ พี่เผื่อเวลาไว้เยอะอยู่ ยังไงเราก็ไปทัน เมื่อกี๊น่าจะชะลอให้เค้าออกไปก่อนได้นะ เกิดชนขึ้นมามันจะลำบาก" น้องเค้าตอบกลับมา "ไม่เป็นไรครับพี่ เรามาทางเอก ถึงชนยังไงเราก็ไม่ผิด" ทำเอาผมอึ้งอยู่เหมือนกัน คือเค้าไม่ได้กลัวชน ไม่ได้กลัวเจ็บ ไม่ได้กลัวจะเสียเวลา แต่เค้าคิดแค่ว่า "เค้าไม่ผิด" ลองคิดเล่นๆถ้าหากชนขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น
1.บาดเจ็บ อาจจะมีคนเจ็บไม่ว่าจะหนักหรือไม่หนัก อาจจะเป็นผมหรือคนขับรถคันใดคันหนึ่ง
2.เสียเวลา อาจทำให้ผมไปไม่ทันทำงาน ส่วนคนขับก็ต้องเสียเวลารอตำรวจ รอประกัน 
3.รถพัง รถบริษัทอาจจะไม่ห่วงเหมือนรถตัวเอง แต่บริษัทต้องโดนปรับขึ้นเบี้ยประกันแน่ๆ ซึ่งปกติเบี้ยก็จะแพงกว่ารถส่วนตัวเกือบสองเท่าอยู่แล้ว และตัวน้องคนขับรถเค้าก็มี KPI ประจำแผนกเรื่องอุบัติเหตุอยู่ด้วย 
และอีกหลายข้อที่ยังคิดไม่ออกตอนนี้
หลายคนอาจจะบอกว่าคันที่ออกมาจากซอยผิด บอกว่าน้องทำถูกแล้ว แต่ในความคิดผมคือน้องคนขับรถกำลัง "ประมาทมากๆ"

กระทู้นี้ไม่ได้มาสนับสนุนเข้าข้างคนผิดหรือคนขับรถแย่ๆที่ไม่เคารพกฏจราจร แต่อยากมาเตือนสติคนที่ขับรถหลายๆท่าน ถึงแม้เราจะเป็นฝ่ายถูก แต่เราก็ต้องระวังคนที่ทำผิดด้วย เกิดอุบัติเหตุขึ้นมามันเสียอะไรหลายอย่าง บางทีต้องแลกกับการบาดเจ็บล้มตายหรือพิการ มันไม่คุ้ม

ส่วนคนผิดก็ให้ผู้รักษากฏเค้าทำหน้าที่เค้าไป เราทำได้แค่อวยพรให้พวกขับรถแย่ๆพวกนี้ ให้เค้าได้พ้นทุกข์เร็วๆสมใจพวกเค้า