เมื่อผมตกงาน และ มาดูแลพ่อแม่วัยชรา

เมื่อปีที่แล้ว ผมมีเหตุให้ ต้องโดน Lay off จากออฟฟีศ ที่ไปต่อไม่ได้ แม้ว่าผมจะขายของได้ แต่ก็ไม่พอค่าใช้จ่าย เพราะ มีหลายแผนก เจ้าของจึงทำการยุบ ก่อนที่ อายุงาน แต่ละคนจะมากขึ้นและต้องจ่ายชดเชยมากขึ้ และ ผมได้แค่ เดือนเดียว เพราะทำไม่ถึงปี ที่ย้ายมา 

หลังจาก Covid ที่ย่ำแย่ ก็เคยตกงานมาแล้ว ตอนนี้ได้ใหม่ ก็มาเสียไปอีก ผมโชคดี เป็นคก้มหน้าทำงาน ไม่ได้ใช้เที่ยว ซื้อ อะไรเช่น เสื้อผ้าเลย มีแต่ ดูหนัง กับ ดู เคเบี้ล แล้วไปทำงาน แต่ตอนนี้ เคเบี้ล ก็ไม่มีแล้ว หนังก็ไม่ค่อยดู

พ่อแม่ ผม ก็อายุ 70 - 80 กันแล้ว แม่ผมมีโรคประจำตัวหลายอย่าง สมัยก่อน ผมพาท่านไปหาหมอ ตามนัด ไม่ได้มีอะไรมากมาย เพราะเราไปทำงาน

สวนพ่อ มีฉุกเฉีนบ้าง สองสามหน ผมพาไปทัน คุณพ่อดีขึ้น แต่ก็อายุ 80 แล้ว ยังถือว่าแข็งแรง ทั้งสองคน ดูแลผมมาในฐานะลูกคนสุดท้อง พวกพี่ๆ แยกย้ายกันไปหมด เหลือผมดูแลพ่อแม่ และ ผมยังไม่ได้แต่งงาน แค่พา ผญ บางคนมาให้แม่รู้จัก แม่ก็บอกว่า น่ารักดี ส่วน ผญ ก็ยังไม่ยอมแต่งเพราะเขาก็อยากเก็บตังค์อีกหน่อย เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมจึง ตกงาน และ ระหว่างรองานใหม่ ผมหันมาดูแลพ่อแม่ มากขึ้น

แม่ .... แม่มีโรคประจำตัว หลายอย่าง ความดัน เบาหวาน น้ำหนักมาก ไขข้อ ก็ผมพาไปหาหมอ เป็นเรื่องที่ทั่วไป พี่ๆก็ช่วยกันเรื่องค่าใช้จ่ายบ้าง บางครา แต่ ที่ผมว่าได้ดูแล ไม่ใช่แค่ให้ตังค์มา คือ ผมเห็นแม่ ยังมีผ้าถุงต้องซักมือ แม่ไม่ยอมซักเครื่อง ก็ตามประสาคนสมัยก่อน แยกเสื้อผ้า กับ ผ้าถุง คนละกาละมังด้วยซ้ำ ผมเห็นแม่นั่งซักผ้า แม้ว่ายังไงนะ แต่พอตกงาน เห็นแม่ลำบาก น้ำตาไหลเลยคุณ ซักผ้านั่งขดตัวก้มซัก โรคก็เยอะ 

ผมเลย แอบ เอาผ้าถุงแม่มาซัก ซักให้หมดเลย ผมก็รู้เลยว่า เหนื่อยนะ ซักผ้าถุงหลายผืน แต่...แม่จะได้ไม่ต้องลำบากซักอีกไง 
พอแม่รู้ แม่บอกไม่ต้องแล้ว แม่ทำได้ คือ แม่น่ะ นึกว่าทำได้ไง แต่ ทำแล้วจะแย่ เหนื่อย พักนาน แม่ไม่รู้หรอก กลัวผมจะลำบาก ก่อนหน้านั้น แม่ขอเก้าอี้นัน่งซักผ้า ผม ผมก็ไม่เคยซื้อให้เลย จนมาตกงาน ถึงรู้ว่า ผมนี่คือ ควาย แท้ๆ ปล่อยแม่ลำบากตั้งนาน ต่อไปจะไม่มีอีกแล้วเรื่องแบบนั้น แม่จะอยากได้อะไร ผมจะรีบเอามาให้พรุ่งนี้เลย  

แล้วก็เรื่องอาหาร แม่ทำเก่งมาก ผมรอตักเข้าปาก จานยังไม่ล้างเลย ตอนนี้ ผม ทำกับข้าวได้บ้าง ข้าวผัด ไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ตุ๋น แกงจืดเต้าหู้หมูสับ ไข่ต้ม และ ไก่อบไมโครเวฟ หมักน้ำซีอ๊ว และหุงข้าว ไม่แฉะแล้ว  .... ผมนึกในใจว่า ตัวเองโคตรแย่ เรื่องแค่นี้ให้แม่ อายุ 70 ทำ ผมเลย ทำให้แม่ทานทุกมื้อเลย จนแม่ อาการเข่าดีขึ้น และ มาทำอาหารอย่างอื่นที่ผมทำไม่เป็นให้ผมทานบ้าง .... อร่อยจังครับ

พ่อ ... สมัยเด็กๆ พ่อพาผมไปเที่ยว ไปรับ ไปส่ง หาตังค์มาให้ผมเรียนหนังสือ ลำบากครับ พ่อจบ ป 4 แค่นั้นเอง แต่ก็ทำงาน จนส่งผมเรียนจบมหาลัย อยากได้อะไร พ่อก็จะดูว่า ไหวไหม บางทีก็ได้ บางทีก็ไม่ได้ เพราะต้องเอามาจ่ายค่าเทอม ค่าใช้จ่ายในบ้าน ซึ่ง บางทีตอนเด็กๆ ผมก็ต้องอดของเล่นหลายอย่าง แต่ พอมองพ่อ กับ ผมในตอนนี้แล้ว ผมตกงาน แต่ไม่เคยเห็นพ่อ ตกงานเลยเชื่อไหม คนสมัยก่อน ทำงานมีทั้งเรื่องความกดดัน จากหน้าที่และหัวหน้างานเหมือนกันแหล่ะ พ่อผมก็ทนทำมา เพื่อให้เรามีใช้ แต่ยุคผมเอง ถ้าไม่ใจ ผมลาออกเลยก็เคย ค่อยมาหางานทำ ซึ่ง ผมว่าผมสู้พ่อไม่ได้เลยเรื่อง ความอดทน

พ่อ 80 แล้ว เป็น หอบหืด ต้องใช้ยา เวนโทลีน เคยฉุกเฉีน ผมต้องรีบพาไป รพ แล้วหมอใส่หน้ากาก สูด เวนโทลีน แล้วพ่อดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ผมจำชื่อยานี้ไว้แม่นยำ หมอบอก ต้องระวัง หอบมากๆ หันตราย ผมก็ไปหาซื้อยานี้มาวางไว้ในบ้าน ทั้งข้างล่าง ข้างบน โต๊ะอาหาร และ บนเตียงนอนพ่อ เรียกว่า พ่อต้องมีตลอด ฉุกเฉีนแกขยับไม่ได้เลยครับ ต้องคว้าไว้ใกล้สุด  

เสื้อผ้าพ่อ พ่อใส่เสื้อซ้ำเพราะใส่ไม่นาน ไม่ได้ทำงานแล้ว ใส่ไปซื้อข้าวทาน แป๊ปๆ แต่ใส่หลายรอบ ผมไม่เคยดูแลเลยนะ จนเสื้อพ่อมีกลี่น พอตกงานคราวนี้ ผม คอยเอาเสื้อพ่อมาซัก พ่อบอกเปลืองน้ำ พ่อไม่อยากให้ค่าน้ำค่าไฟเยอะ เพราะพ่อรู้ดี แต่ผมน่ะ กว่าจะรู้ก็ตอนมาจ่ายนี่แหล่ะ มันก็ไม่ได้มากมาย แค่ซักผ้า 

ห้องแอร์ พ่อแม่ ไม่ชอบเลย ผมคนเดียวที่ใช้แอร์ แต่หน้าร้อนปีที่แล้ว ก็ตั้งแอร์ตัวใหม่ ให้พ่อแกับแม่ ใช้ ท่านก็ โอเคนะ สบายดี 

พ่อแม่ ยังเป็นคนป่วยเหมือนเก่า อาการคงไม่ดีกว่านี้มากนัก แต่ สำหรับผมแล้ว ทำอะไรบ้าง เล็กๆน้อยๆ ให้พ่อแม่ ก็ทำให้ผมรู้สึกว่า ดีกว่าตอนไม่ทำเยอะ เยอะมาก นึกถึงว่า ตอนเราทำแต่งานหาตังค์มา ไม่ได้ดูแลพ่อแม่เลย ท่านลำบากไม่เคยบ่นสักคำ บอกให้ผมไปทำงานเถอะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ท่านก็จ่าย ผมมาจ่าย ตอน Covid นี่แหล่ะ ถึงรู้ว่า คชจ ในบ้านนี้ ใครไม่ได้เป็นคนจ่ายไม่รู้หรอก ว่า มันเป็นภาระ ชีวีตมันไม่ง่ายเลย 

วันนี้คุยงานสัมภาษณ์ ผ่านไปด้วยดี ผมจะกลับไปทำงานอีกในเดือนหน้า แต่ผมจะไม่ละเลยดูแลพ่อแม่ น้อยลง มีแต่จะมากขึ้น 

อายุ 70 - 80 กันแล้ว ผมบอกตรงๆ ดูแลท่านน้อยไป อยากย้อนเวลาไป ดูแลให้มากกว่านี้ แต่ ยังไงก็ตั้งใจแล้วว่า จะดูแลสองท่าน ให้ดีๆเท่าที่จะทำได้ ไม่สนใจเรื่องอื่นแล้ว บอกตรงๆ พ่อแม่สำหรับผมเวลานี้ สำคัญที่สุด 

รูปถ่ายตอนเด็กๆ ที่พ่อแม่พาไปเที่ยว ผมตัวเล็กมากไม่รู้อะไรเลย เลี้ยงจนโตเป็นผู้ใหญ่ เรียนจบ ป ตรี ขนาดนี้ แต่กว่าจะรู้เรื่องว่า พ่อแม่ลำบากแค่ไหน มันก็จบมานานมากแล้ว รู้แต่หนังสือ แต่ไม่รู้ว่าพ่อแม่ลำบาก ผมบอกตรงๆว่า อายตัวเอง ที่ให้คนจบ ป 4 ส่งเสียจนเรียนจบ ปตรี แต่ดูแลท่านได้ไม่ถึงครึ่งของที่ท่านเคยดูแลเรามา 

ตอนนี้ ผมชอบกอดแม่มากๆเลย ส่วนพ่อ ไม่ต้อง แค่ ดีกับท่าน ท่านก็สุขใจแล้วครับ ..... ทำดีกับพ่อแม่ ก็คือทำดีกับตัวเอง ผมนึกแบบนั้นครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่