แชร์ประสบการณ์ชีวิตมนุษณ์คนนึงที่ชอบเรียกร้องความสนใจ

กระทู้สนทนา
เราเป็นแบบนี้ตลอดเลยค่ะ ตลอดเวลาทั้งชีวิตตั้งแต่เด็กเรารู้แค่ว่าเรามีแม่ ส่วนพ่อก็เคยเจอครั้งสองครั้งหลังจากโตแล้ว มีแม่แต่แม่ก็ไม่ได้อยู่กับเรา เรากับพี่สาวแล้วก็พี่ชายอยู่กับตายายที่ ตจว ตั้งแต่เด็ก ช่วงนั้นโรค 2019 ระบาด เราก็ติดด้วย จำได้ว่าเกือบตาย แม่เลยให้พ่อเลี้ยงมารับไปรักษาตัวที่ กทม { พ่อเลี้ยงเรานิสียดีมาก ดูแลเรากับพี่ดี แต่สุดท้ายเลิกกับแม่เรา เพราะแม่เรามีคนอื่น }

      นั้นเป็นครั้งแรกที่เราได้เจอหน้าพ่อ และเราได้รับความรู้สึกถึงการดูแลของแม่ 

หลังจากนั้นเราก็ย้ายมาเรียนที่ กทม แต่แม่เราก็ไม่ค่อยอยู่ด้วยเหมือนเดิม เรากับพี่อีกสองคนบสงวันต้องต้มกล้วยดิบกิน เพราะไม่มีเงินกินข้าว 

จนเราขึ้น ม1 ก็ย้ายกับไปที่ ตจว อีก เพราะแม่ได้งานใหม่ที่นั้น เราต้องปรับตัวใหม่อีกครั้ง โดนเพื่อนแกล้ง หนักๆถึงขั้นโดนไอ้เด็กผู้ชายต่อยหน้า แล้วทุกคนมนห้องก็หัวเราะ เราเลยย้ายโรงเรียน พอมาโรงเรียนใหม่พยายามทำตัวให้เก่งขึ้น จนมีเพือนที่เก้านเหมือนกัน หลังจากนั้นก็ไม่กล้ามีใครมาแกล้งเราอีก หลังจากที่เราสวยขึ้น เก่งขึ้น เริ่มได้รับความสนใจจากผู้ชายและรุ่นน้องที่มานับถือเรา 

เราเริ่มหนักขึ้นทุกวันจนโดนอาจารหมายหัว สุดท้ายก็เรียนไม่จบ ม.6 ตั้งแต่เข้าโรงเรียน ม1-ม5 แม่เราไม่เคยไปประชุมผู้ปกครองเลย เขาบอกเราว่าขี้เกรียจ หลังจากนั้นเราก็ไม่เคยบอกแม่เวลามีประชุมอีกเลย เราต้องนั่งประชุมเอง 

  ได้เงินไปโรงเรียนวันละ 20 บางวันก็ไม่ได้ เวลาเห็นเพื่อนกินขนมหรืออะไรดีๆ เราโครตอิจฉาเลย555

หลังจากเรียนไม่จบ เราก็ไม่กินไม่นอน เพราะเราก็ทำใจไม่ได้ เราอยากเรียนต่อ แต่เราจะทำยังไงตอนนั้นเราปรึกษาใครไม่ได้ 

  ส่วนแม่ก็ใช้คำพูดกับเราเหมือนเราไม่ใช่ลูกเขา พูดเหน็บเราทุกอย่าง บอกว่าเราเป็นเด็กที่เขาเก็บมาเลี้ยง บอกว่าเคยกินยาขับเลือดแล้วแต่เราไม่ตาย เราได้ยินคำพูดนี้ตั้งแต่จำความได้ ญาติพี่น้องไม่ต้องพํดถึงเลย เราโดนลุงตบหน้า 3 ครั้ง 

จนเราฆ่าตัวตายครั่งแรกด้วยการกินยา แม่เราก็ดูเสียใจนะคะ แต่ไม่ได้ถึงขั้นร้องไห้แค่ดูเครียดๆ เพราะอายหรือเราทำให้เขาโดนคนอื่นมาว่าหรือป่าวไม่รู้ เรารักษาตัวประมาณ 2 อาทิตย์และรักษาจิตเวชแบบไม่ได้กินยา เพราะเราดีขึ้นเร็วมากๆ เพราะยายเรารู้เรื่อง { ยายเลี้ยงเราตั้งแต่เด็กตั่งแต่เกิดเลย } ยายเริ่มบอกรักเรามากขึ้นแล้วเราก็รู้สึกว่ามันคือรักจริงๆ 

พอเราหายจากโรคซึมเศร้า เราก็หาทำงานและดีขึ้นเรื่อยๆ จนอายุ 20 เรารถคว่ำ กู้ภัยยังบอกไม่หน้าจะรอด แต่เรารอดมาได้เพราะเราคว่ำตรงกู้ภัยอยู่พอดี แต่หมอบอกถ้าช้ากว่านี้คือเราตายแน่ๆเพราะเลือดออกมนท้องมาก 

รักษาตัวอยู่ 2 เดือน ยายก็ร้องไห้ทุกวัน ส่วนญาติไปโทรหาทุกวัน ถามอาการ ตอนนั้นไม่มีใครเข้าเยี่ยมได้ เพราะช่วงโควิดระบาด ก็มีพี่สาวเราตอนนั้นที่เรามองออกว่าห่วงเราจริง

ส่วนแม่.... ยังยิ้มหัวเราะตอนมาเยี่ยมเรา เรานอนโรงบาลมา 3 อาทิตย์ได้กินแต่น้ำแดงกับโจ้กโรงบาล เราเลยอยากกินข้าวต้มเซเว่น เพราะเราชอบ เราบอกให้เขาซื้อมาให้ แต่เขากลับซื้อโจ้กกระป๋องมาแทน ไม่ต้องถามเหตุผลก็รู้เลยว่าเขาไม่ยอมเสียเงินเพื่อเราแน่ๆ พอเราบอกเขาก็บอกว่าหมอบอกกินไม่ได้ แต่หมอบอกกินได้เราถามหมอแล้ว เพราะหมอก็เข้าใจเราคงเบื่ออาหารโรงบาล ที่เราสั่งเองไม่ได้เพราะเงินเราแม่เอาไปหมดตั้งแต่วันที่เรารถคว่ำ เงินในกระเป๋าเราทั้งหมด 

ตอนแรกญาติพี่น้องจะไปถามแม่ว่าเราเป็นไงบ้าง บางคนก็ฝากผลไม้ นม มาให้เรา ช่วงนั้นแม่เราดูรักเรามาก เรานอนโรงบาลนานเกือบ 3 เดือน คนอื่นๆก็เริ่มเลิกถามเพราะนานแล้ว สุดท้ายมันออกโรงบาลจากที่มีแต่คนบอกจะมารับ กลายเป็นเราต้องใช้ไม้ท้าวพยุงตัวเองขึ้นลงแท็กซี่ แต่เราชินแล้วค่ะความรู้สึกที่ได้รับความรักปลอมๆแบบนี้ 

เพราะสุดท้ายคนที่เราต้องการเจอหน้าได้ยินเสียงคือยาย ยายก็ดูแลเราเหมือนที่ผ่านมา ต่อให้ป่วยหรือไม่ป่วย แต่ยายเราเสียไปแล้วค่ะ 2 ปีที่แล้ว ตั้งแต่วันนั้นมาเราก็ไม่เคยได้รับความรักหรือห่วงใยจากใครจริงๆเลย

   เรากัดฟันข้ามผ่านความรู้สึกพวกนั้นมาจนเราตั้งตัวได้ พี่สาวเราก็ท้อง แล้วก็ไม่ทำงานตลอด 9 เดือน เราซื้อให้กิน ให้เงินใช้ เพราะเขาดีกับเรามากตอนนั้น เวลาเรามองหน้าเขาในตอนนั้นที่เขาลำบากเพราะสามีเขามีเงินเท่าไหร่ก็เล่นพนันหมด เรานึกตอนที่เราเด็กๆลำบากมาด้วยกัน ได้เงินไปโรงเรียนวันละบาท ตอน ป1-2 จนเขาคลอดเราก็ซื้อของทุกอย่างให้หลาน เราขายทรัพย์สมบัติทุกอย่าง ในระหว่างที่หลานกำลังเกิด แต่พ่อแม่ของมันตกงานทั้งคู่ ตอนนี้เขามีงานทำกันแล้ว มีเงินพอใช้กันแล้วด้วย แต่ตอนนี้กลับเป็นเราที่ไม่เหลือเงินเลย แม้กระทั่งโทรศัพท์เราก็เอาไปจำนำให้เขาจ่ายค่าห้อง สุดท้ายเขาไม่ต่อดอกให้เรา เราก็โดนยึด ตอนนี้เขาไม่คุยกับเราเลยค่ะเพราะเราบอกเขาว่าให้เหลือตังไว้ซื้อนมลูก เขาบอกต้องการไรจากกู 55555เราอึ้งไปเลย เราก็พึ่งรู้ตอนนี้เองว่าพอไม่เหลืออะไรก็ไม่เหลืออะไรเลยแม้กระทั่งครอบครัว 

  เราร้องไห้ทุกวัน ตอนนี้เราไม่ได้ต้องการให้ใครมาสงสารแล้ว เราเรียนรู้จากตลอด 24 ปีที่ผ่านมา ว่าสุดท้ายแล้วมันมีแต่ทำให้เราฝั่งใจ สิ่งที่เราต้องการจริงๆคือ ความรู้สึกจริงๆของทุกคน 

ช่วงที่เรามีเงินเก็บ ร่าเริงมีความสุข เราเจอกับสายตาที่ไม่ยินดีมาตลอด พอเราเศร้า ร้องไห้ ทั้งโทรทั้งเดินทาถามเป็นอะไร สายตาทุกคนดูเวทนาเรา ทำไมใจดีกับเราในตอนที่เรามีความสุขบ้างไม่ได้หรอ 

ตลอด 24 ปีที่เราเกิดมาทุกคำพูดของคนในครอบครัวฝั่งอยู่ในใจเรามาตลอด 

ครั้งนี้ถ้าเราตัดสินใจจะปิดชีวิตตัวเอง เราจะทำให้ได้ เราอยากไปอยู่กับยาย เราไม่อยากตื่นจากฝันในทุกวัน กระทู้นี้อาจตะเป็นกระทุ้สุดท้าย คนในบ้านจะไม่มีทางรุ้เลยว่าเรารู้สึกยังไงไปจนวันตาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่