สวัสดี ตอนช่วงเย็นของวันนี้ เราเพิ่งกลับจากที่ทำงานเหนื่อยๆ ก็เข้ามานอนในห้องปกติ และเวลาก็ค่อยๆผ่านไปจนฟ้าเริ่มมืด และเราก็ไม่ได้เปิดไฟ เรารู้สึกเหมือนว่าเหตุการณ์นี้มันเคยเกิดขึ้นแล้ว เรารู้สึกเหงา เศร้า ในใจมันวุ่นวายไปหมดด จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออก รู้สึกทรมานมากๆ ความรู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนโดนทอดทิ้งยังไงยังงั้นแหละ แต่เอาจริงๆเราอาจจะคิดแบบนั้นอยู่ก็ได้หรือเปล่า เพราะตอนนั่นสามีเรายังไม่เลิกงาน และก็ติดเพื่อนเอามากๆเลย เราเลยเหมือนรู้สึกย้อนกลับไปในวัยเด็ก มันเหมือนเป็นปมว่าเราโดนทอดทิ้ง เราโดนพ่อแม่แท้ๆ นำเรามาไว้กับย่าที่ ตจว ตั้งแต่ 3 เดือนนับจากเพิ่งคลอด เหตุเพราะเขาเลี้ยงดูเราไม่ไหว เรามีพี่สาวอยู่อีก1 คน อายุห่างกัน1 รอบพอดี ในช่วงที่เราเกิดอยู่ในช่วงปี 2000 😅 แต่เหมือนเราโชคดีหรือเปล่านะ เราในวัยเพียง3 เดือนตัวอวบๆ ขาวๆ คงไปโดนใจน้าสาวซึ้งเป็นน้องสาวแท้ๆของพ่อเรา รับไปเป็นลูกบุญธรรมและในยุคนั่นแม่ ซึ้งก็คือแม่เลี้ยงเรานั่นแหละ ค่อนข้างจะมีกินมีใช้อยู่พอตัว มีบ้านหลังใหญ่ และสวยมาก เราใช้ชีวิตแบบสุขสบายไม่เคยลำบาก อยากได้อะไรก็ได้ คือชีวิตเหมือนลูกคุณหนูคนหนึ่งแหละ แต่ทางกลับกันเขากลับไม่มีเวลาเอาสะเลย พ่อและแม่เราเป็นคนค่อนข้างบ้างานเอามากๆเลย กลับบ้าน4-5 ทุ้มทุกวัน และปล่อยเราวัย6 ขวบ ใช้ชีวิตคนเดียวในบ้านขนาดกลาง เตรียมอาหารและสั่งให้เรานอนก่อน (ตอนนั้นเราก็ไม่เข้าใจพ่อและแม่นะแต่พอโตมาสักพักเรารู้ว่าเพราะอะไรเราก็ได้ทำความเข้าใจมากขึ้น) เราใช้ชีวิตแบบนั่นมาเรื่อยๆ จนอายุ13 ปี พ่อกับแม่ก็มีปัญหาหย่าร้างกัน จากเราเหมือนคนที่มีปมขาดความรักอยู่แล้วเพราะท่านไม่มีเวลาให้เราเลย ก็เหมือนฟ้าผ่าลงในใจ ทุกอย่างคือพังไปหมด พ่อไปทางแม่ไปทางในตอนนั่นเราไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อยังไง ทรัพย์สินทุกอย่างแบ่งครึ่งเป็นสินสมรส และหนี้สินก็ตามมา ไม่ต่างจากบ้านล้มละลายเลยทีเดียว เราต้องกลับไปอยู่กับย่า เราเสียใจมาก ไม่เคยลำบาก แต่พ่อและแม่ (พ่อแม่บุญธรรม) ยังส่งเสียเราเหมือนเดิม เราเครียดมากๆ จนเราเริ่มป่วย เข้าโรงพยาบาลบ่อยขึ้น และหมอได้บอกเราว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า ชีวิตต่อจากนั่นดำมืดไปหมด ทำอะไรก็มีแต่ติดขัด ชีวิตเหมือนมีกรรมเยอะเหลือเกิน และอย่างที่หลายๆคนรู้ คนเป็นโรคซึมเศร้าใช้ชีวิตให้คนอื่นเข้าใจเรายากมาก เราไม่สามารถอธิบายเรื่องราวให้ทุกคนเข้าใจเราได้ เราแทบจะไม่บอกใครเลยด้วยซ้ำว่าเราเป็นอะไร เหตุเพราะโดนบูลลี่ ว่าโรคจิตบ้างละ เป็นบ้าบ้างละ เราเลยเลือกที่จะไม่ยุ่งกับใคร ชอบใส่หูฟังดูนูนนี่คนเดียว ไม่ค่อยมีเพื่อน ค่อนข้างเก็บตัว ไม่ใช่ไม่อยากมีเพื่อนแต่เราเจอแต่เพื่อนประเภทที่แย่จนเราเลือกที่จะอยู่คนเดียวดีกว่า และวันหนึ่งแม่เราก็กลับมา(แม่บุญธรรม) เหตุเพราะตัวเรามีปัญหาด้านการเรียน เราไม่ใช่เด็กเกเรนะเราไม่ดื่มไม่สูบ แต่เราไม่ยอมไปเรียน😅 เหตุเพราะเพื่อนนั่นแหละ รู้นะว่าตัวเองงี่เง่าอ่อนแอ แต่ในตอนนั่นเด็กมันคงเป็นเรื่องที่แย่แบบเด็กๆมั่ง เขากลับมาในรอบ2ปีครึ่ง เขาไม่เคยแม้แต่คุยหรือเห็นรูปเขาในวันนั่นที่เขาเดินลงรถมา เขาดูไม่เหมือนแม่ที่เคยรู้จัก ทั้งผอม ทั้งดำ ทั้งโทรม จากที่เราโกรธเขามากที่เขาไม่ติดต่อเรามาเลยปล่อยเราอยู่กับย่า เราไม่รู้ว่าเราจะโกรธหรือดีใจที่เขากลับมา เราไม่กล้าแม้แต่จะกอดเขาด้วยซ้ำ ตัวชาไปหมด เราในตอนนั่นไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องเลิกกันเราก็ได้แต่ขอร้องให้เขากลับไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมซึ้งเขาคงลำบากใจมาก แต่เขาทั้งสองก็ยอมที่จะกลับไปใช้ชีวิตด้วยกันเหตุเพราะอยากให้เราดีขึ้น แต่ยิ่งอยู่ยิ่งฝืน สุดท้าย อยู่ได้เพียง4 เดือนเท่านั่น เขาก็แยกกันอีกครั้ง จากนั่นไม่นานมาก ครึ่งปีมั่ง เราอายุ16 แม่ได้มีแฟนใหม่ เรารู้สึกแย่มากๆ รู้สึกเหมือนโดนแย่งความรัก ต่อต้านทุกอย่าง จนเขาก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน พร้อมกับลูกชายคนที่3 มันยิ่งทำให้เรารู้สึกแย่หนักกว่าเดิม ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่าการที่เราต่อต้านแม่ไม่ให้มีความรักครั้งใหม่มันเป็นการเห็นแก่ตัวเราแค่มองในมุมของเด็กมีปัญหา ที่โดนแย่งความรัก ยิ่งเกเรมากขึ้น ไม่เที่ยวไม่ดื่มก็จริง แต่ประชดประชันโดยการไปไหนไม่บอก ไป ตจว ไปหลายที่มากๆ มองดูย้อนไปแล้ว
ไร้สาระมาก ประชดแบบบ้าคลั่ง ทำทุกอย่างเพื่อเรียกร้องความสนใจ จนวันหนึ่งซึ้งมันทำให้เรารู้สึกแย่กับแม่มากๆจริงๆ เหตุเกิดจากลูกติดของแฟนแม่ พยายามจะปลุกปล้ำเรา ทั้งหลักฐานครบทุกอย่าง แต่แม่เราเลือกจะเข้าข้างอีกฝั่ง ความรู้สึกเราคือดิ่งลงเหวมากๆ เหมือนไม่เหลืออะไรสักอย่างในชีวิต เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องไม่พูดไม่สุงสิงกับใครหนักกว่าเดิม ในตอนนั่นเราอายุ17-18 อยู่ ม.6 เราทุกข์ใจซึมเศร้าขั่นหนัก ทำร้ายตัวเอง พยายามถึงขั่นฆ่าตัวเองด้วย จนถึงวันสอบ ม.6 เทอม2 เราก็ไม่ได้ไป เราเลือกทิ้งทุกอย่าง ไม่เอาอะไรสักอย่างซึ้งมันแย่มากๆ อนาคตตัวเองแท้ๆ เราก็ไม่เข้าใจตัวเอง สุดท้ายเราเลือกที่จะแยกอยู่กับแม่ เราไปเรียนต่ออีกจังหวัดซึ่งมันก็ดีขึ้นคงเพราะเราไม่คาดหวังความรักจากแม่เราแล้ว เรียนเรื่อยๆจนได้ฝึกงาน ในสถานที่ไกลจากบ้านมากอยู่ในแถบตะวันออก จนได้ทำงาน มีแฟน มีลูก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราคบ ผญ มาตลอด มาคิดๆดูแล้วอาจเพราะว่าเราขาดควรมรักจากแม่หรือเปล่า เราจะไม่มีวันรู้เลยว่าแม่รักเราแค่ไหน จนวันที่เราได้มีลูกเป็นของตัวเอง ถึงเขาจะเป็นแม่บุญธรรม แต่เขาไม่เคยทิ้งให้เราลำบากจริงๆเลยสักครั้ง เรานึกย้อนกลับไปเราก็นึกโทษตัวเองที่ทำเรื่องแย่ๆในหลายๆเรื่อง และในตอนนี้แม่เราก็เป็นคุณยายที่ดีของหลาน และมีคุณตาที่เราเคยเกลียด(แฟนใหม่แม่) ช่วยเลี้ยงดูลูกเราเป็นอย่างดี ประสบการณ์หลายๆอย่างในชีวิตทำให้เรากลายเป็นคนเย็นชา เกลียดการเข้าสังคม ชอบอยู่ในที่เงียบๆ โลกส่วนตัวค่อนข้างสูง จากนี้เราก็พยายามที่จะเป็นลูกที่ดีให้ได้มากที่สุด
.
.
.
และตอนนี้เรารู้สึกเข้มแข็งมากขึ้น เหมือนชะตาชีวิตวนลูบ เคยโดนทิ้งให้โดดเดี่ยวแบบไหนก็วนอยู่แบบนั่น ทุกครั้งที่มองอยู่ในห้องมืดๆ เราจะนึกถึงเหตุการณ์ในชีวิต จนทำให้รู้สึกแบบที่บอกไป
จริงๆเราไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยแม้แต่สามีปัจจุบัน แต่ที่เลือกมาเล่าในเว็บเพราะไม่มีใครรู้จัก 😂 เพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองแย่ขนาดไหน แค่เราก็อยากให้เป็นเป็นความทรงจำไว้เตือนตัวเองในการเลือกตัดสินใจในอนาคตต่อไป
นี่มันเดจาวูหรือชะตาชีวิตกันแน่นะ?
.
.
.
และตอนนี้เรารู้สึกเข้มแข็งมากขึ้น เหมือนชะตาชีวิตวนลูบ เคยโดนทิ้งให้โดดเดี่ยวแบบไหนก็วนอยู่แบบนั่น ทุกครั้งที่มองอยู่ในห้องมืดๆ เราจะนึกถึงเหตุการณ์ในชีวิต จนทำให้รู้สึกแบบที่บอกไป
จริงๆเราไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยแม้แต่สามีปัจจุบัน แต่ที่เลือกมาเล่าในเว็บเพราะไม่มีใครรู้จัก 😂 เพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองแย่ขนาดไหน แค่เราก็อยากให้เป็นเป็นความทรงจำไว้เตือนตัวเองในการเลือกตัดสินใจในอนาคตต่อไป