ขอแชร์ประสบการณ์การรักษาที่ไม่ใช้ยาแผนปัจจุบัน โปรดใช้วิจารณญาณในการชม วิธีนี้อาจไม่ได้ผลกับทุกคน
ผมเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังมานานหลายปี เป็นๆหายๆ(จะเป็นง่ายช่วงฝุ่น PM2.5 สูง และ/หรือนอนไม่พอ)
เมื่อเกิดผื่นคันขึ้นมา จะใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์(Betamethasone) 0.1%
ซึ่งทาแล้วหายคัน ผื่นยุบหายเรียบภายในไม่กี่วัน
แต่สเตียรอยด์มีผลข้างเคียงระยะยาว ถ้าใช้นานเกิน 1-2 สัปดาห์
ผลข้างเคียงอาจรุนแรงถึงขั้นเปลี่ยนชีวิตให้ทุกข์ทรมานได้ ดังกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/40113378
1-2 เดือนก่อน ทายาต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ก็ไม่หาย จึงลองหยุดใช้ยา
รูปหลอดยาทาที่ใช้ประจำมานาน(ใช้หมดไปไม่ต่ำกว่า 4 หลอดในรอบหลายปี)
เคยใช้ยี่ห้ออื่น(ตัวยาสเตียรอยด์อันเดียวกัน) ร้านขายยาที่ไปซื้อ ไม่เคยแจ้งว่าห้ามใช้เกิน 2 สัปดาห์
ถ้าใครดูไม่ออกว่ามีสเตียรอยด์ไหม ถ้าใช้แล้วหายไว นั่นแหละมีสเตียรอยด์
หลังหยุดทายาไม่นาน เกิดผื่นคันขึ้นอย่างมากบริเวณเดิมที่เคยใช้ยา
ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันคืออาการถอนสเตียรอยด์ ซึ่งกินเวลาราว 1 เดือนสำหรับผม
สำหรับคนที่ใช้สเตียรอยด์ที่แรงกว่านี้(ยาทาชนิดความเข้มข้นสูง ยากินและยาฉีด)และเป็นเวลานาน
อาการหลังหยุดยา อาจเกิดนานหลายเดือนหรือถึงปี
ต้องอดทนห้ามเกาหรือถูผื่นคัน ไม่งั้นจะลาม และยิ่งคันมากขึ้นไปอีก
แต่ผมก็ทนไม่ไหว เกาจนผื่นแตกเป็นแผลไปหลายครั้ง ยิ่งเกายิ่งมันส์
ทั้งยาแผนปัจจุบันและสมุนไพรทั้งหมดในกระทู้นี้ ช่วยได้เพียงบรรเทาอาการ
การรักษาให้หายขาด ต้องแก้ที่สาเหตุ(การประพฤติตัว ความเครียด อาหาร สารพิษ สิ่งแวดล้อม ฯลฯ)
ตามที่คุณหมออธิบายในคลิปนี้
ผมลองหาข้อมูลว่านอกจากยาทาสเตียรอยด์ มีสมุนไพรอะไรที่ลดอาการคัน
เจอว่าผงขมิ้นช่วยแก้โรคผิวหนังผื่นคัน
http://www.trangskin.go.th/curcuma-longa-l/
จึงซื้อมา ผสมน้ำสะอาดนิดนึงแล้วทา ซึ่งช่วยลดคันได้พอสมควร
รูปนี้ถ่ายเมื่อ 18 ธ.ค. ปีที่แล้ว ทำให้นึกถึงหนังไก่ในข้าวหมกไก่
ใช้ผงขมิ้นไปหลายวัน ผื่นไม่หายแต่กลับลามเพิ่มขึ้น เริ่มมีน้ำเหลืองปะทุออกมาด้วย
จึงคิดว่าเป็นเพราะผงขมิ้น(จริงๆไม่ใช่ มันคืออาการถอนเสตียรอยด์)
ผงขมิ้นมีฤทธิ์ร้อน(ทาแล้วรู้สึกร้อนผิว) อาจช่วยขับสารพิษของเสียออกจากผิว(อันนี้เดาเอง)
จึงมองหาสมุนไพรแก้คันตัวใหม่ พอดีที่บ้านปลูกต้นอังกาบหนู
หาข้อมูลได้ว่าใบอังกาบหนู ผสมน้ำมะนาว ช่วยรักษาโรคคันตามผิวหนัง
https://www.sanook.com/health/12417/
หมอในคลิปบอกว่าใบรางจืด ก็ใช้ได้เช่นกัน
รูปต้นอังกาบหนูที่บ้าน ไม่ได้ซื้อมาเอง เพื่อนบ้านให้มา
ปลูกง่าย ตายยากมาก ขยายพันธุ์ได้ง่ายมากๆด้วยการปักชำ
ตัดกิ่ง ดึงใบที่กิ่งออกหมด(เหลือแต่ใบเล็กๆที่ยอด) ปักลงดิน รดน้ำทุกวัน ยังไงก็รอด
เด็ดใบใหญ่ 5-6 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด ใส่ครก ตำจนละเอียด (ระวังติดเชื้อ ถ้าทำไม่สะอาด)
แล้วบีบน้ำมะนาวลงไป(ผมใช้ครึ่งลูก ทำเสร็จแล้วนึกถึงน้ำจิ้มซีฟู้ด)
ใส่ถ้วยเล็กทั้งน้ำและเนื้อ เก็บใส่ตู้เย็น เอาออกมาทาเรื่อยๆ ผมใช้ได้นาน 3 วันหมด
ช่วงแรกผมไม่ได้ใช้น้ำมะนาว(กลัวกัดผิว) ต้องทาบ่อยมาก(ไม่งั้นคัน)
ใช้ไปราว 1 สัปดาห์ ถึงจะเริ่มผสมน้ำมะนาว ซึ่งได้ผลดีกว่าเดิมมาก
ทาทีนึงหายคันนานขึ้น เหมือนว่าน้ำมันจากมะนาวช่วยเคลือบผิวด้วย (รูปนี้ 23 ธ.ค.)
ผมเอาเนื้อใบประคบปิดแผลด้วย ได้ผลดีกว่าใช้น้ำอย่างเดียว ผื่นแผลค่อยๆยุบไปอย่างช้าๆ
(รูปบนและล่างนี้ ถ่ายเมื่อ 7 ม.ค.)
ใบบนต้นอังกาบหนู เริ่มจะเหลือน้อย จึงหาซื้อยาสมุนไพรตัวอื่น
ได้โลชั่นผักเบี้ยใหญ่ ของยี่ห้ออภัยภูเบศร ไม่มีสารเคมีอันตราย
เป็นโลชั่นสำหรับโรคผิวหนัง ผื่นแพ้ คัน ผื่นสะเก็ดเงิน
ทาแล้วลดคันได้ดี ซึมไว ทาบ่อยได้เท่าที่ต้องการ(ไม่มีผลข้างเคียง)
รูปล่างนี้คือเพิ่งทาทั่วแล้ว ถ่ายเมื่อ 8 ม.ค.
10 ม.ค. น้ำเหลืองปะทุออกมาอีกรอบ มีอาการคันเพิ่มขึ้น(ยังคงเป็นอาการถอนเสตียรอยด์)
พยายามไม่เกา รักษาความสะอาดผิว ทาโลชั่นผักเบี้ยใหญ่ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ใช้ยาตัวอื่น
รู้สึกว่าฝุ่น PM 2.5 เป็นต้นเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง
มีเครื่องดักยุงเก่าที่หลอดเสีย จึงดัดแปลงซื้อแผ่นกรองฝุ่นถูกๆมาพันรอบ
ซึ่งช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ในห้องนอนได้ราว 10-30 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ถึงจะลดได้ไม่มาก แต่รู้สึกว่าหายใจได้โล่งสะดวกมากขึ้นตอนนอน
ใช้ได้แค่ 2 คืน(เปิดราว 8 ชั่วโมง/คืน) แกะแผ่นกรองฝุ่นออกมา ดำขนาดนี้
ขนาดช่วงนั้นฝุ่นไม่เยอะมาก(30-50 ไมโคร) ตอนนี้สั่งซื้อเครื่องฟอกอากาศไปแล้ว
15 ม.ค. ผื่นใหม่เกิดน้อยลงแล้ว
17 ม.ค. ทดลองทาผงขมิ้นอีกครั้งครึ่งวัน ยังช่วยลดคันได้
นอกนั้นไม่มีผลอะไร ไม่ทำให้ผื่นคันเพิ่มขึ้น แต่มันทำให้ผิวแห้ง จึงใช้โลชั่นต่อ
25 ม.ค. แทบไม่คันแล้ว จึงไม่ค่อยได้ทาโลชั่น
โดนลมหนาวเข้าไป ผิวแห้งแตก ผมไม่ดูแลผิวด้วยแหละ
เหลือจุดที่คันนิดหน่อยอยู่แค่ 2-3 จุด ต่อจากนี้คงไม่มีอะไรแล้ว ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้
รีวิวการรักษาโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังด้วยตัวเอง ลดอาการถอนสเตียรอยด์ด้วยต้นไม้ในบ้าน
ผมเป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังมานานหลายปี เป็นๆหายๆ(จะเป็นง่ายช่วงฝุ่น PM2.5 สูง และ/หรือนอนไม่พอ)
เมื่อเกิดผื่นคันขึ้นมา จะใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์(Betamethasone) 0.1%
ซึ่งทาแล้วหายคัน ผื่นยุบหายเรียบภายในไม่กี่วัน
แต่สเตียรอยด์มีผลข้างเคียงระยะยาว ถ้าใช้นานเกิน 1-2 สัปดาห์
ผลข้างเคียงอาจรุนแรงถึงขั้นเปลี่ยนชีวิตให้ทุกข์ทรมานได้ ดังกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/40113378
1-2 เดือนก่อน ทายาต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ก็ไม่หาย จึงลองหยุดใช้ยา
รูปหลอดยาทาที่ใช้ประจำมานาน(ใช้หมดไปไม่ต่ำกว่า 4 หลอดในรอบหลายปี)
เคยใช้ยี่ห้ออื่น(ตัวยาสเตียรอยด์อันเดียวกัน) ร้านขายยาที่ไปซื้อ ไม่เคยแจ้งว่าห้ามใช้เกิน 2 สัปดาห์
ถ้าใครดูไม่ออกว่ามีสเตียรอยด์ไหม ถ้าใช้แล้วหายไว นั่นแหละมีสเตียรอยด์
หลังหยุดทายาไม่นาน เกิดผื่นคันขึ้นอย่างมากบริเวณเดิมที่เคยใช้ยา
ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันคืออาการถอนสเตียรอยด์ ซึ่งกินเวลาราว 1 เดือนสำหรับผม
สำหรับคนที่ใช้สเตียรอยด์ที่แรงกว่านี้(ยาทาชนิดความเข้มข้นสูง ยากินและยาฉีด)และเป็นเวลานาน
อาการหลังหยุดยา อาจเกิดนานหลายเดือนหรือถึงปี
ต้องอดทนห้ามเกาหรือถูผื่นคัน ไม่งั้นจะลาม และยิ่งคันมากขึ้นไปอีก
แต่ผมก็ทนไม่ไหว เกาจนผื่นแตกเป็นแผลไปหลายครั้ง ยิ่งเกายิ่งมันส์
ทั้งยาแผนปัจจุบันและสมุนไพรทั้งหมดในกระทู้นี้ ช่วยได้เพียงบรรเทาอาการ
การรักษาให้หายขาด ต้องแก้ที่สาเหตุ(การประพฤติตัว ความเครียด อาหาร สารพิษ สิ่งแวดล้อม ฯลฯ)
ตามที่คุณหมออธิบายในคลิปนี้
ผมลองหาข้อมูลว่านอกจากยาทาสเตียรอยด์ มีสมุนไพรอะไรที่ลดอาการคัน
เจอว่าผงขมิ้นช่วยแก้โรคผิวหนังผื่นคัน http://www.trangskin.go.th/curcuma-longa-l/
จึงซื้อมา ผสมน้ำสะอาดนิดนึงแล้วทา ซึ่งช่วยลดคันได้พอสมควร
รูปนี้ถ่ายเมื่อ 18 ธ.ค. ปีที่แล้ว ทำให้นึกถึงหนังไก่ในข้าวหมกไก่
ใช้ผงขมิ้นไปหลายวัน ผื่นไม่หายแต่กลับลามเพิ่มขึ้น เริ่มมีน้ำเหลืองปะทุออกมาด้วย
จึงคิดว่าเป็นเพราะผงขมิ้น(จริงๆไม่ใช่ มันคืออาการถอนเสตียรอยด์)
ผงขมิ้นมีฤทธิ์ร้อน(ทาแล้วรู้สึกร้อนผิว) อาจช่วยขับสารพิษของเสียออกจากผิว(อันนี้เดาเอง)
จึงมองหาสมุนไพรแก้คันตัวใหม่ พอดีที่บ้านปลูกต้นอังกาบหนู
หาข้อมูลได้ว่าใบอังกาบหนู ผสมน้ำมะนาว ช่วยรักษาโรคคันตามผิวหนัง
https://www.sanook.com/health/12417/
หมอในคลิปบอกว่าใบรางจืด ก็ใช้ได้เช่นกัน
รูปต้นอังกาบหนูที่บ้าน ไม่ได้ซื้อมาเอง เพื่อนบ้านให้มา
ปลูกง่าย ตายยากมาก ขยายพันธุ์ได้ง่ายมากๆด้วยการปักชำ
ตัดกิ่ง ดึงใบที่กิ่งออกหมด(เหลือแต่ใบเล็กๆที่ยอด) ปักลงดิน รดน้ำทุกวัน ยังไงก็รอด
เด็ดใบใหญ่ 5-6 ใบ ล้างน้ำให้สะอาด ใส่ครก ตำจนละเอียด (ระวังติดเชื้อ ถ้าทำไม่สะอาด)
แล้วบีบน้ำมะนาวลงไป(ผมใช้ครึ่งลูก ทำเสร็จแล้วนึกถึงน้ำจิ้มซีฟู้ด)
ใส่ถ้วยเล็กทั้งน้ำและเนื้อ เก็บใส่ตู้เย็น เอาออกมาทาเรื่อยๆ ผมใช้ได้นาน 3 วันหมด
ช่วงแรกผมไม่ได้ใช้น้ำมะนาว(กลัวกัดผิว) ต้องทาบ่อยมาก(ไม่งั้นคัน)
ใช้ไปราว 1 สัปดาห์ ถึงจะเริ่มผสมน้ำมะนาว ซึ่งได้ผลดีกว่าเดิมมาก
ทาทีนึงหายคันนานขึ้น เหมือนว่าน้ำมันจากมะนาวช่วยเคลือบผิวด้วย (รูปนี้ 23 ธ.ค.)
ผมเอาเนื้อใบประคบปิดแผลด้วย ได้ผลดีกว่าใช้น้ำอย่างเดียว ผื่นแผลค่อยๆยุบไปอย่างช้าๆ
(รูปบนและล่างนี้ ถ่ายเมื่อ 7 ม.ค.)
ใบบนต้นอังกาบหนู เริ่มจะเหลือน้อย จึงหาซื้อยาสมุนไพรตัวอื่น
ได้โลชั่นผักเบี้ยใหญ่ ของยี่ห้ออภัยภูเบศร ไม่มีสารเคมีอันตราย
เป็นโลชั่นสำหรับโรคผิวหนัง ผื่นแพ้ คัน ผื่นสะเก็ดเงิน
ทาแล้วลดคันได้ดี ซึมไว ทาบ่อยได้เท่าที่ต้องการ(ไม่มีผลข้างเคียง)
รูปล่างนี้คือเพิ่งทาทั่วแล้ว ถ่ายเมื่อ 8 ม.ค.
10 ม.ค. น้ำเหลืองปะทุออกมาอีกรอบ มีอาการคันเพิ่มขึ้น(ยังคงเป็นอาการถอนเสตียรอยด์)
พยายามไม่เกา รักษาความสะอาดผิว ทาโลชั่นผักเบี้ยใหญ่ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ใช้ยาตัวอื่น
รู้สึกว่าฝุ่น PM 2.5 เป็นต้นเหตุสำคัญอย่างหนึ่ง
มีเครื่องดักยุงเก่าที่หลอดเสีย จึงดัดแปลงซื้อแผ่นกรองฝุ่นถูกๆมาพันรอบ
ซึ่งช่วยลดฝุ่น PM 2.5 ในห้องนอนได้ราว 10-30 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ถึงจะลดได้ไม่มาก แต่รู้สึกว่าหายใจได้โล่งสะดวกมากขึ้นตอนนอน
ใช้ได้แค่ 2 คืน(เปิดราว 8 ชั่วโมง/คืน) แกะแผ่นกรองฝุ่นออกมา ดำขนาดนี้
ขนาดช่วงนั้นฝุ่นไม่เยอะมาก(30-50 ไมโคร) ตอนนี้สั่งซื้อเครื่องฟอกอากาศไปแล้ว
15 ม.ค. ผื่นใหม่เกิดน้อยลงแล้ว
17 ม.ค. ทดลองทาผงขมิ้นอีกครั้งครึ่งวัน ยังช่วยลดคันได้
นอกนั้นไม่มีผลอะไร ไม่ทำให้ผื่นคันเพิ่มขึ้น แต่มันทำให้ผิวแห้ง จึงใช้โลชั่นต่อ
25 ม.ค. แทบไม่คันแล้ว จึงไม่ค่อยได้ทาโลชั่น
โดนลมหนาวเข้าไป ผิวแห้งแตก ผมไม่ดูแลผิวด้วยแหละ
เหลือจุดที่คันนิดหน่อยอยู่แค่ 2-3 จุด ต่อจากนี้คงไม่มีอะไรแล้ว ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้