หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ทริปปุบปับ เซไปที่ภูลมโล (อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า)
กระทู้สนทนา
เที่ยวไทย
เที่ยวภูเขา
เที่ยวเชิงอนุรักษ์
บันทึกนักเดินทาง
ทริปนี้เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม 2567 ขอเล่าทิ้งไว้เป็นความทรงจำที่ดีค่ะ 😊
เรื่องมันมีอยู่ว่า ทางเราได้ไปเจอเพจของ Thaipbs มีสกู๊ป นำเสนอเรื่องหมู่บ้านร่องกล้า ทางเราเลยแกล้งๆแชร์ไปให้เพื่อนสาวของเราลองดู ตอนแรกก็แพลนไว้ไกลๆ ปลายๆกุมภางี้ ซักพักเพื่อนเราไปเปิดเพจที่แชร์อัพเดท การบานของดอกพญาเสือโคร่ง พบว่าช่วงนี้อยู่ในช่วงกำลังบานเต็มที่ เลยอยากสนองนี๊ดความอยากของตัวเอง ที่ครั้งหนึ่งอยากไปอยู่ท่ามกลางดอกไม้สีชมพู ที่หน้าตาเค้าคล้ายๆ คุณซากุระของทางฝั่งแดนอาทิตย์อุทัย ไอ้ครั้นจะไปดูซากุระจริงๆ นอกจากกลัวจะเดาช่วงบานคลาดเคลื่อนแล้ว ราคาค่าตั๋วก็สูงชะลูดริบริ่ว ทริปนี้จึงบังเกิด ตอนช่วงหกโมงเช้าของวันวันหนึ่ง คุยเรื่อยๆ ระหว่างเดินไปทำงาน คิดระยะเวล่ำเวลาแล้วเห็นควรตรงกันว่าขอลาพักร้อนกันซักหนึ่งวัน แล้วก็ลุย!!!
เริ่มสตาร์ทการเดินทางเช้าวันที่ 20 มกรา 67 โดยเราวางแผนกันว่า ไปพักรถคืนนึงที่บ้านเพื่อนที่พิจิตร แวะเล่นกับหลานน้อยของคุณเพื่อนด้วย โดยทางเราก็สร้างความลำบากให้เพื่อนโดยการล็อคกิจกรรมของวันแรกคือ เพื่อนต้องพาไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นน้ำใสในตัวเมืองพิจิตรที่เคยกินเมื่อสองปีที่แล้ว และยังอยากกินอยู่จนทุกวันนี้ เป็นก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นน้ำใสที่อร่อยมากๆๆๆๆ แถมปกติเคยเห็นแต่ไก่ตุ๋นน้ำแดง แต่เจ้านี้เป็นไก่ตุ๋นน้ำใส ตรงกับจริตของเรามากที่สุด ใครที่ผ่านๆไปทางพิจิตร ลองแวะทานกันได้นะคะ ชื่อร้านป้าคิด ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลพิจิตรค่ะ
หนังท้องตึงจากอาหารคาวเสร็จ เพื่อนสาวเราก็พาไปจิบชากาแฟ ที่ร้าน Makesence สิงห์โตทอง ให้ชื่นใจ ก่อนจะกลับบ้านไปเล่นกับหลานน้อยของคุณเพื่อน ปิดท้ายวัน คุณแม่ของเพื่อนสาวก็พาไปทานข้าวเย็น กราบขอบพระคุณค่า
เช้าวันที่ 21 มกรา 67 พวกเราต้องขยี้ขี้ตาตื่นมาอาบน้ำตอนตีสามครึ่ง เพราะวางแผนอยากไปดูพระอาทิตย์แสงแรกของวันที่ภูลมโล (แต่ไปถึงอุทยานจริงคือเจ็ดโมงหน่อยๆ 🤣) และจากที่เสิร์ชๆหาพบว่าการจะขึ้นภูลมโลได้ต้องเหมารถนำเที่ยวที่ขึ้นทะเบียนไว้กับอุทยานฯ คันละ 1,000 บาท รถคันนึงไปได้สิบคน เค้าให้เราไปหาคนแชร์เอาเอง หรือจะเหมาๆไปเลยก็ไม่ติด พอไปถึงจุดจองคิวตอนเจ็ดโมงครึ่ง ก็ตะลึงตึงตึง!! หมู่มวลมหาประชาชนคับคั่งมาก หันซ้ายหันขวา จะแชร์กับใครดี เลยเจอคุณป้า กับลูกชายคุณป้า เลยเข้าไปขอแชร์ด้วย รวมเป็น 5 คน ซึ่งต้องรอคิวแอบอลังการมาก เกือบ40 คิวก่อนหน้า แต่ไหนๆก็มาแล้ว เราต้องสู้ เรารอได้ รอไหว เพราะอากาศก็แสนจะเย็นสบายที่ 19 องศา แต่ก็แค่อดดูแสงแรกที่ภูลมโล
ระหว่างรอก็เจอกลุ่มคุณพี่ พี่สาวพี่ชายที่เป็นสายท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ เที่ยวตามป่าตามเขา พี่เค้ามากางเต๊นท์นอนที่อุทยาน ค่าธรรมเนียมตกคนละ 30 บาทเอง ถูกมากกก (แต่ค่าอุปกรณ์กางเต๊นท์นั้นมิอาจทราบได้ว่าหมดไปเท่าไหร่ 😆) แล้วก็เห็นพี่เค้ามีเล่มพาสปอร์ตของอุทยานแห่งชาติเวอร์ชั่นเก่ากึ๊กๆ พี่ๆเปิดให้ดู อู้วหูวเลยยย พี่มีตราปั๊มอุทยานแห่งชาติทั้งแต่ปี 2548 ตอนนั้นทางเรายังอยู่มัธยมปลายกันอยู่เลย อย่างตราปั๊มอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า พี่เค้าก็มีตั้งแต่ตราปั๊มรุ่นเก่า ยันตราปั๊มแบบปัจจุบัน ดูแล้วก็ใจฟูนะ (เข้าใจเลยว่า พี่ๆเอาให้ดูพร้อมเล่าให้ฟัง เราดูก็รู้ว่าพี่ๆเค้ามีความสุข จอยๆกับการเที่ยว แถมพี่เค้าบอก ป่ะ ขึ้นภูไปพร้อมกันเลยดีกว่า แต่บังเอิญว่าเราไปตกลงกับคุณป้า และลูกคุณป้าไว้แล้ว เลยอดจอยๆ กันเลย ทางเราก็แอบเสียดายนิดๆ ถ้าได้นั่งรถไปด้วยกัน คงได้ฟังประสบการณ์การเที่ยวของพี่เค้าได้อีกยาวๆ (เผื่อโชคดีพี่เค้าเข้ามาพวกเราเป็นแก๊งค์บัตรคิวสีฟ้า คิวที่ 24 ขึ้นรถช่วงเก้าโมงเช้าของวันที่ 21 ของพี่ๆเค้าเป็นคิวที่ 26 หลังเรา 2 คิว) 😊
พอถึงเวลาคิวรถของเรา ตอนเก้าโมงเช้า (รอไปชั่วโมงครึ่ง!! นึกว่าต้องรอนานกว่านั้นซะแล้ว 🤣) ทางเราก็ตะกายขึ้นกระบะ ชื่นชมธรรมชาติโต้ลมหนาว 19 องศา ตอนเวลา 9 โมงเช้าาาา (เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่จองกับคัลแลน ชอบบอกว่าใจฟู) มันใจฟูจริงๆ นะ ถึงแม้ระหว่างทาง ทางเราจะต้องอุดจมูก และเผลอบริโภคดินลูกรังไประหว่างทาง กรุ๊บๆกรั๊บๆ เส้นทางมีความโค้ง มีความลาดชัน แบบพอกรุบกริบให้สนุกสนาน แต่ไม่ได้น่ากลัวอะไร ชมวิวผสมผสานฝุ่นไป พร้อมส่องบางจุด มีต้นพญาเสือโคร่งบานเป็นวงกว้างกลุ่มใหญ่ ให้มันเป็นสีชมพูที่ปกคลุมเขา สวยมากกก(ก.ไก่ล้านตัว)
ถึงแม้เวลาตอนลงดูแต่ละจุด ก็เต็มไปด้วยมวลมหาประชาชน แต่มันคือการท่องเที่ยว สถานที่ที่เป็นช่วงเที่ยวของเค้า ทางเราก็เข้าใจนะ ไม่เป็นไรเที่ยวๆไปด้วยกัน มันเป็นความทรงจำที่ดีมากกกเลยค่ะ ที่เราว่าการมองด้วยตาเปล่า การเซฟรูปเข้าความทรงจำ มันสวยสุดๆ ที่ความรู้สึกแตกต่างกับการดูรูปถ่ายมากมาย แต่เพื่อแก้ความคิดถึง สถานที่แห่งนี้ทางเราก็บันทึกภาพ บันทึกวิดีโอเก็บไว้รัวๆ เหมือนกัน เราใช้เวลาบนภูลมโล รวมระยะเวลานั่งรถขึ้นเขารวมๆ แล้ว 2 ชั่วโมง (แต่จากที่ทราบมาเค้าให้เวลาได้ถึง 3 ชั่วโมงรวมเวลานั่งรถไปกลับนะคะ)
วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ ตอนลงมาจากภู เจอรถติดแถวทางออกจากหมู่บ้านร่องกล้า และเป็นช่วงพีคด้วยประชากรเลยมากเป็นพิเศษค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
ไปขึ้นภูโลลมไปดู ดอกพญาเสือโคร่ง ด้านไหนดีคะ ขึ้นแต่ละด้านมีความแตกต่างกันไหม
ที่ศึกษามามี 3 ด้าน 1. บ้านร่องกล้า ค่าที่พัก 1500 ใกล้สุด ค่ารถ 1,000 บาท 2. กกสะท้อน ค่าที่พัก 1500 ค่ารถ 1,300 บาท ทางนี้อาจจะไกลหน่อย 3.บ้านหมากแข้ง ค่าที่พัก 1000 ค่ารถ 1,600 บา
สมาชิกหมายเลข 6692438
Alone trip ไปพิชิตภูลมโล ภูเขาสีชมพู ซากุระเมืองไทย
อย่างที่รู้ๆกันนะคะ ว่ากทม.กำลังตกอยู่ในสภาวะ ฝุ่นควันเกินค่ามาตรฐาน เรารู้สึกว่าหายใจไม่ค่อยปกติค่ะ เลยไปหาหมอ ตรวจปอดก็ไม่เจออะไร แต่พอตรวจหัวใจทำม๊ายยยยยยย เจอแต่เธอ ผ่ามมมมมมม!!!!!!!!!! 55555555 ข
jackbodyslam
บ้านร่องกล้ากับต้นไม้สีชมพู สู่เนินมะปรางหมู่บ้านแห่งทิวเขา
สวัสดีปี 2024 ครับผม ปีนี้ผมเองก็ได้มีฉุกละหุกทริปตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียวส่วนตัวผม อยากไปเที่ยวชมพญาเสือโคร่งบานมาตั้งแต่สมัยเริ่มหัดเล่นกล้องใหม่ๆจนมีโอกาสได้ไปมาทั้งดอยอ่างขาง ขุนวาง ขุนช่างเคี่ยน ได
photobychattha
อยากไปภูลมโล เดินทางยังไงคะ
ตามหัวข้อเลยนะคะ คืออยากจะไปดูนางพญาเสือโคร่งมากๆเลยปีนี้ แล้วเห็นว่าที่ภูลมโลเป็นอีกสถานที่นึงที่น่าสนใจ แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มเดินทางยังไง เพราะไม่มีรถส่วนตัวไป และอยากไปแบบแบ็คแพ๊คอ่ะคะ รบกวนขอทรา
Mimalo Muchacha
รบกวนที่พักใกล้ๆภูลมโล
สวัสดีครับ จะขึ้นไปดูซากุระเมืองไทยกัน โดยจะไปขึ้นทางชุมชนบ้านร่องกล้า ไปกันประมาณ 10 คน อยากได้เป็นบ้านหลังเดี่ยวไม่ก็สองหลัง ถ้าได้บรรยากาศดีๆ ไม่ไกลจากจุดขึ้นรถชมภูด้วยยิ่งดีครับ ได้ลองติดต่อรีสอร
dif
ซากุระเมืองไทย ภูหินร่องกล้า บานแล้ว 100%....
ณ ตอนนี้ดอกนางพญาเสือโคร่งที่ภูลมโล ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บานเต็มที่แล้วครับ คาดว่าจะอยู่ถึงประมาณสิ้นเดือน.. ใครที่ยังไม่ได้มาชมเชิญนะครับ ... เอารูปมาฝากกัน ถ่ายเมื่อ 5 มกราคม 2557
หนุ่มเอ ร่องกล้า
ซากุระเมืองไทย ภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหิน่องกล้า
ทุ่งดอกซากุระเมืองไทย บนภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าบานสะพรั่ง ที่ภูลมโล ใจกลางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่กำลังเป็นไฮไลน์ของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เนื่องจากได
เส้นลวก
ทริป...ภูลมโล โดยรถสวัสดิการเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าจังหวัดพิษณุโลก
ออกเดินทางจากอุทยานฯโดยรถสวัสดิการไปรับท่านที่บ้านพักหรือลานกางเต็นท์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ30-40 นาทีถึง บริเวณจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นภูลมโล จะยังมืดเห็นดาวชัดเจนและไฟจากบ้านทับเบิกสวยอีกแบบ
หนุ่มเอ ร่องกล้า
จะไปภูหินร่องกล้า ไปทางไหนดีครับ??
ผมจะไปภูหินร่องกล้า ควรใช้เส้นทางไหนดี ระหว่างซ้ายกับขวา Swit1.2 บรรทุก4คน
โจ๊กไก่ใส่เห็ด
กุหลาบขาวจ่อคิวบาน หลังจากที่ซากุระเมืองไทย หมดฤดูกาลแล้วปีนี้ @ ภูหินร่องกล้า
ตอนนี้ที่ภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยได้แตกใบอ่อนและดอกหดหายไปแล้ว ยังมีอีกแค่ไม่กี่ต้นที่ยังมีดอกให้ดูและคาดว่าประมาณ4-5 วันนี้ ดอกจะไม่มีให้ชมกันแล้ว ไม่แน
หนุ่มเอ ร่องกล้า
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวไทย
เที่ยวภูเขา
เที่ยวเชิงอนุรักษ์
บันทึกนักเดินทาง
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ทริปปุบปับ เซไปที่ภูลมโล (อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า)
เรื่องมันมีอยู่ว่า ทางเราได้ไปเจอเพจของ Thaipbs มีสกู๊ป นำเสนอเรื่องหมู่บ้านร่องกล้า ทางเราเลยแกล้งๆแชร์ไปให้เพื่อนสาวของเราลองดู ตอนแรกก็แพลนไว้ไกลๆ ปลายๆกุมภางี้ ซักพักเพื่อนเราไปเปิดเพจที่แชร์อัพเดท การบานของดอกพญาเสือโคร่ง พบว่าช่วงนี้อยู่ในช่วงกำลังบานเต็มที่ เลยอยากสนองนี๊ดความอยากของตัวเอง ที่ครั้งหนึ่งอยากไปอยู่ท่ามกลางดอกไม้สีชมพู ที่หน้าตาเค้าคล้ายๆ คุณซากุระของทางฝั่งแดนอาทิตย์อุทัย ไอ้ครั้นจะไปดูซากุระจริงๆ นอกจากกลัวจะเดาช่วงบานคลาดเคลื่อนแล้ว ราคาค่าตั๋วก็สูงชะลูดริบริ่ว ทริปนี้จึงบังเกิด ตอนช่วงหกโมงเช้าของวันวันหนึ่ง คุยเรื่อยๆ ระหว่างเดินไปทำงาน คิดระยะเวล่ำเวลาแล้วเห็นควรตรงกันว่าขอลาพักร้อนกันซักหนึ่งวัน แล้วก็ลุย!!!
เริ่มสตาร์ทการเดินทางเช้าวันที่ 20 มกรา 67 โดยเราวางแผนกันว่า ไปพักรถคืนนึงที่บ้านเพื่อนที่พิจิตร แวะเล่นกับหลานน้อยของคุณเพื่อนด้วย โดยทางเราก็สร้างความลำบากให้เพื่อนโดยการล็อคกิจกรรมของวันแรกคือ เพื่อนต้องพาไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นน้ำใสในตัวเมืองพิจิตรที่เคยกินเมื่อสองปีที่แล้ว และยังอยากกินอยู่จนทุกวันนี้ เป็นก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นน้ำใสที่อร่อยมากๆๆๆๆ แถมปกติเคยเห็นแต่ไก่ตุ๋นน้ำแดง แต่เจ้านี้เป็นไก่ตุ๋นน้ำใส ตรงกับจริตของเรามากที่สุด ใครที่ผ่านๆไปทางพิจิตร ลองแวะทานกันได้นะคะ ชื่อร้านป้าคิด ก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋น อยู่ใกล้กับโรงพยาบาลพิจิตรค่ะ
หนังท้องตึงจากอาหารคาวเสร็จ เพื่อนสาวเราก็พาไปจิบชากาแฟ ที่ร้าน Makesence สิงห์โตทอง ให้ชื่นใจ ก่อนจะกลับบ้านไปเล่นกับหลานน้อยของคุณเพื่อน ปิดท้ายวัน คุณแม่ของเพื่อนสาวก็พาไปทานข้าวเย็น กราบขอบพระคุณค่า
เช้าวันที่ 21 มกรา 67 พวกเราต้องขยี้ขี้ตาตื่นมาอาบน้ำตอนตีสามครึ่ง เพราะวางแผนอยากไปดูพระอาทิตย์แสงแรกของวันที่ภูลมโล (แต่ไปถึงอุทยานจริงคือเจ็ดโมงหน่อยๆ 🤣) และจากที่เสิร์ชๆหาพบว่าการจะขึ้นภูลมโลได้ต้องเหมารถนำเที่ยวที่ขึ้นทะเบียนไว้กับอุทยานฯ คันละ 1,000 บาท รถคันนึงไปได้สิบคน เค้าให้เราไปหาคนแชร์เอาเอง หรือจะเหมาๆไปเลยก็ไม่ติด พอไปถึงจุดจองคิวตอนเจ็ดโมงครึ่ง ก็ตะลึงตึงตึง!! หมู่มวลมหาประชาชนคับคั่งมาก หันซ้ายหันขวา จะแชร์กับใครดี เลยเจอคุณป้า กับลูกชายคุณป้า เลยเข้าไปขอแชร์ด้วย รวมเป็น 5 คน ซึ่งต้องรอคิวแอบอลังการมาก เกือบ40 คิวก่อนหน้า แต่ไหนๆก็มาแล้ว เราต้องสู้ เรารอได้ รอไหว เพราะอากาศก็แสนจะเย็นสบายที่ 19 องศา แต่ก็แค่อดดูแสงแรกที่ภูลมโล
ระหว่างรอก็เจอกลุ่มคุณพี่ พี่สาวพี่ชายที่เป็นสายท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ เที่ยวตามป่าตามเขา พี่เค้ามากางเต๊นท์นอนที่อุทยาน ค่าธรรมเนียมตกคนละ 30 บาทเอง ถูกมากกก (แต่ค่าอุปกรณ์กางเต๊นท์นั้นมิอาจทราบได้ว่าหมดไปเท่าไหร่ 😆) แล้วก็เห็นพี่เค้ามีเล่มพาสปอร์ตของอุทยานแห่งชาติเวอร์ชั่นเก่ากึ๊กๆ พี่ๆเปิดให้ดู อู้วหูวเลยยย พี่มีตราปั๊มอุทยานแห่งชาติทั้งแต่ปี 2548 ตอนนั้นทางเรายังอยู่มัธยมปลายกันอยู่เลย อย่างตราปั๊มอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า พี่เค้าก็มีตั้งแต่ตราปั๊มรุ่นเก่า ยันตราปั๊มแบบปัจจุบัน ดูแล้วก็ใจฟูนะ (เข้าใจเลยว่า พี่ๆเอาให้ดูพร้อมเล่าให้ฟัง เราดูก็รู้ว่าพี่ๆเค้ามีความสุข จอยๆกับการเที่ยว แถมพี่เค้าบอก ป่ะ ขึ้นภูไปพร้อมกันเลยดีกว่า แต่บังเอิญว่าเราไปตกลงกับคุณป้า และลูกคุณป้าไว้แล้ว เลยอดจอยๆ กันเลย ทางเราก็แอบเสียดายนิดๆ ถ้าได้นั่งรถไปด้วยกัน คงได้ฟังประสบการณ์การเที่ยวของพี่เค้าได้อีกยาวๆ (เผื่อโชคดีพี่เค้าเข้ามาพวกเราเป็นแก๊งค์บัตรคิวสีฟ้า คิวที่ 24 ขึ้นรถช่วงเก้าโมงเช้าของวันที่ 21 ของพี่ๆเค้าเป็นคิวที่ 26 หลังเรา 2 คิว) 😊
พอถึงเวลาคิวรถของเรา ตอนเก้าโมงเช้า (รอไปชั่วโมงครึ่ง!! นึกว่าต้องรอนานกว่านั้นซะแล้ว 🤣) ทางเราก็ตะกายขึ้นกระบะ ชื่นชมธรรมชาติโต้ลมหนาว 19 องศา ตอนเวลา 9 โมงเช้าาาา (เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่จองกับคัลแลน ชอบบอกว่าใจฟู) มันใจฟูจริงๆ นะ ถึงแม้ระหว่างทาง ทางเราจะต้องอุดจมูก และเผลอบริโภคดินลูกรังไประหว่างทาง กรุ๊บๆกรั๊บๆ เส้นทางมีความโค้ง มีความลาดชัน แบบพอกรุบกริบให้สนุกสนาน แต่ไม่ได้น่ากลัวอะไร ชมวิวผสมผสานฝุ่นไป พร้อมส่องบางจุด มีต้นพญาเสือโคร่งบานเป็นวงกว้างกลุ่มใหญ่ ให้มันเป็นสีชมพูที่ปกคลุมเขา สวยมากกก(ก.ไก่ล้านตัว)
ถึงแม้เวลาตอนลงดูแต่ละจุด ก็เต็มไปด้วยมวลมหาประชาชน แต่มันคือการท่องเที่ยว สถานที่ที่เป็นช่วงเที่ยวของเค้า ทางเราก็เข้าใจนะ ไม่เป็นไรเที่ยวๆไปด้วยกัน มันเป็นความทรงจำที่ดีมากกกเลยค่ะ ที่เราว่าการมองด้วยตาเปล่า การเซฟรูปเข้าความทรงจำ มันสวยสุดๆ ที่ความรู้สึกแตกต่างกับการดูรูปถ่ายมากมาย แต่เพื่อแก้ความคิดถึง สถานที่แห่งนี้ทางเราก็บันทึกภาพ บันทึกวิดีโอเก็บไว้รัวๆ เหมือนกัน เราใช้เวลาบนภูลมโล รวมระยะเวลานั่งรถขึ้นเขารวมๆ แล้ว 2 ชั่วโมง (แต่จากที่ทราบมาเค้าให้เวลาได้ถึง 3 ชั่วโมงรวมเวลานั่งรถไปกลับนะคะ)
วันที่เราไปเป็นวันอาทิตย์ ตอนลงมาจากภู เจอรถติดแถวทางออกจากหมู่บ้านร่องกล้า และเป็นช่วงพีคด้วยประชากรเลยมากเป็นพิเศษค่ะ