บ้านร่องกล้ากับต้นไม้สีชมพู สู่เนินมะปรางหมู่บ้านแห่งทิวเขา

สวัสดีปี 2024 ครับผม ปีนี้ผมเองก็ได้มีฉุกละหุกทริปตั้งแต่ต้นปีเลยทีเดียว
ส่วนตัวผม อยากไปเที่ยวชมพญาเสือโคร่งบานมาตั้งแต่สมัยเริ่มหัดเล่นกล้องใหม่ๆ
จนมีโอกาสได้ไปมาทั้งดอยอ่างขาง ขุนวาง ขุนช่างเคี่ยน ได้ถ่ายภาพเล่นมาบ้าง หัดถ่ายบ้าง
แต่ก็ไม่ได้ไปในช่วงเวลาที่พีคที่สุด และครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมก็ไปในช่วงที่ภูลมโลผ่านพ้นช่วงพีคไปแล้ว(อีกหล่ะ...)
แต่คราวนี้แตกต่างไป โจทย์ของผมคราวนี้มีสั้นๆคือ ถ่ายภาพหมู่บ้านร่องกล้าตอนกลางคืนให้มีไฟแฉกๆแซมกับต้นไม้สีชมพู
และนี่คือฉุกละหุกทริปอีกครั้งของผม กับ

"บ้านร่องกล้ากับต้นไม้สีชมพู สู่เนินมะปรางหมู่บ้านแห่งทิวเขา"

เนื่องจากชีวิตช่วงนี้ไม่ค่อยจะลงตัวนัก มีเรื่องราวต่างๆเข้ามาในชีวิตตั้งแต่ปลายปีก่อน
จนทำให้ทริปปิดท้ายปีต้องยกเลิกไป มาจนปีนี้ก็ยังหาเวลาให้กับตัวเองไม่ค่อยได้สักที
แต่ความรู้สึกเดิมๆ ที่อยากจะถ่ายพญาเสือโคร่งบานก็ยังวนเวียนอยู่เสมอเมื่อถึงฤดูกาลของมัน
ในใจก็ยังคิดวนเวียนๆไป ไปถ่ายได้มั้ยน๊า ไปไหนดีน๊า คนจะมหาศาลมั้ยน๊า...
จนที่สุดแล้ววีคสุดท้ายของเดือนผมก็พยายามจัดสรรตัวเอง แต่รอบนี้มีเวลาไม่เยอะมากนัก
เลยล้มเเผนที่จะไปขุนช่างเคี่ยน แล้วมองทางเลือกอื่นแทน
แล้วภาพหมู่บ้านร่องกล้าก็ผุดขึ้นมา ในใจก็คิดแต่ว่า อยากถ่ายมุมนี้ตอนกลางคืนจัง
ระหว่างที่คิดก็ทะยอยขนของใส่รถทั้งเต็นท์ เครื่องนอน เตรียมอุปกรณ์ถ่ายภาพไปด้วย ตั้งแต่วันจันทร์
จนเย็นวันพฤหัสหลังเลิกงาน 5 โมงเย็นผมก็ออกเดินทางทันที
แต่ก็ยังไม่วายที่จะมีกังวลอีก เพราะคืนนี้บอลไทยเจอซาอุ บอลก็อยากดู แสงเช้าก็อยากถ่าย เอาไงดี 555
คำนวนเวลา ดูสภาพร่างกาย และเส้นทางแล้วเลยตัดสินใจนอนใกล้ๆทางขึ้นภูทับเบิกสัก 1 คืนก่อน
ยังไงไปถึงก็ทันบอลเตะตอน 4 ทุ่ม มีเวลานอนพักก่อนขับรถขึ้นบ้านร่องกล้าตอนเช้ามืดเพื่อไปให้ทันแสงเช้า
ส่วนตัวผมเองเคยขึ้นทับเบิกมาแล้ว เลยไม่ได้กังวลกับเส้นทางนี้ในยามวิกาลเท่าไหร่นัก
ขับด้วยความระมัดระวัง ไปไม่ต้องเร็ว เส้นทางขึ้นเขาก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม
ดีอีกอย่างคือได้นอนพักมาก่อนด้วย สภาพร่างกายมีความพร้อมมากขึ้น
และแล้วก็ดูไทยชุดบี เตะกับซาอุเป็นชุด 2 ที่เล่นได้ดีนะ บอลจบแล้วรีบนอน เพื่อตี 5 จะได้ออกเดินทางไปบ้านร่องกล้าทันที
อ้อ ตื่นมาอาบน้ำก่อนเดินทางนะครับ คนที่เจอผมวันนั้นไม่ต้องรังเกียจนะ

และแล้วผมก็มาจอดรถที่วัดป่าภูหินร่องกล้าเวลาหกโมงกว่าๆ เดินทะลุวัดอีกประมาณ 250 เมตรก็มาถึงจุดชมวิว
ผมมาถึงที่นี่เวลาก่อน 7 โมง พระอาทิตย์ยังไม่พ้นทิวเขา อากาศเย็นๆ น่าจะประมาณ 14-15 องศา
ยืนคุยกับน้องที่มารอถ่ายภาพได้ความว่า ฟ้าปิดมาหลายวัน วันนี้มาลุ้นอีกที
และแล้ว 7 โมงกว่าๆ ฟ้าก็เป็นใจ ฟ้าเปิดมีแสงแดดส่อง มีหมอกจางๆ จากนั้นก็รัวภาพกันไม่หยุดครับ


ขออนุญาตรวบภาพจากทั้ง 2 เช้ามารวมกันเลยนะครับ เพราะอีกวันฟ้าค่อนข้างปิดไม่ค่อยได้ภาพครับ

หลังจากถ่ายภาพเสร็จก็ยืนคุยอยู่กับช่างภาพหลายๆท่านที่มาเก็บภาพในวันนั้นด้วย
สีหน้าทุกท่านเต็มไปด้วยความสุข ผมมารู้ทีหลังว่าหลายท่านเป็นช่างภาพที่มีดีกรี เป็นที่รู้จักในกลุ่มช่างภาพ
และบางท่านก็เป็นสาย influ ชื่อดัง ยินดีที่ได้พบปะพูดคุยด้วยนะครับ
เสร็จจากถ่ายภาพที่จุดนี้แล้วผมก็รีบออกตัวไปหาที่นอน เรื่องบ้านพักไม่ต้องคาดหวัง
ขอที่กางเต็นท์มุมดีๆสักทีก็พอ แล้วก็มาได้ที่มุมนี้ครับ  จุดกางเต็นท์ไร่ผาชมภู บ้านร่องกล้า
จุดนี้ทางขึ้นค่อนข้างชันและมีโค้งแฮร์พิน ใครที่ขับรถไม่แข็งหรือกำลังรถไม่พอ ไม่แนะนำนะครับ
เพราะระหว่างที่ผมกางเต็นท์นั้นก็มี Bigbike มากลิ้งอยู่หน้าเต็นท์พอดี ทั้งวันก็จะมีรถขึ้นไม่ได้ ไม่ไหวให้เห็นอยู่ประปราย
อ้อ ระหว่างกางเต็นท์ ก็มีมอไซค์มาบริการอาหารพอดี ผมเลยฝากท้องมื้อเช้าไว้เลยครับ
ปล. บะหมี่อร่อยดี จ่ายแพงกว่าหน่อยช่วยค่าน้ำมันคนขายไปครับ

เอาจริงๆ ใครที่จอดรถแล้วไม่แนะนำให้ขยับตัวไปไหนนัก เพราะช่วงพีคๆนั้นจะมีรถขึ้นมากางเต็นท์และจอดเสมอๆ
การจัดระเบียบยังไม่ค่อยดี สืบได้ความว่าที่นี่เพิ่งเปิดมาแค่ 3 อาทิตย์
และลานกางเต็นท์ทุกจุด พอรถออกแล้วจะกลับมาหาที่จอดอีกค่อนข้างยาก รวมไปถึงในหมู่บ้านที่จอดรถก็ค่อนข้างจะเเน่น
ถ้าไม่ติดอะไร แปะไว้เลยสะดวกกว่าครับ เคลื่อนย้ายแค่ตัวเองพอ ผมเองไม่ได้เตรียมอุปกรณ์หุงหาอาหารมาด้วย
เพราะตั้งใจมาเน้นถ่ายภาพ กับซุกหัวนอน ไม่ได้เตรียมการ Camping เท่าไรนัก เอาสะดวกเข้าว่า
อิ่มแล้วผมก็ลงไปเดินสำรวจหมู่บ้าน คนค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวเพราะเป็นจุดที่คนมาขึ้นรถไปภูลมโลไปชมพญาเสือโคร่งกัน
ผมนั่งกินกาแฟ นั่งดูผู้คน ทำรูปช่วงเช้าไปสักพัก ก็ตัดสินใจ ขอไปชมถภูลมโลกะเค้าด้วยล่ะกัน ถึงจะไม่มีนางแบบติดตัวมาด้วยก็เถอะ
ที่นี่ค่ารถเหมาๆ 1 พันบาท ผมไปขอแจมรวมกับเค้าได้ 8 คนกำลังนั่งสบายๆพอดี
เก็บภาพมานิดหน่อย เพราะช่วงบ่ายนี้ฟ้าครึ้ม และพญาเสือโคร่งเริ่มน้อยลงแล้วครับ


รถพาชมภูลมโลใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ครับ แวะให้ถ่ายตามจุดไปเรื่อยๆ โชคดีที่ก่อนวันผมมามีฝนลง
วันนี้เลยไม่ต้องนั่งกินฝุ่นเข้าภูลมโลกัน ลงจากรถก็เดินเล่น หาของกิน เติมพลังก่อนกลับเข้าเต็นท์พักผ่อนครับ


กลับมาถึงเต็นท์ผมก็รีบอาบน้ำก่อนเลยตั้งแต่ห้าโมง แต่น้ำก็ยังเย็นนะ
นั่งชิวข้างเต็นท์ทำรูปชมวิวไปเรื่อยๆ พอใกล้ค่ำก็ถ่ายรูปหมู่บ้านอีกรอบ แต่รอบนี้ถ่ายจากหน้าเต็นท์ไปเลยครับ

นั่งชิวอยู่หน้าเต็นท์ทำรูปไปเรื่อยๆ คิดว่าค่อนข้างพอใจกับภาพที่ได้แล้ว
เลยตัดสินใจว่ารุ่งขึ้นจะผละออกจากที่นี้เข้าไปอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเพื่อถ่ายภาพทุ่งดอกกระดาษต่อ
ส่วนจะนอนที่ไหนนั้น ให้เป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้ไปครับ
โอ้ย...หนาวๆ เข้าเต็นท์ดีกว่า โอ้ย...นอนๆก็หนาววุ้ย
เช้ามาก็เดินไปรอถ่ายที่เก่า แต่วันนี้ฟ้าปิด เลยถ่ายบรรยากาศยามเช้าจากหน้าเต็นท์มาแทน

แล้วผมก็เก็บเต็นท์เพื่อออกเดินทางเข้าอุทยาน ออกมาประมาณ 10 โมงเช้า รถที่หมู่บ้านเริ่มเยอะ เริ่มติด
ผมเลยไม่ได้จอดหากาแฟกินในหมู่บ้านอีก มุ่งหน้าออกมาทันที และเมื่อเลี้ยวขวาเข้าไปจุดชมดอกกระดาษนั้น
สิ่งที่พบก็คือ รถติด...ผมเลยตัดสินใจออกจากอุทยานและโทรหารุ่นน้องชาวพิษณุโลกทันทีว่า
น้องๆ อุทยานคนเยอะ เเนะนำที พี่ควรไปนอนไหน น้องเลยแนะนำให้ไปบ้านมุง เนินมะปราง
เพราะที่มีมีวิภูเขาที่สวย แต่ก่อนไปที่นั่น ทางผ่านมีร้านบะหมี่อร่อยพี่ พี่ต้องแวะนะ
ได้สิ พี่หิววววว...................


ร้านดูบ้านๆธรรมดาๆ น้องบอกว่าปกติเที่ยงก็ขายหมดแล้ว ผมมาถึงเที่ยงครึ่ง
เกี๊ยวหมด หมูแดงหมด ได้บะหมี่หมูรวมมาแทน ร้านนี้มีอาหารตามสั่งด้วยนะ  แถมอร่อยสมคำเชียร์อีกด้วย
จัดว่าเด็ด ขอแปะพิกัดร้านหน่อย เผื่อใครผ่านอยากแวะ 
ชายสี่หมี่เกี๊ยวหนองกะท้าว https://maps.app.goo.gl/qH7DYoSpbQCdqg9G8?g_st=il

เดี๋ยวมาต่อการปิดทริปที่เนินมะปรางกันครับ
to be continue...
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่