ที่ทำงานเพิ่งประกาศว่าจะมีการเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
>>
ปูมหลัง: กองทุนสำรองขนาดประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท สมาชิกประมาณ 4 พันคน
>>
Timeline:
ปี 2566
1. 25 ก.ย. - 20 ต.ค. คณะกก.กองทุนพิจารณาข้อเสนอ
2. 20 ต.ค. คณะกก. vote เลือกบลจ.
3. 1 ธ.ค. คณะกก. แจ้งรายละเอียดการจะเปลี่ยนบลจ.จัดการกองทุนรายใหม่ ในการประชุมสมาชิก (ทราบเฉพาะในที่ประชุม)
ปี 2567
4. 19 ม.ค. ผอ.เกริ่นถึงเรื่องนี้ในที่ประชุมพบปะพนง. (เริ่มเป็นที่รู้กันในวงกว้าง)
5. 21 ม.ค. มี e-mail กลาง แจ้งพนง.เรื่องการเปลี่ยนบลจ.จัดการกองทุน
6. 1 มี.ค. กำหนดการย้ายไปยังบลจ.ใหม่
>>
คำถาม:
Q1: เหมาะสมหรือไม่ในการเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนในภาวะตลาดแบบนี้ (ไม่ย้ายกอง = loss unrealised)
Q2: การเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนสำรอง ควรให้อำนาจในการตัดสินใจ เป็นของสมาชิกหรือไม่
Q3: หากเราเห็นว่าการตัดสินใจของคณะกก.ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของสมาชิกส่วนใหญ่ เราสามารถจัดการอะไรได้บ้าง
- เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนคณะกก.กองทุน
- ตรวจสอบบัญชีคณะกก.ย้อนหลัง 6 เดือน
- มีหน่วยงานอื่น (กลต.?) ที่มีอำนาจในการจัดการเรื่องร้องเรียนเหล่านี้หรือไม่
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะครับ
เมื่อทราบข่าว เพื่อนพนง.หลายคนก็ไม่สบายใจมาก บางคนทำงานมา 10 กว่าปี เงินที่ลงไปในกองทุน(เฉพาะส่วนของพนง.)ประมาณ 1.5 ล้าน ถ้ามีการเปลี่ยนบลจ. เท่ากับกำไรที่เคยได้ 2-3 แสน จะ realised ตามสภาวะตลาด เหลือ 8000 บาท บางคนติดลบ
----------------------------
ข้างล่างนี้ EDITED เพิ่มเติม -----
1. เพิ่ม
รูปเปรียบเทียบ performance บลจ.เดิม และเจ้าใหม่ 2 รูป
คหสต. ไม่ต่างกันมาก มีนโยบายผสมตราสารทุนในประเทศปีหนึ่งเจ้าใหม่ดีกว่ามากจึงดึง mean
2. ข้อเสนอแนะสำหรับการจัดการกองทุนสำรอง สำหรับเพื่อน ๆ พันทิปท่านอื่น ซึ่งคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งทางองค์กรเองและพนักงาน
S1 - การให้คณะกก.จำนวนไม่กี่ท่านเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับเงินจำนวนมาก อาจต้องมีการเปลี่ยนกฎเกณฑ์เพื่อความโปร่งใส
เช่น อาจให้คณะกก.เป็นผู้จัดหาและเสนอตัวเลือกมาให้ที่ประชุมใหญ่ตัดสินใจเลือกอีกที
S2 - กรณีเปลี่ยนผู้จัดการอาจต้องคำนึงทั้งผลได้ (ผลประกอบการที่คาดว่าจะดีขึ้น) และ ผลเสีย (ขาย=ขาดทุน) แล้วนำมาเปรียบเทียบ
ที่ทำงานเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในภาวะตลาดหมี
>> ปูมหลัง: กองทุนสำรองขนาดประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท สมาชิกประมาณ 4 พันคน
>> Timeline:
ปี 2566
1. 25 ก.ย. - 20 ต.ค. คณะกก.กองทุนพิจารณาข้อเสนอ
2. 20 ต.ค. คณะกก. vote เลือกบลจ.
3. 1 ธ.ค. คณะกก. แจ้งรายละเอียดการจะเปลี่ยนบลจ.จัดการกองทุนรายใหม่ ในการประชุมสมาชิก (ทราบเฉพาะในที่ประชุม)
ปี 2567
4. 19 ม.ค. ผอ.เกริ่นถึงเรื่องนี้ในที่ประชุมพบปะพนง. (เริ่มเป็นที่รู้กันในวงกว้าง)
5. 21 ม.ค. มี e-mail กลาง แจ้งพนง.เรื่องการเปลี่ยนบลจ.จัดการกองทุน
6. 1 มี.ค. กำหนดการย้ายไปยังบลจ.ใหม่
>> คำถาม:
Q1: เหมาะสมหรือไม่ในการเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนในภาวะตลาดแบบนี้ (ไม่ย้ายกอง = loss unrealised)
Q2: การเปลี่ยนบริษัทจัดการกองทุนสำรอง ควรให้อำนาจในการตัดสินใจ เป็นของสมาชิกหรือไม่
Q3: หากเราเห็นว่าการตัดสินใจของคณะกก.ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของสมาชิกส่วนใหญ่ เราสามารถจัดการอะไรได้บ้าง
- เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนคณะกก.กองทุน
- ตรวจสอบบัญชีคณะกก.ย้อนหลัง 6 เดือน
- มีหน่วยงานอื่น (กลต.?) ที่มีอำนาจในการจัดการเรื่องร้องเรียนเหล่านี้หรือไม่
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะครับ
เมื่อทราบข่าว เพื่อนพนง.หลายคนก็ไม่สบายใจมาก บางคนทำงานมา 10 กว่าปี เงินที่ลงไปในกองทุน(เฉพาะส่วนของพนง.)ประมาณ 1.5 ล้าน ถ้ามีการเปลี่ยนบลจ. เท่ากับกำไรที่เคยได้ 2-3 แสน จะ realised ตามสภาวะตลาด เหลือ 8000 บาท บางคนติดลบ
----------------------------
ข้างล่างนี้ EDITED เพิ่มเติม -----
1. เพิ่มรูปเปรียบเทียบ performance บลจ.เดิม และเจ้าใหม่ 2 รูป
คหสต. ไม่ต่างกันมาก มีนโยบายผสมตราสารทุนในประเทศปีหนึ่งเจ้าใหม่ดีกว่ามากจึงดึง mean
2. ข้อเสนอแนะสำหรับการจัดการกองทุนสำรอง สำหรับเพื่อน ๆ พันทิปท่านอื่น ซึ่งคิดว่าจะเป็นประโยชน์กับทั้งทางองค์กรเองและพนักงาน
S1 - การให้คณะกก.จำนวนไม่กี่ท่านเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับเงินจำนวนมาก อาจต้องมีการเปลี่ยนกฎเกณฑ์เพื่อความโปร่งใส
เช่น อาจให้คณะกก.เป็นผู้จัดหาและเสนอตัวเลือกมาให้ที่ประชุมใหญ่ตัดสินใจเลือกอีกที
S2 - กรณีเปลี่ยนผู้จัดการอาจต้องคำนึงทั้งผลได้ (ผลประกอบการที่คาดว่าจะดีขึ้น) และ ผลเสีย (ขาย=ขาดทุน) แล้วนำมาเปรียบเทียบ