ตั้งท้องอยู่ แฟนติดทหาร แต่….ยาวหน่อยนะคะ

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ นี่อาจจะไม่ใช่คำถาม จริงๆอาจจะมาหาเพื่อนระบาย หรืออยากได้กำลังใจค่ะ ตอนนี้เราตั้งท้องเข้าเดือนที่7 แฟนเราติดทหารพึ่งได้เข้าไปกรม เมื่อวันที่1พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ฝึกจบ ได้ลา กลับบ้านมาเจอกันเรียบร้อยแล้ว แล้วก็กลับไปทำหน้าที่ทหารต่อได้ จะเดือนนึงแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ที่แฟนเราจะถึงวันเข้ากรมคือ เราอยู่ที่กรุงเทพด้วยกันสองคน พอใกล้วันที่แฟนจะเข้ากรมเราเลยพากันกลับบ้านต่างจังหวัด ส่วนพ่อแม่แฟนเขาทำงานค้าขายส่วนตัวอยู่ที่ชลบุรี
พอแฟนเราเข้ากรมเราก็มาอยู่กับพ่อแม่แฟนที่ชลบุรี ( ตอนนี้ก็ยังอยู่ ) ประเด็นคือจะเริ่มแล้วค่ะ ถามว่าพ่อแม่แฟนดีไหม เขาดีค่ะ ดูแล เอาใจใส่ ให้เงิน แต่แลกกับการที่เราช่วยเขาทำงานค่ะ งานของเขาคือหุงข้าวขายตามตลาดนัดค่ะ ประมาณว่าเป็นข้าวถ้วย ซึ่งเราขอพูดตรงๆว่างานเขาหนักมากๆ หุงข้าววันนึง 6-7 หม้อเป็นอย่างต่ำ ( เช้า 3 เย็น 4 ) และงานที่เราต้องทำช่วงแรกที่มาอยู่กับเขาคือ ตักข้าวใส่ห่อค่ะ คนอื่นอาจจะขายเป็นข้าวอบไอน้ำที่เป็นถ้วย แต่ว่าของเขาขายข้าวห่อค่ะ ห่อเอง หุงข้าวเป็นหม้อแล้วห่อเอง เราไม่เคยเกี่ยงงานเขาเลยค่ะ ตั้งแต่ก่อนท้องจนถึงตอนท้อง ( เราเคยมาอยู่กับพ่อแม่แฟนช่วงมกราถึงพฤษภา ปี 66 ) ตอนที่มาอยู่ตอนก่อนท้องรอบแรก อะไรช่วยได้เราช่วยหมด ถังข้าว ถังน้ำจะหนักแค่ไหนเรายกหมด เราช่วยแบบพลีกายถวายชีวิตมาก แต่พอมาตอนนี้ เราท้องใช่ไหมคะ เขาก็ให้ทำแค่ยืนตักข้าวกับออกไปช่วยขายที่ตลาด พ่อแฟนไม่ค่อยแข็งแรงค่ะ เขาป่วยแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ขาบวม ปวดค่ะ บอกให้ไปหาหมอรพ.ไม่ยอมไปค่ะ บอกตรวจนาน เวลาเราออกตลาดช่วยเราก็ต้องช่วยยกโฟมข้าว ที่ห่อแล้วเอาใส่โฟมไว้ ข้าวชั้นนึงมี9ห่อ โฟมนึงมีข้าว 7-8ชั้น เยอะใช่ไหมคะ แต่ไม่ได้มีโฟมเดียว มีอยู่ประมาณ 4-5โฟม เพราะขายข้าวหลายแบบ แบบข้าวหอมมะลิ ข้าวธรรมดา ข้าวเหนียว ประมาณนี้ค่ะ ความที่เขาป่วยเราก็อยากช่วย จะให้เรายืนมองมันก็จะเหมือนเราขี้เกียจ แต่เราไม่ได้ยกโฟมข้าวบ่อยค่ะ แทบไม่ได้ยกเลย แต่ก็มีบ้าง ที่เรายกบ่อยคือ ถังแก๊สปิ๊กนิคค่ะ บางวันแก๊สพึ่งเติมมา แต่อันเนี้ยเราไม่ได้จะว่าว่าเขาให้เราทำงานหนักนะคะคนท้อง เขาบอกตลอดว่าไม่ต้องทำบ้างแหละ อะไรบ้างแหละ แต่ เขาชอบทิ้งงานไว้อะค่ะ แบบทำช้า เหมือนกดดันเรา เราก็ทำไรไม่ถูกก็ต้องช่วยเขา อยู่กับพ่อแม่แฟนอะถ้าใครเคยผ่านมาอาจจะเข้าใจเรา จนวันสุดท้ายที่เราจะได้ช่วยงานอะค่ะ เป็นวันที่เรายกโฟมข้าวกลับไปที่รถ แบบเก็บร้านกลับบ้านค่ะ วันนั้นคนน้อยข้าวเลยขายไม่หมด ข้าวมีอยู่ประมาณครึ่งโฟม 4ชั้น เรายกไปที่โต๊ะแต่เราไม่รู้ว่าเรายกสูงไม่พอ โฟมข้าวเลยชนกับตัวโต๊ะแล้วก็คือกระแทกท้องเรา ตอนนั้นเจ็บค่ะ พ่อแฟนเห็นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะเขาเห็นว่าเราไม่ได้พูดอะไรหรือบ่นให้ฟังว่าเราเจ็บตรงไหนไหม เราจะบอกว่าเราเจ็บเราปวดท้องท้องแข็งบ่อยค่ะ แต่เราไม่เคยบอกเขาทั้งพ่อทั้งแม่แฟน เราอดทนเราอยากช่วยงานเขาให้ได้เยอะๆ จบวันนั้นผ่านไปสองวันเราปวดท้องน้อยค่ะ เลยหยุดทำงาน พอหยุดทำงานก็ไม่ได้เงินค่ะ ได้แค่กับข้าวเช้าเย็นเขาจะซื้อให้แบบนี้ทุกวัน เขาบอกเราว่าเราอยากกินอะไรกินเลย บอกเลย อะไรประมาณนี้ แต่เราเป็นคนขี้เกรงใจ ชอบใช้เงินตัวเองซื้อ เราไม่ค่อยรบกวนเขา เข้าเรื่องต่อคือ เราปวดท้องน้อยมันปวดมาก พร้อมกับมีท้องแข็งร่วมด้วยแทบจะทั้งวัน จนเราไม่ไหวค่ะ เช้าเขาเลยพาไปหาหมอ พอเราไปตรวจอะไรก็คือเด็กปกติ หมอถามว่าเราทำอะไรมาบ้าง ทำไมถึงเป็นเราก็เลยบอกไปค่ะ ว่าเราช่วยบ้านแฟนทำงานแบบนี้ๆ สรุปเราโดนหมอด่าค่ะว่ายกของแบบนั้นได้ไง วันนั้นเลยโดนฉีดยา โดนสั่งห้าม ก็กลับมาบ้าน ได้นอนพักอยู่เกือบสองอาทิตย์ เราเลยเริ่มลุกมาช่วยเขาตักข้าวค่ะ จะบอกว่าปัญหาพวกนี้เราเล่าให้แฟนฟังหมดนะคะ แต่เหมือนเขาจะไม่ค่อยเข้าใจว่า การที่คนท้องต้องทำงานแบบนี้มันได้รึเปล่าอะค่ะ เหมือนกับว่าเขาไม่สนใจจนเราเริ่มทะเลาะกัน เพราะเราเองก็อยากหยุดทำงาน แต่เรากลัวว่าพ่อแม่จะคิดว่าเราขี้เกียจไม่อยากทำงาน เพราะแม่แฟนเขาบอกเราตลอดค่ะว่า ตอนแม่ท้องแม่ยังยกมันสำปะหลังเป็นสิบโล ไม่เห็นเป็นอะไร แต่เข้าใจใช่ไหมคะว่าร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน ค่ะเราปรึกษาแฟนตลอด แต่เหมือนเขาไม่ช่วยอะไรจนเราทนไม่ไหวก็ทะเลาะกันบ่อยขึ้น แล้วเราก็เริ่มพูดคุยว่าถ้าลูกคลอดจะแยกกันอยู่กับพ่อแม่นะ อะไรแบบนี้ เขาก็โอเค แต่ช่วงก่อนจะคลอดคือ เราอึดอัดหลายๆเรื่องค่ะ พอเราปรึกษาแฟน ก็มีทะเลาะกันเองบ้าง แฟนไม่เข้าใจบ้าง ส่วนตัวเราเองเราเป็นซึมเศร้าตอนตั้งครรภ์ด้วยค่ะ บางทีเรามีเรื่องเครียดอะไร เรารู้สึกเหมือนเราคุยกับแฟนไม่ได้เลยค่ะ ตามที่บอกคือ เราจะทะเลาะกันเอง พึ่งพาแฟนไม่ได้ บ่อยครั้งเราร้องไห้คนเดียวในห้อง เราก็พยามบอกแฟนว่า เราเครียดเราอันนี้นะ เราเป็นแบบนี้นะ แฟนก็สนใจนะคะ โทรมาชวนคุย ว่างก็โทรหาตลอด แต่เขาไม่เคยคุยเรื่องปัญหาเลย จนเราไม่ไหวจริงๆเราทะเลาะกันบ่อยขึ้น เราเลยบอกว่าเราจะกลับไปอยู่บ้าน แต่บอกพ่อแม่แฟนนะคะ เพราะว่าเราทะเลาะกับแฟนจนไม่คุยกัน ความจริงปกติแฟนจะเป็นคนโทรหาตลอด วันที่ไม่ได้คุยกันคือ พ่อเขาแนะนำค่ะ ว่าอย่าพึ่งคุยกัน ถ้าคุยกันแล้วทะเลาะ แต่สำหรับเราคือ ยิ่งไม่มาคุยปัญหาจะจบได้ยังไง บวกกับเราก็คนคิดมากคนนึงแถมตั้งท้องแถมซึมเศร้า เราเลยบอกพ่อแม่เขาว่าเราจะกลับไปอยู่บ้าน แล้ววันต่อมาแฟนโทรมาคุยกับเรา ไม่อยากให้เรากลับบ้าน เพราะว่าถ้าเขาได้ลา ก็ไม่รู้จะไปหาใครดีระหว่างเรากับพ่อแม่เขา แต่อึดอัดค่ะ เราทนไม่ไหวกับปัญหาทางนี้ที่เราอดทนอยู่คนเดียวไม่เคยได้รับการแก้ไข ปัญหาที่เราเจออยู่ไม่ใช่แค่เรื่องต้องช่วยพ่อแม่แฟนทำงานนะคะ มันมีเรื่องจิปาถะอีกเยอะ แล้วเราไม่ไหว เราบอกว่าเราจะกลับบ้านจนแฟนโมโหค่ะ เขาปาโทรศัพท์ทิ้ง พังติดต่อกันไม่ได้ ตอนนี้ไม่ได้ติดต่อกันมาสามวันแล้วค่ะ เราคิดมาก เราไม่มีคนให้คุยด้วย เราคิดว่า แฟนเราจะพยามหาทางมาคุยกับเรา เช่นขอยืมโทรศัพท์เพื่อนโทรมาหรือทักเฟสมา แต่ไม่มีเลยค่ะ แต่เขาติดต่อหาพ่อแม่เขา เขายืมโทรศัพท์เพื่อนโทรหาพ่อเขา เพื่อปรึกษาเรื่องเป็นทหารจำหน่ายอะค่ะ เหมือนประมาณว่ายกเงินเดือนให้คนอื่น อันนี้เราเข้าใจนะคะ แต่เขาไม่มีมาขอคุยกับเราหรืออะไรเลย เรายิ่งคิดเยอะคิดหนักไปใหญ่ แต่ว่าวันที่เขาปาโทรศัพท์พัง เราทักหาเพื่อนแฟนที่เป็นทหารอยู่ด้วยกัน เราใจเย็นแล้วเราก็บอกแฟนเราว่า เราอาจจะไม่กลับบ้านแล้วก็ได้ เพื่อความสบายใจของเขา แต่เราแค่คิดว่าทำไมถึงไม่คิดจะติดต่อมาหาเราบ้าง โทรหาพ่อแม่แต่ไม่ขอคุยกับเรา ตอนนี้เราเลยคิดว่า เราจะกลับบ้านดีไหมคะ พ่อแฟนบอกว่าจะไปส่งวันที่25นี้ แต่ที่บ้านเรา ไม่มีคนซัพพอร์ตนะคะ ไม่มีเงิน ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง อยากได้อยากทำอะไรต้องหาเอง แล้วส่วนตัวแล้วคิดว่าคนใกล้คลอดทำงานอะไรได้คะ จะไปหางานไหนทำ บ้านเราเองไม่ได้มีธุรกิจส่วนตัวทำ บ้านก็เช่า บวกกับทะเลาะกับพี่สาว แล้วเขาไม่ให้เรากลับบ้านด้วย แล้วเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าเราท้องอยู่ กลับไปจะเป็นภาระเขาซึ่งพี่สาวเราไม่ยอมแน่ๆค่ะ เราไม่รู้จะทำอย่างไงแล้วค่ะ ##### เราเผลอได้อ่านแชทแฟนเราที่คุยกับพ่อของเขา พ่อแฟนเราบอกกับแฟนเราประมาณว่าถ้ายอมให้เรากลับบ้าน เขาก็ต้องโดนเรียกเงินเพราะเราท้อง ส่วนตัวแฟนเราเขาบอกประมาณว่า ไม่อยากให้เรากลับบ้านเพราะว่า ตอนเงินเดือนออกก็ส่งให้เราทั้งหมด ถ้าให้เรากลับบ้านก็สูญเสียทุกอย่างไปเฉยๆเลยสิ มันทำให้เราคิดว่า ที่ผ่านมาเขาคิดแบบนี้กับเราหรอ เราควรอยู่ต่อไหมคะ ทุกคนว่าเราควรอยู่ต่อไหม แต่เราคิดถึงอนาคต ว่าเราจะหาเงินจากไหนมาซัพพอร์ตลูกเราที่กำลังจะเกิด เราจะทำยังไงดีหรอคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่