ทิ้งวุฒิปริญญาโทเมืองไทย มาเรียนสายอาชีพที่เยอรมนีในวัย 40 ปี!! Ep1.| แรงบันดาลใจ

หลังจากแต่งงานกับชาวเยอรมัน ดิฉันจึงย้ายมาใช้ชีวิตอยู่กับสามีที่ประเทศเยอรมนีในปี 2019 เริ่มแรกดิฉันมั่นใจว่า วุฒิการศึกษาที่เรามีนั้นสามารถหางานทำได้ง่ายๆ ในประเทศนี้ เพราะเยอรมนีเป็นประเทศอุตสาหกรรม ในขณะที่ดิฉันจบปริญญาโท สาขา วิทยาการจัดการอุตสาหกรรมมา และมีประสบการณ์ทำงานทั้งในบริษัทและโรงงานอุตสาหกรรมมา 14 ปี นี่ดิฉันจบสายตรงมาเลยนะจ๊ะ... แหม๋…เรื่องหางานจะไปยากอะไร 🤣
แต่พอมาถึงแล้วนั้น มันไม่เป็นเช่นนั้นสิคะ!!! นี่ดิฉันประเมินสถานการณ์ไว้ต่ำมากเกินไปเลยสินะ .. สิ่งที่เราต้องเผชิญปัญหาอย่างใหญ่หลวง คือ ภาษาเยอรมันค่ะ (ยากมาก!! 😭) คนเยอรมันใช้ภาษาเยอรมันในการสื่อสารเท่านั้น ไม่ว่าจะป้าย ถนนหนทาง ซื้อของในร้านค้า เป็นภาษาเยอรมันล้วนๆ ไม่มีภาษาอังกฤษเลยค่ะ!!  

ภาษาเยอรมันจะเป็นตัวตัดสินว่า เราจะได้ทำงานอะไร โดยเฉพาะสำหรับคนต่างชาติ!! ถึงแม้บางบริษัทจะใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสารกับชาวต่างชาติ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พวกเค้าประชุมกัน หรือ พูดคุยกันก็เป็นภาษาเยอรมันอยู่ดี หากจะสมัครงานที่บริษัทในเยอรมนี มีข้อกำหนดว่าต้องยื่นประกาศนียบัตรภาษาในระดับ B2 ขึ้นไป (ส่วนใหญ่รับที่ C1 ขึ้นไป) นี่แค่การยื่นสมัครงานนะคะ ส่วนบริษัทจะเรียกเราสัมภาษณ์ไหม ก็อยู่ที่ว่า เรามีความสามารถ โดดเด่นแตกต่างจากคนเยอรมันตรงไหน? ทำไมบริษัทต้องเลือกเราล่ะ? เค้าไม่ได้กีดกันคนต่างชาติในการทำงานนะคะ เปิดมากขึ้นด้วยซ้ำไปค่ะ ขอแค่มีใบอนุญาตทำงาน คุณสมบัติครบ ความสามารถตรงตามที่บริษัทต้องการ ก็มีสิทธิได้งานทำค่ะ  คนเยอรมันมีการศึกษาที่ดี จบเฉพาะทางมา บริษัทต่างยอมรับในวุฒิการศึกษาที่จบจากเยอรมนี ..แล้ววุฒิการศึกษาของเราล่ะ? 🤣

ในเมื่อเลือกงานไม่ได้ ภาษายังต้องเรียนอยู่ การทำงานช่วงแรกของดิฉัน คือ การทำงานในครัว ใช่ค่ะ..งานครัว!!.. มันไม่ต้องพูดนี่นา แค่ใช้แรงงาน 🤣 …งานถัดไปคือ พนักงานเสิร์ฟอาหาร พอภาษาเริ่มดีขึ้นมาหน่อย เลยเปลี่ยนมาทำงานเป็นคนรับคำสั่งซื้ออาหารแบบ drive through ผ่านลำโพงและแคชเชียร์คิดเงินลูกค้า และงานสุดท้ายที่เป็นแรงบันดาลใจให้เลือกเรียนในสายอาชีพอีกครั้งในวัย 40 ปี คือ การทำงานเป็นผู้ช่วยทั่วไป (Alltagshelferin) ที่โรงเรียนอนุบาลค่ะ!!

เราค่อนข้างประหลาดใจกับพฤติกรรมเด็กๆ และการเลี้ยงดูของครู นั่นเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่เราได้สัมผัสกับวิถีการเลี้ยงดูเด็กอย่างจริงจังของคนที่นี่ เด็กกล้าพูด ฉะฉาน กล้าแสดงออก ยกมือถามเวลามีคำถาม เด็กๆ มีอิสระในการเล่น ไม่มีกระดาน ไม่มีการเรียนการสอน ส่วนครูมีหน้าที่ผลักดันให้เด็กๆ มีพัฒนาการในด้านต่างๆ อย่างสมวัย มีการเตรียมห้องเล่นอิสระ ของเล่นต่างๆ และหนังสือนิทานให้ครูอ่านให้ฟัง ครั้งหนึ่ง เด็กๆ เล่นกันแล้วทะเลาะกัน ถกเถียงกัน ครูแค่สังเกตการณ์ดูเฉย ปล่อยให้เด็กถกเถียงกันไป เราอยากรู้มากขึ้นไปอีกว่า ทำไมครูทำเช่นนั้น? แล้วเหตุการณ์ไหน ครูตัดสินใจดูเฉยๆ หรือ เข้าไปไกล่เกลี่ย? แล้วไกล่เกลี่ยอย่างไร? และอีกหลายๆ เหตุการณ์ที่เราเจอ กระตุ้นให้เราอยากรู้มากขึ้น เราอยากทำได้บ้าง นี่เลยเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากทำงานเป็นครูอนุบาลที่เยอรมนีค่ะ เราตัดสินใจเลิกสมัครงานในบริษัทที่โดนปฎิเสธมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว หันมาสมัครเรียนสายวิชาชีพ Ausbildung als Erzieherin ที่ Brerufskolleg แทนค่ะ ☺️

Ep หน้าเราจะมาเล่าให้ฟังเรื่องระบบการเรียนสายอาชีพมีกี่ระบบ? เรียนสายอาชีพมีรายได้จริงไหม? รอติดตามเลยค่ะ 😄
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่