เกิดขึ้นที่นี่
มีการวางกำลัง เครื่องบินรบ จนเกิดการรบทางอากาศ
ครั้งแรก
รูปปั้น นาวาอากาศตรี ศานิต นวลมณี วีรบุรุษเวหาของกองทัพอากาศไทย สูง 3 เมตร ที่สวยงาม .....ที่ตั้งแสดงอยู่ใน "กองบิน 23" จังหวัดอุดรธานี
มือของท่านชี้ไปทางทิศ ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขง ของอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย จุดที่เกิดการรบทางอากาศ .... เมื่อเดือนธันวาคม 2483 ในระหว่าง กรณีพิพาทระหว่างไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส.
..... นาวาอากาศตรี ศานิต นวลมณี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2483 สิริอายุ 23 ปี อนุสาวรีย์ของท่าน ตั้งอยู่ภายใน กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี .....
🇹🇭❤️❤️วีรกรรมของ นาวาอากาศตรี ศานิต นวลมณี วีรบุรุษยุทธเวหา (นักบินชาวจังหวัดอุดรธานี)
สำหรับการรบทางอากาศหรือการทำยุทธเวหาครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย เกิดขึ้นในวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๓ กรณีพิพาทอินโดจีนหรือสงครามอินโดจีน เป็นการสู้รบระหว่างไทยและฝรั่งเศสเหนือน่านฟ้าจังหวัดนครพนม
- น.ต. ศานิต นวลมณี (นักบินชาวจังหวัดอุดรธานี) ผู้บังคับหมวดบินที่ ๑ ฝูงบินตรวจการณ์ที่ ๔๒ ของกองบินน้อยผสมจังหวัดอุดร ประจำการอยู่ที่สนามบินอุดรธานี (สมัยนั้นเรียก สนามบินหนองขอนกว้าง) ได้นำเครื่องบินโจมตีแบบคอร์แซร์ โดยมี จ.ท.ประยูร สุกุมลจันทร์ ทำหน้าที่พลปืนหลัง ขึ้นสกัดกั้นเครื่องบินของฝรั่งเศสที่บินล้ำน่านฟ้าเขตแดนไทยเข้ามาทางทิศใต้ของ จ.นครพนม เครื่องบินของฝรั่งเศษเป็นเครื่องบินขับไล่แบบ Morane 406 จำนวน ๕ เครื่อง และเครื่องบินลาดตระเวนแบบ Potez 25 จำนวน ๑ เครื่อง ซึ่งนักบินไทยได้เข้าทำการรบอย่างห้าวหาญ แบบ ๑ ต่อ ๕ สามารถยิงเครื่องบินขับไล่ของฝรั่งเศสตกได้ ๑ ลำ กระทั่งกระสุนหมด น.ต.ศานิต นวลมณี ได้พยายามนำเครื่องบินกลับเข้ามาในเขต จ.นครพนม โดยมีเครื่องบินข้าศึกไล่ตามอย่างกระชั้นชิด จากนั้นพันจ่าอากาศเอก ทองใบ พันธุ์สบาย และ จ่าอากาศเอก นาม พุ่มรุ่งเรือง ได้นำเครื่องบินขับไล่แบบ Hawk 3 เข้าทำการสกัดกั้น ฝูงบินของข้าศึกจึงถอยร่นออกไป ผลการปฏิบัติในการยุทธเวหาครั้งแรกที่นานกว่า ๒๐ นาที เหนือน่านฟ้าจังหวัดนครพนม ในวันนั้นเครื่องบินฝ่ายไทยปลอดภัย ฝ่ายตรงข้างเสียเครื่องบิน ๑ เครื่อง
- วันที่ ๘ ธันวาคม ๒๔๘๓ ไทยส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด คอร์แซร์ โดยมี ร.ท.ศานิต นวลมณี กับ ร.ต.เฉลิม ดำสัมฤทธิ์ ขึ้นบินจากฐานบินอุดรธานีไปโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝรั่งเศสที่เวียงจันทน์ ผลปรากฏว่า ฐานที่มั่นข้าศึกเสียหายยับเยิน แต่คอร์แซร์ของไทยเราก็ถูกปืนต่อสู้อากาศยานยิงอย่างหนักหน่วงปลายปีกเครื่องบินด้านซ้ายขาด แต่ก็ยังสามารถประคองเครื่องกลับมาถึงฐานบินอย่างได้สำเร็จและปลอดภัย
- วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ เวลา ๐๕๐๐ เครื่องบินฝรั่งเศส ๑ เครื่องได้บินเข้ามาทิ้งระเบิดที่จังหวัดอุดรธานีเป็นเหตุให้ราษฎรเสียชีวิต ๒ คน บาดเจ็บสาหัส ๑ คน และบาดเจ็บอีก ๕ คน เพื่อเป็นการตอบโต้และตอบแทนความโหดร้ายทารุณอย่างไม่สิ้นสุดของฝรั่งเศส ทหารบกใช้ปืนใหญ่ ปืนเล็ก และปืนกลยิงไปยังท่าแขก และกองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดครั้งใหญ่หลายแห่ง เวลา ๐๗.๕๐ กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบินฝูงใหญ่ ไปทำการโจมตีทิ้งระเบิดที่ตั้งทางทหารที่นครเวียงจันทน์อย่างหนัก ในการปฏิบัติการครั้งนี้เครื่องบิน คอร์แซร์ ซึ่งมี ร.ท.ศานิต นวลมณี เป็นนักบินและจ.อ.เฉลิม ดำสัมฤทธิ์ นักบินผู้ทำหน้าที่พลปืนหลัง
ได้ทำการโจมตีกองกำลังฝ่ายข้าศึกนั้นทหารฝ่ายข้าศึกซึ่งตั้งปืนกลต่อสู้อยู่บนถังน้ำปะปาริมแม่น้ำโขง ทำการยิงต่อสู้อย่างหนาแน่น กระสุนถูก จ.อ.เฉลิมฯ ที่ทำหน้าที่พลปืนหลังเสียชีวิต เครื่องบินถูกยิงถังน้ำมันที่ปีกทะลุไฟไหม้ ตัวนักบินถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าได้พยามนำเครื่องบินกลับฝั่งไทยและโดดร่มลงทั้งเครื่องบินและนักบินตกลงที่
อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
ร.ท.ศานิตฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารในกรุงเทพฯ
- จนกระทั่งถึงวันที่ ๒๓ ธันวาคมปีเดียวกัน ร.ท.ศานิตฯ ถึงแก่กรรม ยังความเศร้าใจให้แก่พี่น้องประชาชนคนไทยเป็นอันมาก ต่างกล่าวสรรเสริญถึงวีรกรรมอันห้าวหาญของ ร.ท.ศานิต นวลมณี และจ.อ.เฉลิม ดำสัมฤทธิ์ ไม่รู้ลืม
- นักบินทั้งสองได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญและพระราชทานยศเป็น น.ต.ศานิต นวลมณี และ ร.ต.เฉลิม ดำสัมฤทธิ์ ชื่อของ น.ต.ศานิต นวลมณี ได้รับการยกย่อง นำมาตั้งชื่อฝูงบินว่า "ฝูงบินศานิต" และฝูงบินนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี เป็นฝูงแรกที่ได้รับการประดับสายยงยศไหมสีเขียวประดับฝูงบิน
ปัจจุบันมีการสร้างศาล น.ต.ศานิต นวลมณี อยู่ภายในศูนย์ราชการหนองคาย บริเวณอาคารที่ว่าการอำเภอเมืองหนองคาย ซึ่งเดิมที่ดินตรงนี้ เป็นสนามบินหนองคาย และ กองทัพอากาศ โดยกองบิน 23 ได้จัดสร้าง รูปหล่อ น.ต.ศานิต นวลมณี และตั้งอยู่ในอาคารพิพิธภัณฑ์กองบิน 23 เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีและวีรกรรมของท่าน ที่ได้เสียสละชีวิต เพื่อปกป้องน่านฟ้าไทย สมดั่งคำกล่าวที่ว่า “น่านฟ้าไทย จะมิให้ใครย่ำยี”
❤️❤️ประวัติย่อ นาวาอากาศตรี ศานิต นวลมณี❤️❤️
เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2461 ณ ตำบลหมกแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เป็นบุตรของ นายสีดอน และนางบุญมี นวลมณี …… จบการศึกษาชั้นมัธยม จากโรงเรียนอุดรพิท
ประวัติการรับราชการ ……
ในปี 2481 รับราชการในตำแหน่ง สำรองราชการกรมเสนาธิการทหารอากาศ ซึ่งขณะ โรงเรียนการบินของกองทัพอากาศ สังกัด กรมเสนาธิการทหารอากาศ ได้รับพระราชทานยศ “เรืออากาศตรี” ……
ในปี 2483 เมื่อจบการศึกษาจากโรงเรียนการบินแล้ว ได้รับการบรรจุเข้าประจำการ ในตำแหน่ง ผู้บังคับหมวดบินที่ 1 กองบินน้อยผสมอุดรธานี ณ สนามบินหนองขอนกว้าง (ปัจจุบันคือ กองบิน 23) จังหวัดอุดรธานี (ซึ่งต่อมาเมื่อมีการจัดตั้ง “กองทัพอากาศสนาม” เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2483 มีการกำหนดชื่อหน่วยสนามที่สนามบินหนองขอนกว้าง จังหวัดอุดรธานี ว่า “กองบินน้อยผสมที่ 35 อุดร”
…23 ธันวาคม 2483 นาวาอากาศตรี ศานิต นวลมณี เสียชีวิตจากการได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติการบทางอากาศ ด้วยความกล้าหาญและเสียสละ ภายหลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทหารในพระนครสิริอายุรวม 23 ปี
ภายหลังการเสียชีวิต ฝูงบินอุดร ได้รับการยกย่องให้ใช้ชื่อว่า “ฝูงบินศานิต” และเป็นฝูงบินแรกของกองทัพอากาศไทย ที่ได้รับการประดับสายยงยศไหมสีเขียว
ภาพและเล่าเรื่องโดย……เรืออากาศตรี ธรรมวัฒน์ รัตนวิจารณ์ นายทหารกิจการพลเรือนและประชาสัมพันธ์ กองบิน 23 อุดรธานี
เมืองอุดร ธานี 131 ปี สร้างขึ้นเพื่อวางกำลัง ทหารไทย ไว้สู้กับฝรั่งเศส อีกจังหวัดที่มีอายุยาวนาน การรบทางอากาศครั้งแรก
มีการวางกำลัง เครื่องบินรบ จนเกิดการรบทางอากาศ
ครั้งแรก
รูปปั้น นาวาอากาศตรี ศานิต นวลมณี วีรบุรุษเวหาของกองทัพอากาศไทย สูง 3 เมตร ที่สวยงาม .....ที่ตั้งแสดงอยู่ใน "กองบิน 23" จังหวัดอุดรธานี
มือของท่านชี้ไปทางทิศ ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขง ของอำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย จุดที่เกิดการรบทางอากาศ .... เมื่อเดือนธันวาคม 2483 ในระหว่าง กรณีพิพาทระหว่างไทยกับอินโดจีนฝรั่งเศส.
..... นาวาอากาศตรี ศานิต นวลมณี เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2483 สิริอายุ 23 ปี อนุสาวรีย์ของท่าน ตั้งอยู่ภายใน กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี .....
🇹🇭❤️❤️วีรกรรมของ นาวาอากาศตรี ศานิต นวลมณี วีรบุรุษยุทธเวหา (นักบินชาวจังหวัดอุดรธานี)
สำหรับการรบทางอากาศหรือการทำยุทธเวหาครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย เกิดขึ้นในวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๓ กรณีพิพาทอินโดจีนหรือสงครามอินโดจีน เป็นการสู้รบระหว่างไทยและฝรั่งเศสเหนือน่านฟ้าจังหวัดนครพนม
- น.ต. ศานิต นวลมณี (นักบินชาวจังหวัดอุดรธานี) ผู้บังคับหมวดบินที่ ๑ ฝูงบินตรวจการณ์ที่ ๔๒ ของกองบินน้อยผสมจังหวัดอุดร ประจำการอยู่ที่สนามบินอุดรธานี (สมัยนั้นเรียก สนามบินหนองขอนกว้าง) ได้นำเครื่องบินโจมตีแบบคอร์แซร์ โดยมี จ.ท.ประยูร สุกุมลจันทร์ ทำหน้าที่พลปืนหลัง ขึ้นสกัดกั้นเครื่องบินของฝรั่งเศสที่บินล้ำน่านฟ้าเขตแดนไทยเข้ามาทางทิศใต้ของ จ.นครพนม เครื่องบินของฝรั่งเศษเป็นเครื่องบินขับไล่แบบ Morane 406 จำนวน ๕ เครื่อง และเครื่องบินลาดตระเวนแบบ Potez 25 จำนวน ๑ เครื่อง ซึ่งนักบินไทยได้เข้าทำการรบอย่างห้าวหาญ แบบ ๑ ต่อ ๕ สามารถยิงเครื่องบินขับไล่ของฝรั่งเศสตกได้ ๑ ลำ กระทั่งกระสุนหมด น.ต.ศานิต นวลมณี ได้พยายามนำเครื่องบินกลับเข้ามาในเขต จ.นครพนม โดยมีเครื่องบินข้าศึกไล่ตามอย่างกระชั้นชิด จากนั้นพันจ่าอากาศเอก ทองใบ พันธุ์สบาย และ จ่าอากาศเอก นาม พุ่มรุ่งเรือง ได้นำเครื่องบินขับไล่แบบ Hawk 3 เข้าทำการสกัดกั้น ฝูงบินของข้าศึกจึงถอยร่นออกไป ผลการปฏิบัติในการยุทธเวหาครั้งแรกที่นานกว่า ๒๐ นาที เหนือน่านฟ้าจังหวัดนครพนม ในวันนั้นเครื่องบินฝ่ายไทยปลอดภัย ฝ่ายตรงข้างเสียเครื่องบิน ๑ เครื่อง
- วันที่ ๘ ธันวาคม ๒๔๘๓ ไทยส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด คอร์แซร์ โดยมี ร.ท.ศานิต นวลมณี กับ ร.ต.เฉลิม ดำสัมฤทธิ์ ขึ้นบินจากฐานบินอุดรธานีไปโจมตีที่ตั้งทางทหารของฝรั่งเศสที่เวียงจันทน์ ผลปรากฏว่า ฐานที่มั่นข้าศึกเสียหายยับเยิน แต่คอร์แซร์ของไทยเราก็ถูกปืนต่อสู้อากาศยานยิงอย่างหนักหน่วงปลายปีกเครื่องบินด้านซ้ายขาด แต่ก็ยังสามารถประคองเครื่องกลับมาถึงฐานบินอย่างได้สำเร็จและปลอดภัย
- วันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๓ เวลา ๐๕๐๐ เครื่องบินฝรั่งเศส ๑ เครื่องได้บินเข้ามาทิ้งระเบิดที่จังหวัดอุดรธานีเป็นเหตุให้ราษฎรเสียชีวิต ๒ คน บาดเจ็บสาหัส ๑ คน และบาดเจ็บอีก ๕ คน เพื่อเป็นการตอบโต้และตอบแทนความโหดร้ายทารุณอย่างไม่สิ้นสุดของฝรั่งเศส ทหารบกใช้ปืนใหญ่ ปืนเล็ก และปืนกลยิงไปยังท่าแขก และกองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดครั้งใหญ่หลายแห่ง เวลา ๐๗.๕๐ กองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบินฝูงใหญ่ ไปทำการโจมตีทิ้งระเบิดที่ตั้งทางทหารที่นครเวียงจันทน์อย่างหนัก ในการปฏิบัติการครั้งนี้เครื่องบิน คอร์แซร์ ซึ่งมี ร.ท.ศานิต นวลมณี เป็นนักบินและจ.อ.เฉลิม ดำสัมฤทธิ์ นักบินผู้ทำหน้าที่พลปืนหลัง
ได้ทำการโจมตีกองกำลังฝ่ายข้าศึกนั้นทหารฝ่ายข้าศึกซึ่งตั้งปืนกลต่อสู้อยู่บนถังน้ำปะปาริมแม่น้ำโขง ทำการยิงต่อสู้อย่างหนาแน่น กระสุนถูก จ.อ.เฉลิมฯ ที่ทำหน้าที่พลปืนหลังเสียชีวิต เครื่องบินถูกยิงถังน้ำมันที่ปีกทะลุไฟไหม้ ตัวนักบินถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าได้พยามนำเครื่องบินกลับฝั่งไทยและโดดร่มลงทั้งเครื่องบินและนักบินตกลงที่
อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
ร.ท.ศานิตฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลทหารในกรุงเทพฯ
- จนกระทั่งถึงวันที่ ๒๓ ธันวาคมปีเดียวกัน ร.ท.ศานิตฯ ถึงแก่กรรม ยังความเศร้าใจให้แก่พี่น้องประชาชนคนไทยเป็นอันมาก ต่างกล่าวสรรเสริญถึงวีรกรรมอันห้าวหาญของ ร.ท.ศานิต นวลมณี และจ.อ.เฉลิม ดำสัมฤทธิ์ ไม่รู้ลืม
- นักบินทั้งสองได้รับพระราชทานเหรียญกล้าหาญและพระราชทานยศเป็น น.ต.ศานิต นวลมณี และ ร.ต.เฉลิม ดำสัมฤทธิ์ ชื่อของ น.ต.ศานิต นวลมณี ได้รับการยกย่อง นำมาตั้งชื่อฝูงบินว่า "ฝูงบินศานิต" และฝูงบินนี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี เป็นฝูงแรกที่ได้รับการประดับสายยงยศไหมสีเขียวประดับฝูงบิน
ปัจจุบันมีการสร้างศาล น.ต.ศานิต นวลมณี อยู่ภายในศูนย์ราชการหนองคาย บริเวณอาคารที่ว่าการอำเภอเมืองหนองคาย ซึ่งเดิมที่ดินตรงนี้ เป็นสนามบินหนองคาย และ กองทัพอากาศ โดยกองบิน 23 ได้จัดสร้าง รูปหล่อ น.ต.ศานิต นวลมณี และตั้งอยู่ในอาคารพิพิธภัณฑ์กองบิน 23 เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีและวีรกรรมของท่าน ที่ได้เสียสละชีวิต เพื่อปกป้องน่านฟ้าไทย สมดั่งคำกล่าวที่ว่า “น่านฟ้าไทย จะมิให้ใครย่ำยี”
❤️❤️ประวัติย่อ นาวาอากาศตรี ศานิต นวลมณี❤️❤️
เกิดเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2461 ณ ตำบลหมกแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี เป็นบุตรของ นายสีดอน และนางบุญมี นวลมณี …… จบการศึกษาชั้นมัธยม จากโรงเรียนอุดรพิท
ประวัติการรับราชการ ……
ในปี 2481 รับราชการในตำแหน่ง สำรองราชการกรมเสนาธิการทหารอากาศ ซึ่งขณะ โรงเรียนการบินของกองทัพอากาศ สังกัด กรมเสนาธิการทหารอากาศ ได้รับพระราชทานยศ “เรืออากาศตรี” ……
ในปี 2483 เมื่อจบการศึกษาจากโรงเรียนการบินแล้ว ได้รับการบรรจุเข้าประจำการ ในตำแหน่ง ผู้บังคับหมวดบินที่ 1 กองบินน้อยผสมอุดรธานี ณ สนามบินหนองขอนกว้าง (ปัจจุบันคือ กองบิน 23) จังหวัดอุดรธานี (ซึ่งต่อมาเมื่อมีการจัดตั้ง “กองทัพอากาศสนาม” เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2483 มีการกำหนดชื่อหน่วยสนามที่สนามบินหนองขอนกว้าง จังหวัดอุดรธานี ว่า “กองบินน้อยผสมที่ 35 อุดร”
…23 ธันวาคม 2483 นาวาอากาศตรี ศานิต นวลมณี เสียชีวิตจากการได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติการบทางอากาศ ด้วยความกล้าหาญและเสียสละ ภายหลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลทหารในพระนครสิริอายุรวม 23 ปี
ภายหลังการเสียชีวิต ฝูงบินอุดร ได้รับการยกย่องให้ใช้ชื่อว่า “ฝูงบินศานิต” และเป็นฝูงบินแรกของกองทัพอากาศไทย ที่ได้รับการประดับสายยงยศไหมสีเขียว
ภาพและเล่าเรื่องโดย……เรืออากาศตรี ธรรมวัฒน์ รัตนวิจารณ์ นายทหารกิจการพลเรือนและประชาสัมพันธ์ กองบิน 23 อุดรธานี