สวัสดีค่ะ เข้าเรื่องเลยละกัน ฉันทำพาสหายที่อินเดีย แพลนเที่ยวในครั้งนี้คือ มุมไบ3วันต่อด้วยเดลี4วัน แต่พาสฉันหายในวันที่ต้องบินจากมุมไบไปเดลี มีคนบอกว่ามาอินเดียให้ระวังกระเป๋าแต่ไม่ทันแล้ว ฉันแก่ปัญหาด้วยการโทรไปสอบถามสายการบินว่าฉันจะสามารถบินข้ามเมืองได้ไหม ฉันมีวีซ่า ไอดีการ์ดและสำเนาพาสเก่า สายการบินบอกได้ ฉันเลยเสี่ยงมาสนามบินเลย
สนามบิน
ฉันมาถึงสนามบินตอนตีสาม flight ตี5 แต่ จนท.สนามบินมันไม่ให้ฉันเข้า นึกภาพออกไหม ฉันต้องผ่านด่าน จนท.ก่อนถึงจะเข้าไปถึงเค้าเตอร์เช็คอินได้ ฮีบอกต้องไปออฟฟิศสายการบินที่ตั้งอยู่ข้างๆนั่น อ่ะฉันก็ไป สายการบินตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าพาสฉันหาย แต่ฉันบอกว่าฉันจะไปทำพาสใหม่ที่เดลี ฉันมีเอกสารครบ สายการบินเลยปริ้นตั๋วให้ฉันบอกว่าเอานี่ไปยื่น จนท.แล้วผ่านเข้าไปเช็คอินได้เลย ฉันก็เอาไปยื่น ฮีก็ยังยืนยันว่าไม่ให้เข้า ฉันบอกว่าฉันนั้นไปติดต่อสายการบินมาแล้ว แล้วเขาให้บินได้ ไม่เชื่ออีก ฉันต้องเดินไปหาสายการบินอีกรอบ แล้วสายการบินหงุดหงิด ไหน คนไหนไม่ให้เขา ตามนางมา😅
ฮีกับชีเถียงกันเป็นภาษาอังกฤษจับใจความได้ว่า มันต้องมีใบแจ้งความจากตำรวจมาด้วยถึงจะให้เข้า ชีก็เถียงๆๆ สักพัก สายการบินพ่ายแพ้ นางทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ จนท.แล้วบอกฉันว่า เธอรีบไปสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดนะ แล้วฉันจะรอทำเรื่องให้เธอเอง เอ๊ะหรือจะเอาWhatsApp ฉันไปดี เอ๊ะไม่ดีกว่า นางก็ถามเองตอบเอง เอางี้นะถ้าไม่ทันให้เลื่อนเป็นไฟล์ทนี้ๆ เพิ่มเงินนิดหน่อย ฉันก็รีบวิ่งออกไปหาแท็กซี่ คนโบกรถก็ถามจะไปไหนๆ ฉันบอกจะไปสถานีตำรวจ ก็พากันทำหน้าตกใจ ตกใจทำไม ฉันแค่พาสหาย แล้วสายการบินต้องการใบแจ้งความแค่นั้น เอ้าเดินไปสิ คนโบกรถบอกเดินไป10ก้าว อ้าวแล้วก็ไม่มีใครบอกฉันนะสองคนนั้น เดือดร้อนคนโบกรถต้องพาไปอีก เห้อ.....
สถานีตำรวจ airport police
ตำรวจห้านายในนั้น ก็ทรงง่วงๆ ก็ตี3อ่าเนาะ ยังมาแจ้งความพาสปอร์ตหายอีก ตำรวจนายที่1 เรียกฉันไปคุยด้วยท่าทีเคร่งขรึม จนฉันเกร็ง บอกฉันว่า เล่ามา หายที่ไหน อะไร ยังไง ฉันก็สาธยายไป ฮีฟังแบบขอไปที สักพัก ตำรวจคนที่2มา คนนี้ดีหน่อย ดูมีอารมณ์ร่วมในการสื่อสาร นี่คนเมื่อกี้เหมือนฉันมานั่งบรรยายวิชาการแล้วคนฟังจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ คนที่สองบอก โอเค จัดการให้เลย ก็หยิบเอกสารมาสัมภาษณ์ กรอกๆๆ คนที่สามสี่มาสมทบ ครบทีมละ ทีมสัมภาษณ์ ทีมทำเอกสาร แต่อินเดียอ่าเนาะมันก็จะสโลว์ไลฟ์สักหน่อย คือฉันไม่รีบ แต่ตำรวจนายหนึ่งเหลือบไปเห็นตั๋วที่ฉันปริ้นมาละอุทานขึ้นมาว่า เอ้า จะตกเครื่องอยู่แล้ว แล้วเหมือนใครมาเปิดสวิตซ์เร่งเครื่อง ทุกคนทำงานกันไวมาก รีบโทรศัพท์หาสายการบิน โทรหาโรงแรมที่ฉันพักเมื่อคืน ไหนจะโทรเช็ควีซ่าอีก แล้วรีบพิมพ์เอกสารด้วยความไวแสง คือฉันก็บอกว่า ไม่ต้องรีบ ถ้าไม่ทัน ฉันก็เลื่อนไฟท์ได้ เพราะเอาจริงมันไม่น่าจะทันหรอก นี่มันboarding time แล้ว แต่ตำรวจบอกว่า ไม่ได้ we have to try โอเค ขอบคุณนะคะ ทำไปทำมา ถามฉัน กินกาแฟก่อนไหม หรือจะกินข้าว หรือจะล้างหน้าแปรงฟันรอ ขอบคุณอีกทีนะคะ แต่ฮัลโหล ฉันไม่ต้องการอะไรจริงๆ😓 คนพิมพ์ก็พิมพ์ไป คนถามก็ถามไป ในระหว่างรอพิมพ์เอกสารคนถามหมดคำถามแล้วก็ถามไปเรื่อยเปื่อย ทำงานอะไรที่ไทย จบที่ไหนมา ฉันก็บอกฉันเนี้ยทำงานด้านการแพทย์นี่แหละ แต่ฉันเบื่องานเลยลาออกมาท่องเที่ยว ฮีบอกเหมือนลูกชายฉันเลย เลยได้เปิดรูปลูกให้ดูอีก ฉันก็เปิดรูปฉันไปเทียวนั่น นี่ ออกทะเลอีกละเรื่องที่คุย ตำรวจอีกนายต้องดึงสติ เขาจะตกเครื่องละโอเค เอกสารเสร็จละ เธอเอานี่ไปยื่นสายการบินนะ เดี๋ยวตำรวจจะพาไปเอง เอ้า ฉันก็วิ่งตามตำรวจไปอีก
มาถึงตรงทางเข้าไปเช็คอิน ตำรวจบอกส่งแค่นี้นะ ฉันเข้าไปไม่ได้ แล้วบ๊ายบายหายไปเลย ฉันขอบคุณ แต่ลืมไปว่า นี่ฉันผ่านเข้ามาเค้าเตอร์เช็คอินแล้ว แต่เค้าเตอร์มันปิด ฉันก็วิ่งไปถามground บอกไม่ทันแล้ว คุณต้องเลื่อนไฟท์ แล้วค่าเลื่อนไฟท์14,000 รูปี ฟังไม่ผิด ส่วนตั๋วใหม่นั้น6,000 รูปี ฉันเลยตัดสินใจกดจองตั๋วใหม่ในแอฟ แต่มันให้ไปเช็คอินที่เทอมินอล2ซึ่งตอนนั้นฉันอยู่ที่เทอมินอล1 แล้วปัญหาคือ จนท.สนามบินเดิมๆนั่นแหละ มันไม่ให้ฉันออก มันบอกเข้ามาแล้วออกไม่ได้ นอกจากจะบินออก แล้วตั๋วใหม่ฉันต้องไปเทอ2อ่ะ สายการบินหงุดหงิดใส่ จนท.สนามบินอีกละก็เลยไปปริ้นบอร์ดดิ้งพาสให้ฉันซ่ะเลย แล้วบอกตามนางมา คือมันต้องมีเจ้าหน้าที่ใครสักคนเซ็นรับรองให้อ่ะถึงจะออกได้ อ่ะ เดี๋ยวนางเซ็นให้ นี่ฉันรักสายการบินนี้มาก เขาช่วยฉันสุดความสามารถทุกคน พอออกมาได้ ฉันก็วิ่งไปหาแท็กซี่ คือเทอ1กับเทอ2อ่ะ ห่างไกลกันมาก นึกว่าอยู่คนละอำเภอ แล้วคนโบกแท็กซี่ก็บอกให้ฉันไปขึ้นรถบัสที่รับส่งไปเทอ2 ไม่ต้องเรียกแท็กซี่หรอก แต่เหมือนมันต้องมีตั๋วหรือบัตรโดยสารอะไรสักอย่าง แต่ฉันไม่มี ยื่นบอร์ดิ้งพาสให้แล้ว มันก็ยังบอกไม่ใช่ แล้วเขาก็ซุบซิบๆกัน แล้วบอกว่า ไปๆ รีบขึ้น ไม่ต้องมีละบัตร อ้าวขอบคุณนะคะ
เดินทางสู่เดลี
เดี๋ยวมาต่อนะคะ เรื่องราวมากมายจริงๆ
เมือฉันทำพาสปอร์ตหายที่อินเดีย วุ่นวายสุดๆ กรุณาอย่าทำหายที่นี่เด็ดขาด
สนามบิน
ฉันมาถึงสนามบินตอนตีสาม flight ตี5 แต่ จนท.สนามบินมันไม่ให้ฉันเข้า นึกภาพออกไหม ฉันต้องผ่านด่าน จนท.ก่อนถึงจะเข้าไปถึงเค้าเตอร์เช็คอินได้ ฮีบอกต้องไปออฟฟิศสายการบินที่ตั้งอยู่ข้างๆนั่น อ่ะฉันก็ไป สายการบินตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าพาสฉันหาย แต่ฉันบอกว่าฉันจะไปทำพาสใหม่ที่เดลี ฉันมีเอกสารครบ สายการบินเลยปริ้นตั๋วให้ฉันบอกว่าเอานี่ไปยื่น จนท.แล้วผ่านเข้าไปเช็คอินได้เลย ฉันก็เอาไปยื่น ฮีก็ยังยืนยันว่าไม่ให้เข้า ฉันบอกว่าฉันนั้นไปติดต่อสายการบินมาแล้ว แล้วเขาให้บินได้ ไม่เชื่ออีก ฉันต้องเดินไปหาสายการบินอีกรอบ แล้วสายการบินหงุดหงิด ไหน คนไหนไม่ให้เขา ตามนางมา😅
ฮีกับชีเถียงกันเป็นภาษาอังกฤษจับใจความได้ว่า มันต้องมีใบแจ้งความจากตำรวจมาด้วยถึงจะให้เข้า ชีก็เถียงๆๆ สักพัก สายการบินพ่ายแพ้ นางทำหน้าเบื่อหน่ายใส่ จนท.แล้วบอกฉันว่า เธอรีบไปสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดนะ แล้วฉันจะรอทำเรื่องให้เธอเอง เอ๊ะหรือจะเอาWhatsApp ฉันไปดี เอ๊ะไม่ดีกว่า นางก็ถามเองตอบเอง เอางี้นะถ้าไม่ทันให้เลื่อนเป็นไฟล์ทนี้ๆ เพิ่มเงินนิดหน่อย ฉันก็รีบวิ่งออกไปหาแท็กซี่ คนโบกรถก็ถามจะไปไหนๆ ฉันบอกจะไปสถานีตำรวจ ก็พากันทำหน้าตกใจ ตกใจทำไม ฉันแค่พาสหาย แล้วสายการบินต้องการใบแจ้งความแค่นั้น เอ้าเดินไปสิ คนโบกรถบอกเดินไป10ก้าว อ้าวแล้วก็ไม่มีใครบอกฉันนะสองคนนั้น เดือดร้อนคนโบกรถต้องพาไปอีก เห้อ.....
สถานีตำรวจ airport police
ตำรวจห้านายในนั้น ก็ทรงง่วงๆ ก็ตี3อ่าเนาะ ยังมาแจ้งความพาสปอร์ตหายอีก ตำรวจนายที่1 เรียกฉันไปคุยด้วยท่าทีเคร่งขรึม จนฉันเกร็ง บอกฉันว่า เล่ามา หายที่ไหน อะไร ยังไง ฉันก็สาธยายไป ฮีฟังแบบขอไปที สักพัก ตำรวจคนที่2มา คนนี้ดีหน่อย ดูมีอารมณ์ร่วมในการสื่อสาร นี่คนเมื่อกี้เหมือนฉันมานั่งบรรยายวิชาการแล้วคนฟังจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ คนที่สองบอก โอเค จัดการให้เลย ก็หยิบเอกสารมาสัมภาษณ์ กรอกๆๆ คนที่สามสี่มาสมทบ ครบทีมละ ทีมสัมภาษณ์ ทีมทำเอกสาร แต่อินเดียอ่าเนาะมันก็จะสโลว์ไลฟ์สักหน่อย คือฉันไม่รีบ แต่ตำรวจนายหนึ่งเหลือบไปเห็นตั๋วที่ฉันปริ้นมาละอุทานขึ้นมาว่า เอ้า จะตกเครื่องอยู่แล้ว แล้วเหมือนใครมาเปิดสวิตซ์เร่งเครื่อง ทุกคนทำงานกันไวมาก รีบโทรศัพท์หาสายการบิน โทรหาโรงแรมที่ฉันพักเมื่อคืน ไหนจะโทรเช็ควีซ่าอีก แล้วรีบพิมพ์เอกสารด้วยความไวแสง คือฉันก็บอกว่า ไม่ต้องรีบ ถ้าไม่ทัน ฉันก็เลื่อนไฟท์ได้ เพราะเอาจริงมันไม่น่าจะทันหรอก นี่มันboarding time แล้ว แต่ตำรวจบอกว่า ไม่ได้ we have to try โอเค ขอบคุณนะคะ ทำไปทำมา ถามฉัน กินกาแฟก่อนไหม หรือจะกินข้าว หรือจะล้างหน้าแปรงฟันรอ ขอบคุณอีกทีนะคะ แต่ฮัลโหล ฉันไม่ต้องการอะไรจริงๆ😓 คนพิมพ์ก็พิมพ์ไป คนถามก็ถามไป ในระหว่างรอพิมพ์เอกสารคนถามหมดคำถามแล้วก็ถามไปเรื่อยเปื่อย ทำงานอะไรที่ไทย จบที่ไหนมา ฉันก็บอกฉันเนี้ยทำงานด้านการแพทย์นี่แหละ แต่ฉันเบื่องานเลยลาออกมาท่องเที่ยว ฮีบอกเหมือนลูกชายฉันเลย เลยได้เปิดรูปลูกให้ดูอีก ฉันก็เปิดรูปฉันไปเทียวนั่น นี่ ออกทะเลอีกละเรื่องที่คุย ตำรวจอีกนายต้องดึงสติ เขาจะตกเครื่องละโอเค เอกสารเสร็จละ เธอเอานี่ไปยื่นสายการบินนะ เดี๋ยวตำรวจจะพาไปเอง เอ้า ฉันก็วิ่งตามตำรวจไปอีก
มาถึงตรงทางเข้าไปเช็คอิน ตำรวจบอกส่งแค่นี้นะ ฉันเข้าไปไม่ได้ แล้วบ๊ายบายหายไปเลย ฉันขอบคุณ แต่ลืมไปว่า นี่ฉันผ่านเข้ามาเค้าเตอร์เช็คอินแล้ว แต่เค้าเตอร์มันปิด ฉันก็วิ่งไปถามground บอกไม่ทันแล้ว คุณต้องเลื่อนไฟท์ แล้วค่าเลื่อนไฟท์14,000 รูปี ฟังไม่ผิด ส่วนตั๋วใหม่นั้น6,000 รูปี ฉันเลยตัดสินใจกดจองตั๋วใหม่ในแอฟ แต่มันให้ไปเช็คอินที่เทอมินอล2ซึ่งตอนนั้นฉันอยู่ที่เทอมินอล1 แล้วปัญหาคือ จนท.สนามบินเดิมๆนั่นแหละ มันไม่ให้ฉันออก มันบอกเข้ามาแล้วออกไม่ได้ นอกจากจะบินออก แล้วตั๋วใหม่ฉันต้องไปเทอ2อ่ะ สายการบินหงุดหงิดใส่ จนท.สนามบินอีกละก็เลยไปปริ้นบอร์ดดิ้งพาสให้ฉันซ่ะเลย แล้วบอกตามนางมา คือมันต้องมีเจ้าหน้าที่ใครสักคนเซ็นรับรองให้อ่ะถึงจะออกได้ อ่ะ เดี๋ยวนางเซ็นให้ นี่ฉันรักสายการบินนี้มาก เขาช่วยฉันสุดความสามารถทุกคน พอออกมาได้ ฉันก็วิ่งไปหาแท็กซี่ คือเทอ1กับเทอ2อ่ะ ห่างไกลกันมาก นึกว่าอยู่คนละอำเภอ แล้วคนโบกแท็กซี่ก็บอกให้ฉันไปขึ้นรถบัสที่รับส่งไปเทอ2 ไม่ต้องเรียกแท็กซี่หรอก แต่เหมือนมันต้องมีตั๋วหรือบัตรโดยสารอะไรสักอย่าง แต่ฉันไม่มี ยื่นบอร์ดิ้งพาสให้แล้ว มันก็ยังบอกไม่ใช่ แล้วเขาก็ซุบซิบๆกัน แล้วบอกว่า ไปๆ รีบขึ้น ไม่ต้องมีละบัตร อ้าวขอบคุณนะคะ
เดินทางสู่เดลี
เดี๋ยวมาต่อนะคะ เรื่องราวมากมายจริงๆ