คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ก่อนอื่นขอเป็นกำลังใจให้ จขกท. นะคะ อย่าเครียดนะคะ มีผลต่อน้องค่ะ
ขออนุญาต แสดงความเห็นส่วนตัวนะคะ ไว้ลองพิจารณาดูค่ะ ในฐานะเจ้าของธุรกิจ และฐานะคุณแม่คนหนึ่งค่ะ แต่จะแนะนำให้เป็นข้อมูลค่ะ
อันดับแรกเห็นด้วยกับความเห็นข้างต้นนะคะ ว่าอย่าเพิ่งแจ้งบริษัทค่ะ เพราะในฐานะบริษัทเราอยากได้คนที่พร้อมทำงาน ส่วนใหญ่ถ้าโสดนี่เป้าหมายเลยค่ะ เพราะไม่มีภาระ สามารถทำงานได้เต็มที่ ซึ่ง HR จะทราบข้อมูลเหล่านี้ดีค่ะ จะเลือกเป็นอันดับแรก ๆ ค่ะ ถ้ามีบุตร (ลูกอ่อน-วัยเรียน) ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอยากรับเพราะปัญหาเยอะเรื่องลูก เช่น เจ็บป่วย กิจกรรมโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งการลามีผลต่อเงินเดือนและการเลื่อนขั้น แต่แนะนำให้ปิดไปก่อน อย่าได้เอ่ยปากบอกเพื่อนร่วมงานเด็ดขาดนะคะ เพราะไม่มีความลับในที่ทำงาน ที่ดิฉันทราบข้อมูลต่าง ๆ ก็มาจากพนักงานมารายงานทั้งเป็นทางการ และแอบบอกค่ะ ทำไปสัก 1-3 เดือน ให้ผ่านทดลองงานแล้วถ้าเห็นครรภ์ค่อยบอกค่ะ เพราะบริษัทจะไม่ไล่ออกค่ะ ลาคลอดได้ ทั้งยังได้เงินเดือนด้วย ยื่นเรื่องต่าง ๆ ทางประกันสังคมได้ปกติค่ะ
ในฐานะแม่ การมีลูกเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ๆ ค่ะ ทานนมสำหรับคุณแม่เยอะ ๆ นะคะ ธาตุเหล็กอย่าได้ขาด เปิดเพลงบรรเลงให้น้องฟังด้วยนะคะ อาจจะใช้หูฟังแตะที่ครรภ์ หรือเปิดคลอ ๆ เป็นเวลาทำนู่น นี่นั่นค่ะ อย่าเครียดนะคะ พยายามทำให้ตัวเองอารมณ์ดีอยู่เสมอ ๆ นะคะ สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขออนุญาต แสดงความเห็นส่วนตัวนะคะ ไว้ลองพิจารณาดูค่ะ ในฐานะเจ้าของธุรกิจ และฐานะคุณแม่คนหนึ่งค่ะ แต่จะแนะนำให้เป็นข้อมูลค่ะ
อันดับแรกเห็นด้วยกับความเห็นข้างต้นนะคะ ว่าอย่าเพิ่งแจ้งบริษัทค่ะ เพราะในฐานะบริษัทเราอยากได้คนที่พร้อมทำงาน ส่วนใหญ่ถ้าโสดนี่เป้าหมายเลยค่ะ เพราะไม่มีภาระ สามารถทำงานได้เต็มที่ ซึ่ง HR จะทราบข้อมูลเหล่านี้ดีค่ะ จะเลือกเป็นอันดับแรก ๆ ค่ะ ถ้ามีบุตร (ลูกอ่อน-วัยเรียน) ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอยากรับเพราะปัญหาเยอะเรื่องลูก เช่น เจ็บป่วย กิจกรรมโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งการลามีผลต่อเงินเดือนและการเลื่อนขั้น แต่แนะนำให้ปิดไปก่อน อย่าได้เอ่ยปากบอกเพื่อนร่วมงานเด็ดขาดนะคะ เพราะไม่มีความลับในที่ทำงาน ที่ดิฉันทราบข้อมูลต่าง ๆ ก็มาจากพนักงานมารายงานทั้งเป็นทางการ และแอบบอกค่ะ ทำไปสัก 1-3 เดือน ให้ผ่านทดลองงานแล้วถ้าเห็นครรภ์ค่อยบอกค่ะ เพราะบริษัทจะไม่ไล่ออกค่ะ ลาคลอดได้ ทั้งยังได้เงินเดือนด้วย ยื่นเรื่องต่าง ๆ ทางประกันสังคมได้ปกติค่ะ
ในฐานะแม่ การมีลูกเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ๆ ค่ะ ทานนมสำหรับคุณแม่เยอะ ๆ นะคะ ธาตุเหล็กอย่าได้ขาด เปิดเพลงบรรเลงให้น้องฟังด้วยนะคะ อาจจะใช้หูฟังแตะที่ครรภ์ หรือเปิดคลอ ๆ เป็นเวลาทำนู่น นี่นั่นค่ะ อย่าเครียดนะคะ พยายามทำให้ตัวเองอารมณ์ดีอยู่เสมอ ๆ นะคะ สู้ๆ ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ท้องตอนกำลังจะเริ่มงานใหม่ ควรบอกบริษัทดีไหม ?
ในระหว่างทางที่ออกจากงานก็ได้งานใหม่ทันทีที่บริษัทใหญ่แถวสีลมลักษณะงานของเราคือออกแบบซอฟต์แวร์ Application มือถือ
เป็นงานฝั่ง IT ที่สามารถ Work from home ได้ตลอดเวลา อาจจะมีเข้าออฟฟิศบ้างเวลามีประชุมมากสุดก็ 1 ครั้งต่อสัปดาห์หรือไม่เข้าเลย
สาเหตุของการตั้งกระทู้อยู่ตรงนี้ค่ะ
ตอนที่เราสัมภาษณ์งานใหม่ผ่าน เราได้ใบส่งตัวไปตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงาน ประมาณวันที่ 20 ธันวาคม (คาบเกี่ยวช่วงเวลาที่งานเก่า เพราะเราหางานใหม่ไปเรื่อยๆตอนที่ยังทำงานอยู่) ผลตรวจสุขภาพออกมาปกติดีทุกอย่างไม่มีอะไร ทางบริษัทจึงเรียกเซ็นสัญญาเริ่มงาน ต้นเดือนกุมภา 67
เราก็ไปเซ็นสัญญาในวันที่ 10 มกราคมตามนนัดหมาย และตั้ง Probation ที่ 4 เดือน คือไปจบที่ สิ้นพ.ค.
หลังจากเสร็จธุระตามเนื้อหาด้านบน เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าประจำเดือนไม่มาแฮะด้วยความยุ่งช่วงลาออก เปลี่ยนงานและเครียด จึงลืมไปเลยค่ะแต่พอนึกได้ก็ตรวจทันที เพราะตั้งใจทำมาตลอดหวังว่าคงท้องสักวัน ผลออกมาคือท้องค่ะ เรากับสามีดีใจมากเพราะรอมา 3 ปีแล้วอยากจะมีมากๆ นับอายุครรภ์จากประจำเดือนล่าสุดก็ 6 สัปดาห์แล้ว พอดีใจได้ไม่นานเราก็นึกขึ้นได้ว่า เอ่อ ! เราเพิ่งได้งานใหม่นี่หน่า น้องมาผิดจังหวะหรือเปล่า แต่น้องก็มาแล้ว เราคงปล่อยน้องไปไม่ได้เพราะเราเองก็อายุ 31 แล้ว
อาการตอนนี้ไม่มีแพ้ท้องมากมายอะไร ออกกำลังกาย ทำทุกอย่างได้ปกติ สมองแล่นออกแบบงานได้ดีตามปกติ แต่ช่วง 7-9 เดือนคงแผ่วลงนิดหน่อย (คาดไว้) ไปหาหมอวันอาทิตย์เอกชนนอกเวลางาน ไม่รบกวนวันลาบริษัท (ซึ่งฝากครรภ์แล้ว)
ความกลัวและกังวลหลักๆเลยคือ "ถ้าบอกที่ทำงาน จะโดนไล่ออกไหม คนตั้งครรภ์จะถือว่าร่างกายไม่พร้อมทำงานหรือเปล่า แล้วถ้าต้องลาคลอดเดือนกันยา (ตั้งไว้ว่าลาแค่ 2-3 อาทิตย์เพราะทำงานที่บ้านได้เลย สามีก็ Work from home แต่เริ่มงานเที่ยง เพราะทำงานข้ามทวีปสามีเป็นต่างชาติสายงานเดียวกันกับเรา สามีเลยจะเลี้ยงลูกให้ เรามีหน้าที่แค่ปั้มนม ว่างแล้วค่อยมาดูลูก สลับกัน) แต่บริษัทจะมีปัญหาอะไรกับการลาคลอดไหมเพราะอายุงานไม่ครบปี
ก็เลยเกิดปัญหาในความคิดขึ้นมาตามนี้ค่ะ
1. ไม่ต้องไปเริ่มงานใหม่ ยกเลิกสัญญาเลยดีไหม เตรียมตัวเป็นคุณแม่แล้วค่อยกลับไปทำงาน
แต่รายได้จะเหลือแค่ของสามี ซึ่งเราเสียดายเงินเดือนเรามากสามารถเอาเงินมาดูแลลูกได้อีกไกล
ค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นแต่รายรับน้อยลง และเสียดายเครดิตโปรไฟล์งานบริษัทด้วย
2. ทำงานไปตามปกติ แสดงความสามารถให้เต็มที่ ให้เขาเห็นคุณค่าเราอย่าให้ใครรู้จนกว่าจะผ่านโปร ถ้าผ่านแล้วคงต่อลองอะไรได้บ้าง แต่ระหว่าทางไม่รู้เลยจะเป็นอย่างไรหรืออาจจะโดนไล่ออกตอนลาคลอดหรือเปล่า หรือจะโดนไล่ออกตอนเดินไปบอกว่าท้องค่ะช่วงยังไม่ผ่านโปรท้องจะเริ่มออกเดือนที่ 5 คือ พ.ค. (ท้องแรก) ท้องจะใหญ่มากไหม
บริษัทจะเมตตาและเข้าใจหรือเปล่า แน่นอนแหละค่ะ บริษัทไล่เราออกด้วยเหตุตั้งครรภ์ไม่ได้
แต่ก็สร้างเหตุผลอื่นขึ้นมาได้อยู่ดี คิดไปสารพัดจะว่าเราบ้าก็ได้ค่ะ
3. ทำงานไปจนคลอด ผ่านโปรแล้วบอกที่ทำงาน พอถึงเดือนกันยาแล้วลาออกมาเลี้ยงลูก สะดวกเมื่อไหร่แล้วกลับไปหางานทำใหม่ ใช่เงินเก็บไปก่อนสักระยะ
ส่วนคุณสามีบอกแล้วแต่เราเลย เขาเชื่อในการตัดสินใจของเรา ทางไหนก็โอเคหมด (ยิ่งทำให้ยากขึ้นไปอีก)
รบกวนขอแนวทางเพิ่มเติม หรือทางออกที่มีปัญหาน้อยที่สุดจากทุกๆคนหน่อยค่ะ แม่ท้องอ่อนหัวปวดมากตอนนี้
.
.
.
ขอความกรุณาเพื่อนๆพันทิปไว้ตรงนี้
1. อย่าตำหนิเราว่าไม่พร้อมมีลูก เพราะเราและสามีพร้อมค่ะ เพียงแต่จังหวะมันผิดไปนิด ทุกอย่างเลยยากหน่อย
2. เราอายุ 31 แล้ว มีลูกตามธรรมชาตินี่ไม่ง่ายแล้วค่ะ ไม่มีตอนนี้ ไม่กี่ปีคงต้องเจาะน้ำคร่ำ
3. ตอนนี้วิตกกังวล วิตกจริตมากค่ะ หากสิ่งที่เขียนทำให้ใครไม่เข้าใจ ไม่พอใจ ให้อดทนไว้นะคะ อย่าด่าเราเลยค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ