คืนวันก่อน น่าจะสัก 2 - 3 ทุ่ม ได้ยินเสียงเรียกจากหน้าบ้าน หนูๆๆๆ กัมบอลอยู่บ้านหรือเปล่าลูก เสียงใครมาเรียกหว่า มองฝ่าความมืด
ออกไปหน้าบ้านก็ไม่รู้ว่าใคร เดินออกไปดู อ้าวแม่ของเพื่อนรุ่นพี่ บอกว่าเอาหัวหมูมาให้ เพื่อหนูจะทำอะไรกิน หนูแปรรูปของกินเก่ง
แล้วเขาก็วิ่งหนีไป หนูไม่ยอมๆๆๆ ไม่ใช่แหละ แล้วคุณป้าก็ขึ้นรถไปเลย ไม่ทันได้คุยอะไร นอกจากยกมือไหว้ขอบคุณท่าน
เตรียมตัวจะนอนแล้ว เลยจับหัวหมูเข้าตู้เย็นไปก่อน แล้วค่อยว่ากัน
วันต่อมาเอาหัวหมู ออกมาจากตู้เย็น แล้วก็จ้องมองกัน ยังไงดีแหละเนี่ย ไม่เคยเห็นหัวหมู ระยะประชิดขนาดนี้เลย อย่างดีก็แค่ซื้อหูหมูย่าง
หูหมูพะโล้ให้น้องกิน ไอ้ตัวนั่นมันชอบกิน
คิดๆๆๆ ซิ กัมบอลทำอะไรดี ต้องงัดสกิล เนตรนารีออกมา + ที่ชอบไปเป็นชาวค่าย และตั้งแคมป์บ่อยๆ ที่นี้ในเมืองนะ หาวัตถุดิบง่าย
กว่านะ ไม่ใช่ในป่าสักหน่อย มาดูค่ะ กัมบอลจัดการหัวหมูแต่ละส่วน ได้เมนูออกมาหลายอย่างเลย
ขั้นตอนแรกชำแหละกันก่อน แยกหูหมู หูแรกเอามาหั่น โยนเข้าเตาอบได้หูหมู ให้น้องเอาไปกินกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด
หูที่ 2 เอามาต้มพะโล้ รวมกับลิ้นหมู
พะโล้หม้อนี้กินกับข้าว และเอาลวกบะหมี่ รวมทั้งใส่มาม่ารสเป็ดพะโล้ อุ่นกินได้หลายมื้ออยู่ค่ะ
ในส่วนที่เป็นมันแข็ง ก็เอามาเจียวได้น้ำมันหมู 1 หม้อเล็กๆ เก็บน้ำมันไว้ทำกับข้าว
หลังจากเจียวน้ำมันหมูแล้ว ก็ได้แคปหมูหูหมู 1 จานค่ะ เอาไว้กินเล่น แต่จานนี้เอามากินคู่กับวันที่ต้มมาม่าใส่น้ำพะโล้นั่นแหละค่ะ
ส่วนเศษหมูที่แคะออกมาจากจุดต่างๆของหัวหมู เอาไปทอดก่อนค่ะ เพราะมันเป็นเศษๆ
แคะออกมาได้เยอะอยู่เลยแบ่งเป็น 2 ส่วน เอาไปใส่ต้มแซ่บ ไม่ทันได้ถ่ายรูป รีบเดี๋ยวไปทำงานไม่ทัน
อีกส่วน เอามาผัดกะเพรา
สรุปว่าหัวหมู 1 หัว ได้มาหลายเมนูเลยค่ะ เกือบๆ 8 เมนู ใช้ให้คุ้มไม่เหลืออะไรเลย กระดูกเอาไปให้น้องหมาจรแทะเล่น
แล้วค่อยไปตามเก็บซากตอนเย็น
แบ่งพะโล้ไปให้เพื่อน ลูกของคุณป้าที่เอาหัวหมูมาให้ คุณป้าไลน์มาบอกว่า ว่าแล้วหนูต้องทำได้ ป้าเอามาให้ถูกคน
ความจริงคือ
เป็นการทำอาหารที่เหมือนได้โจทย์มา แล้วจัดการให้สำเร็จ ตอนแรกก็กลัวๆหัวหมู แต่พอทำๆไปแล้วสนุกดีค่ะ
มีผู้ใหญ่ใจดี ให้หัวหมูมา หลังจากจ้องตากันสักพัก มาดูกันว่า หัวหมู 1 หัว ทำอะไรได้มั่ง
ออกไปหน้าบ้านก็ไม่รู้ว่าใคร เดินออกไปดู อ้าวแม่ของเพื่อนรุ่นพี่ บอกว่าเอาหัวหมูมาให้ เพื่อหนูจะทำอะไรกิน หนูแปรรูปของกินเก่ง
แล้วเขาก็วิ่งหนีไป หนูไม่ยอมๆๆๆ ไม่ใช่แหละ แล้วคุณป้าก็ขึ้นรถไปเลย ไม่ทันได้คุยอะไร นอกจากยกมือไหว้ขอบคุณท่าน
เตรียมตัวจะนอนแล้ว เลยจับหัวหมูเข้าตู้เย็นไปก่อน แล้วค่อยว่ากัน
วันต่อมาเอาหัวหมู ออกมาจากตู้เย็น แล้วก็จ้องมองกัน ยังไงดีแหละเนี่ย ไม่เคยเห็นหัวหมู ระยะประชิดขนาดนี้เลย อย่างดีก็แค่ซื้อหูหมูย่าง
หูหมูพะโล้ให้น้องกิน ไอ้ตัวนั่นมันชอบกิน
คิดๆๆๆ ซิ กัมบอลทำอะไรดี ต้องงัดสกิล เนตรนารีออกมา + ที่ชอบไปเป็นชาวค่าย และตั้งแคมป์บ่อยๆ ที่นี้ในเมืองนะ หาวัตถุดิบง่าย
กว่านะ ไม่ใช่ในป่าสักหน่อย มาดูค่ะ กัมบอลจัดการหัวหมูแต่ละส่วน ได้เมนูออกมาหลายอย่างเลย
ขั้นตอนแรกชำแหละกันก่อน แยกหูหมู หูแรกเอามาหั่น โยนเข้าเตาอบได้หูหมู ให้น้องเอาไปกินกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด
หูที่ 2 เอามาต้มพะโล้ รวมกับลิ้นหมู
พะโล้หม้อนี้กินกับข้าว และเอาลวกบะหมี่ รวมทั้งใส่มาม่ารสเป็ดพะโล้ อุ่นกินได้หลายมื้ออยู่ค่ะ
ในส่วนที่เป็นมันแข็ง ก็เอามาเจียวได้น้ำมันหมู 1 หม้อเล็กๆ เก็บน้ำมันไว้ทำกับข้าว
หลังจากเจียวน้ำมันหมูแล้ว ก็ได้แคปหมูหูหมู 1 จานค่ะ เอาไว้กินเล่น แต่จานนี้เอามากินคู่กับวันที่ต้มมาม่าใส่น้ำพะโล้นั่นแหละค่ะ
ส่วนเศษหมูที่แคะออกมาจากจุดต่างๆของหัวหมู เอาไปทอดก่อนค่ะ เพราะมันเป็นเศษๆ
แคะออกมาได้เยอะอยู่เลยแบ่งเป็น 2 ส่วน เอาไปใส่ต้มแซ่บ ไม่ทันได้ถ่ายรูป รีบเดี๋ยวไปทำงานไม่ทัน
อีกส่วน เอามาผัดกะเพรา
สรุปว่าหัวหมู 1 หัว ได้มาหลายเมนูเลยค่ะ เกือบๆ 8 เมนู ใช้ให้คุ้มไม่เหลืออะไรเลย กระดูกเอาไปให้น้องหมาจรแทะเล่น
แล้วค่อยไปตามเก็บซากตอนเย็น
แบ่งพะโล้ไปให้เพื่อน ลูกของคุณป้าที่เอาหัวหมูมาให้ คุณป้าไลน์มาบอกว่า ว่าแล้วหนูต้องทำได้ ป้าเอามาให้ถูกคน
ความจริงคือ
เป็นการทำอาหารที่เหมือนได้โจทย์มา แล้วจัดการให้สำเร็จ ตอนแรกก็กลัวๆหัวหมู แต่พอทำๆไปแล้วสนุกดีค่ะ