สวัสดีค่ะ กระทู้นี้หนูขอระบายหน่อยนะคะ
ช่วงนี้กำลังฝึกงานอยู่ที่บริษัทแห่งนึง มีพนักงานแค่ไม่กี่คน อยู่แบบเป็นกันเอง งานในนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำมาก เพราะงานหลักๆคือต้องติดต่อกับลูกค้า แล้วลูกค้าแต่ละคนเป็นของพี่ๆเค้า เรามีหน้าที่ส่งเอกสาร งานเล็กๆน้อยๆ เนื่องจากมันว่างเกินไป เราเลยมานั่งอีกที่ ซึ่งแยกจากเพื่อนอีกคนที่มาฝึกด้วยกัน (เพื่อนนั่งตรงที่พนักงานคนก่อนที่ลาออกไป) ช่วงนี้เราสมัครสอบ กพ. เพราะว่าว่างเกิน เราหาเลยอ่านหนังสือ เปิดคลิปติวในยูทูป แต่ถ้าพี่ๆเค้าเรียกใช้งาน เราพร้อมและว่างเสมอ เพราะเรารู้ว่าหน้าที่หลักคือฝึกงาน แต่จะมีพี่ผช. คนนึง ค่อนไปทางมีอายุ เค้าเป็นคนสอนเนื้อหาที่เราไม่ได้เรียนในชั้นเรียน (ไม่ได้สอนงาน เป็นเกร็ดความรู้ที่อาจารย์ไม่ได้สอน) นานๆทีเค้าจะสอน แรกๆเราจะไปนั่งกับเพื่อนเบียดๆกัน แต่เนื่องด้วยพี่เค้าไม่ได้สอนบ่อย พอเราไปอยู่ตรงนั้นเราทำได้แค่ดูทีวีบนจอ,นั่งเล่นโทรศัพท์,นั่งมองเพื่อนจับโน๊ตบุ๊คของบริษัท (ซึ่งมี 1 เครื่อง ทำให้เราได้แค่นั่งมอง) เวลาพี่เค้าสอนงานหรืออะไร เพื่อนจะใช้บัญชีตัวเอง ทำให้ได้ประโยชน์จากส่วนนี้ ส่วนเราทำได้แค่นั่งมองและฟังที่พี่เค้าสอน แต่ส่วนมากพี่เค้าไม่ได้สอน เรารู้สึกไม่มีประโยชน์ เลยออกมานั่งอีกที่ เพราะตรงนี้มีคอมพิวเตอร์ และพี่ๆคนอื่นสามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเพราะอยู่ใกล้เอกสาร และจะได้ติวได้สะดวกด้วย ไม่ได้นั่งแออัดกับเพื่อน
พี่ผชคนนั้น เริ่มเห็นว่าเราไม่เข้าไปนั่งกับเพื่อน (ก่อนหน้านี้ตอนที่เรานั่งกับเพื่อน เค้าไม่สอนงาน แต่พอเราออกมาทำงานแปปเดียว เค้ากลับสอนงานเพื่อน ทั้งที่เรานั่งอยู่ข้างนอก ในใจเราคิดว่า พวกเรามาด้วยกัน น่าจะสอนด้วยกันสิ แต่ก็แอบคุยกันทั้งที่เราอยู่ข้างนอกหลายครั้ง ทำให้เราไม่เข้าไปนั่งข้างในอีก ตอนนี้เพื่อนเหมือนเป็นลูกรัก) พี่เค้าเดินผ่านตรงที่เรานั่งบ่อยครั้ง และเริ่มแซว ออกแนวแซะว่า “วันนี้มาทำงานด้วยหรอ” พูดแบบนี้บ่อยครั้ง (ทั้งที่เรากับเพื่อนมาพร้อมกัน รถคันเดียวกัน) พอเราติวภาษาอังกฤษ เค้าเดินผ่านมาก็ถามว่า “จะไปนอกหรอ” ส่วนตัวเราคิดว่า คนที่เรียนภาษาอังกฤษ ต้องไปนอกเท่านั้นหรือ และล่าสุดเค้าเดินผ่านมาผ่านไป และพูดว่า “มาฝึกงานนะ” เราแค่อยากบอกว่า เราไม่มีอะไรทำ และเราไม่อยากนั่งอยู่เฉยๆ และพอเราไปนั่งกับเพื่อน พี่เค้าก็ไม่ค่อยสอนงาน อันนี้ไม่มีปัญหา เพราะพี่เค้าก็มีงานของพี่เค้า แต่พอเราเข้าไปไม่สอน พอเราออกมา สอนเพื่อนเราซะงั้น เรารู้สึกแย่ เหมือนเค้ามองคนแค่ภายนอก หลายครั้งที่เค้าชมเพื่อนเรา พอเราทำผลงานได้ดีกว่า งานเสร็จเร็วกว่า เค้าบอกว่าไม่น่าเชื่อ เพราะคิดว่าเพื่อนเราจะทำได้ดีกว่าเรา ตอนนี้เรารู้สึกแย่ และไม่อยากมาฝึกเลย แต่ต้องอดทนเพราะเหลืออีกแค่ 1 เดือน เราผิดมากเลยหรอที่เราพยายามใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ก่อนหน้านี้ช่วงแรกๆที่เราเข้ามาฝึกงาน พี่เค้าเห็นเรานั่งเฉยๆ+เล่นทรส. เค้าเลยบอกว่า ว่างๆก็ไปนั่งหาข้อมูลไว้สิ ดีกว่านั่งเฉยๆ พอตอนนี้เราออกมานั่งตรงนี้ เพื่อติว+หาข้อมูลการสอบ เค้ากลับทำปฏิกิริยาแบบนี้ เราควรรู้สึกยังไงดี พี่ๆคนอื่นๆในที่ทำงานไม่ทำตัวแบบนี้ แต่มีพี่คนนี้คนเดียวค่ะ บางครั้งเราน้ำตาคลอ เพราะคำพูดพวกนี้ เราตั้งใจจะสอบเพื่อครอบครัว เราก็เลยต้องติว เวลาเราไม่ได้มาก ถ้าจะรอฝึกงานจบ หรือหลังเลิกงานคงจะได้เนื้อหานิดเดียว
ขอระบายหน่อยนะคะ เรื่องพี่ที่ทำงาน
ช่วงนี้กำลังฝึกงานอยู่ที่บริษัทแห่งนึง มีพนักงานแค่ไม่กี่คน อยู่แบบเป็นกันเอง งานในนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้ทำมาก เพราะงานหลักๆคือต้องติดต่อกับลูกค้า แล้วลูกค้าแต่ละคนเป็นของพี่ๆเค้า เรามีหน้าที่ส่งเอกสาร งานเล็กๆน้อยๆ เนื่องจากมันว่างเกินไป เราเลยมานั่งอีกที่ ซึ่งแยกจากเพื่อนอีกคนที่มาฝึกด้วยกัน (เพื่อนนั่งตรงที่พนักงานคนก่อนที่ลาออกไป) ช่วงนี้เราสมัครสอบ กพ. เพราะว่าว่างเกิน เราหาเลยอ่านหนังสือ เปิดคลิปติวในยูทูป แต่ถ้าพี่ๆเค้าเรียกใช้งาน เราพร้อมและว่างเสมอ เพราะเรารู้ว่าหน้าที่หลักคือฝึกงาน แต่จะมีพี่ผช. คนนึง ค่อนไปทางมีอายุ เค้าเป็นคนสอนเนื้อหาที่เราไม่ได้เรียนในชั้นเรียน (ไม่ได้สอนงาน เป็นเกร็ดความรู้ที่อาจารย์ไม่ได้สอน) นานๆทีเค้าจะสอน แรกๆเราจะไปนั่งกับเพื่อนเบียดๆกัน แต่เนื่องด้วยพี่เค้าไม่ได้สอนบ่อย พอเราไปอยู่ตรงนั้นเราทำได้แค่ดูทีวีบนจอ,นั่งเล่นโทรศัพท์,นั่งมองเพื่อนจับโน๊ตบุ๊คของบริษัท (ซึ่งมี 1 เครื่อง ทำให้เราได้แค่นั่งมอง) เวลาพี่เค้าสอนงานหรืออะไร เพื่อนจะใช้บัญชีตัวเอง ทำให้ได้ประโยชน์จากส่วนนี้ ส่วนเราทำได้แค่นั่งมองและฟังที่พี่เค้าสอน แต่ส่วนมากพี่เค้าไม่ได้สอน เรารู้สึกไม่มีประโยชน์ เลยออกมานั่งอีกที่ เพราะตรงนี้มีคอมพิวเตอร์ และพี่ๆคนอื่นสามารถเรียกใช้งานได้ตลอดเพราะอยู่ใกล้เอกสาร และจะได้ติวได้สะดวกด้วย ไม่ได้นั่งแออัดกับเพื่อน
พี่ผชคนนั้น เริ่มเห็นว่าเราไม่เข้าไปนั่งกับเพื่อน (ก่อนหน้านี้ตอนที่เรานั่งกับเพื่อน เค้าไม่สอนงาน แต่พอเราออกมาทำงานแปปเดียว เค้ากลับสอนงานเพื่อน ทั้งที่เรานั่งอยู่ข้างนอก ในใจเราคิดว่า พวกเรามาด้วยกัน น่าจะสอนด้วยกันสิ แต่ก็แอบคุยกันทั้งที่เราอยู่ข้างนอกหลายครั้ง ทำให้เราไม่เข้าไปนั่งข้างในอีก ตอนนี้เพื่อนเหมือนเป็นลูกรัก) พี่เค้าเดินผ่านตรงที่เรานั่งบ่อยครั้ง และเริ่มแซว ออกแนวแซะว่า “วันนี้มาทำงานด้วยหรอ” พูดแบบนี้บ่อยครั้ง (ทั้งที่เรากับเพื่อนมาพร้อมกัน รถคันเดียวกัน) พอเราติวภาษาอังกฤษ เค้าเดินผ่านมาก็ถามว่า “จะไปนอกหรอ” ส่วนตัวเราคิดว่า คนที่เรียนภาษาอังกฤษ ต้องไปนอกเท่านั้นหรือ และล่าสุดเค้าเดินผ่านมาผ่านไป และพูดว่า “มาฝึกงานนะ” เราแค่อยากบอกว่า เราไม่มีอะไรทำ และเราไม่อยากนั่งอยู่เฉยๆ และพอเราไปนั่งกับเพื่อน พี่เค้าก็ไม่ค่อยสอนงาน อันนี้ไม่มีปัญหา เพราะพี่เค้าก็มีงานของพี่เค้า แต่พอเราเข้าไปไม่สอน พอเราออกมา สอนเพื่อนเราซะงั้น เรารู้สึกแย่ เหมือนเค้ามองคนแค่ภายนอก หลายครั้งที่เค้าชมเพื่อนเรา พอเราทำผลงานได้ดีกว่า งานเสร็จเร็วกว่า เค้าบอกว่าไม่น่าเชื่อ เพราะคิดว่าเพื่อนเราจะทำได้ดีกว่าเรา ตอนนี้เรารู้สึกแย่ และไม่อยากมาฝึกเลย แต่ต้องอดทนเพราะเหลืออีกแค่ 1 เดือน เราผิดมากเลยหรอที่เราพยายามใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ก่อนหน้านี้ช่วงแรกๆที่เราเข้ามาฝึกงาน พี่เค้าเห็นเรานั่งเฉยๆ+เล่นทรส. เค้าเลยบอกว่า ว่างๆก็ไปนั่งหาข้อมูลไว้สิ ดีกว่านั่งเฉยๆ พอตอนนี้เราออกมานั่งตรงนี้ เพื่อติว+หาข้อมูลการสอบ เค้ากลับทำปฏิกิริยาแบบนี้ เราควรรู้สึกยังไงดี พี่ๆคนอื่นๆในที่ทำงานไม่ทำตัวแบบนี้ แต่มีพี่คนนี้คนเดียวค่ะ บางครั้งเราน้ำตาคลอ เพราะคำพูดพวกนี้ เราตั้งใจจะสอบเพื่อครอบครัว เราก็เลยต้องติว เวลาเราไม่ได้มาก ถ้าจะรอฝึกงานจบ หรือหลังเลิกงานคงจะได้เนื้อหานิดเดียว