มาเล่าเส้นทางการทำธุรกิจ อิสรภาพทางการเงินและเวลา ที่หลายคนอยากมีให้ฟังค่ะ

เราเชื่อว่าหลายๆคน มีความฝันว่าชีวิตจะไม่ต้องทำงานหนักไปจนเกษียณ หรืออยากเกษียณเร็ว สัก 30 หรือ 40 ปี
มีเงินลงทุนแบบไม่ต้องทำงานหนัก มี passive income แบบที่หลายคนตามหา มีเวลาว่างสามารถทำงานตอนไหน
หรือจากที่ไหนก็ได้ คุณเข้าใจถูกแล้ว เราคือ mlm เอ้ย! ไม่ใช่ล่ะ เราจะเล่าประสบการณ์ที่ทำให้เรามีวันนี้ให้ฟังค่ะ

ก่อนอื่น เราต้องแจ้งก่อน เรายังไม่ได้ประสบความสำเร็จ 100% แค่เดินมาถึงครึ่งทางในวัยย่างสู่ 45 ยังไม่รวยมาก
แค่พอมีกินใช้ บางอย่างก็ยังประหยัดอยู่ เพียงแต่อยากได้อะไรก็ซื้อได้ อยากไปเที่ยวก็ขอสบายหน่อย พอจ่ายไหว
มีเวลาว่างที่เราจัดสรรเองว่าจะทำงานตอนไหน ว่างตอนไหน คือทำงานแล้วแต่อารมณ์และสุขภาพ ไม่ไหวก็พักผ่อน
มีเงินสำรองในระดับหนึ่ง มีทรัพย์สินไว้หมุนเวียนขายหลายแห่ง ส่วนกิจการเราทำบ้างปิดบ้าง เกิดจากวิกฤติโควิด
แต่ก่อนเราเปิดตลอด พอมีโควิดเราเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน เราเปิดเฉพาะกิจเพราะเคยกลับมาเปิดมันเงียบมาก

เรานั่งคิดแล้วมันไม่คุ้มกับค่าจ้างค่าใช้จ่าย เหนื่อยด้วย ตอนนี้เราเลยว่างมากกว่าทำงาน เราจัดรูปแบบการใช้ชีวิต
อ้าวแล้วหาเงินใช้จากไหน นอกจากกิจการซึ่งก็มีรายรับเรื่อยๆ แค่หลักแสนไม่เกินห้าแสนต่อปี ที่เหลือเราขายอสังหา
กับเทรดหุ้น หุ้นจะขึ้นจะลงเราก็หากำไรจนได้ พอมีเงินกินข้าว ส่วนพวกดอกเบี้ยไม่เคยถอนมาใช้ พยายามหาเงินเพิ่ม
หาได้น้อยก็ใช้น้อย ได้มากก็จะฟุ่มเฟือยหน่อย ชีวิตหลังจากนี้คือหาเงินเพื่อซื้อของที่เราอยากได้เพิ่มเพราะปัจจัยหลัก
เรามีครบหมดแล้ว งานก็ทำเท่าที่อยากทำ งานฟรีถ้าเราพอใจก็ทำ ไม่เครียดอะไรแล้ว เราหาตามที่มีกำลังทำไหวพอ

กว่าจะถึงวันนี้ เราทำอะไรมาบ้าง เรียกว่าเราอยากลองทำงานทุกอย่างที่ทำได้ แม้จะแทบไม่ได้เงิน เราก็อยากลองทำ
บางงานก็ไปเรียนรู้เฉยๆ ไปช่วยเค้า มันก็ได้ประสบการณ์ดีนะ เช่นสมัยก่อนเค้าฮิตเปิดร้านเช่าการ์ตูน ถ่ายตู้สติ๊กเกอร์
รุ่นพี่เราเปิดร้านเฟอร์นิเจอร์ที่มาบุญครอง เราก็ไปช่วยขาย เอาของไปขายด้วยนิดหน่อย พอมีงานเปิดท้ายก็จองที่ขาย
เราซื้อของมาขายเรื่อยๆ มันสนุกดี ไปขายเปิดท้ายหลายห้างเลย เงินพอได้ไม่มากแต่ได้เรียนรู้ตลาดกับลูกค้ามากกว่า

เราคิดว่ามาศึกษาดูก่อนจะเปิดร้านของตัวเองว่าจะทำกำไรอย่างไร มีปัญหาหรืออุปสรรคอะไรบ้าง ศึกษาข้อดีข้อเสียต่างๆ
รวมถึงการทำตลาด เราก็ได้ความรู้มาจากงานพวกนี้ จนได้เปิดร้านของตัวเองแต่ทำเลไม่ดีเกือบเจ๊งล่ะ ไม่ได้ศึกษาก่อนเอง
ตอนหลังเราเปิดสอนพิเศษกับเปิดสำนักงานทนายเลยมีรายได้พอสมควร แต่เจ้าของที่เค้าจะเอาร้านคืนเราเลยไม่ได้ทำต่อ
แต่ได้ประสบการณ์และแนวคิดแล้วเราเลยเอากิจการทุกอย่างกลับไปทำที่บ้านไม่เสียค่าเช่า ทั้งงานสอนพิเศษทั้งขายของ
เป็นกิจการครอบครัวที่รุ่งเรืองพอสมควร ก็ไม่เสียแรงที่ตอนเด็กขยันเรียน โดยเฉพาะวิชาเลข ไม่คิดว่าโตขึ้นจะเอามาหากิน
คำนวณแล้วน่าจะหลายล้านอยู่ เราเริ่มสอนพิเศษเลขตั้งแต่เรียนปี 1 สอนจนเกือบ 40 ถึงหยุดไปทำธุรกิจ เงินค่าสอนถือเป็น
ส่วนหนึ่งของการลงทุนที่อยู่ได้ทุกวันนี้ ที่ไม่ทำต่อต่อเพราะงานค่อนข้างหนักไม่ได้พักสอนวันละ 7-8 ชั่วโมง มีสิทธิป่วยได้

ส่วนหุ้น เราเริ่มเข้าตลาดหลักทรัพย์ตอนอายุ 15 ตามพ่อไปนั่งดูศึกษาการเล่น คนอื่นในบ้านจะไม่ค่อยสนใจ มันก็น่าเบื่ออยู่
กระดานมีแต่ตัวเลข แต่เราสนุกอาจเพราะชอบตัวเลข ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีความรู้ มีเพื่อนพ่อเราคอยสอน แค่พอเข้าใจบ้าง
แต่เรามาศึกษาจริงจังหลังปี 40 ตอนตลาดเปิดอีกรอบ เราสนิทกับรุ่นน้องที่เรียนเศรษฐศาสตร์จบมาน้องเค้าเป็นโบรกเกอร์
เลยไปเปิดพอร์ตด้วย เราเล่นแค่ไม่กี่หมื่น มาดูข้อมูลหุ้นใน pantip ห้องสินธรนี่ล่ะ 55 ได้หุ้น Banpu ไป มีทั้งกำไรและขาดทุน
กำไรหลักร้อยหลักพันไม่มากหรอก ที่ได้เต็มๆคือความรู้ มานั่งฟังคนอื่นวิเคราะห์ให้ฟังมีแต่รุ่นอากงอาม่า เราน่าจะเด็กสุดล่ะ

ตอนนั้นยังไม่คิดว่าจะรวยกับหุ้นนะเพราะเราใจร้อน เลยเล่นไม่เยอะแต่ก็จะเก็บประสบการณ์มาเรื่อยๆ จากหลักหมื่นเป็นแสน
และตอนนี้หลักล้านนิดๆ ถามว่ากำไรเยอะมั้ย เราได้ไม่เยอะ มากสุดน่าจะสี่หมื่นแต่จะได้กำไรเรื่อยๆ เราขยันซื้อขาย ถ้ารวมๆ
แล้วก็น่าจะเกินล้าน ที่เหลืออยู่ในพอร์ตก็คือกำไรนั้นแหละ เรายังไม่กล้าเล่นเยอะหลายล้าน คงต้องสะสมประสบการณ์อีกมาก

ส่วนที่ดิน ทำไมถึงมาซื้อขายได้ เราสนใจการซื้อขายที่ดินมาตั้งแต่เด็ก จากคนรอบตัวที่มีฐานะขึ้นมาล้วนมาจากซื้อขายที่ดิน
เราชอบที่ติดทะเลมากพยายามเชียร์ให้พ่อซื้อ สมัยก่อนยังไม่แพงมาก แต่เค้าบอกเป็นที่ไม่ดีคนไม่นิยมปลูกบ้าน สมัยก่อนยัง
ไม่นิยมสร้างรีสอร์ตกัน เพราะคลื่นและการกัดเซาะทำให้บ้านพังเร็ว แต่เราก็ยังสนใจอยู่ดีจนเราได้ที่ใกล้ทะเลแปลงเล็กๆ และ
เราซื้อคอนโดใกล้ทะเลไป 3 ที่ ตอนนี้ขายออกไปครึ่งหนึ่งได้กำไรดีเลย พ่อเราก็เลยหันมาเล่นที่ เราเชียร์อะไรเค้าก็ซื้อตามนะ
เราไปดูไปเคาะที่ดินจากกรมบังคับคดีเป็น 10 ปี ที่กรุงเทพเราก็เคยไปนะ จะซื้อคอนโดแต่ราคามันสูงไปดูแล้วไม่คุ้มที่จะลงทุน

ส่วนงานอื่นๆที่เราแพลนว่าจะทำ แต่ก่อนอยากทำนู้นนี่เต็มไปหมดล่ะ ถ้าทำก็คงสูญเงินอีกเยอะ แต่โชคดีที่เรารับงานวิจัยตลาด
ทั้งทำข้อสอบ รายงาน Thesis(อันนี้รับแก้นะไม่ทำทั้งเล่ม) ที่รับทำมีทั้งเอกชนราชการจ้าง เราเลยได้ศึกษาธุรกิจแทบจะทุกอย่าง
เลยพอรู้ว่าอันไหนควรลงทุนบ้าง รูปแบบการลงทุนควรเป็นอย่างไร การตลาดหาลูกค้าอย่างไร พอรู้แล้วโอกาสจะพลาดก็น้อยลง
และก็มีผลกับการเล่นหุ้นเราด้วย มีหลายบริษัทเลยที่เราค้นข้อมูล วิเคราะห์ทิศทางตลาดการเติบโต นอกจากได้เงินยังได้ความรู้
งานวิจัยสำหรับเราน่าจะสนุกที่สุด ยิ่งงานเก็บแบบสอบถาม สนุกตั้งแต่ออกแบบสอบถามแล้ว ที่ไปรับจ้างเค้าก็เพื่อหาความรู้นี่ล่ะ

สรุปเลยล่ะกัน เริ่มยาวแล้ว เดี๋ยวเบื่อกันก่อน เราจะบอกว่างานอะไรที่เรียนรู้ได้นอกจากในห้องเรียน นอกจากสาขาที่เรียนจบมา
ถ้าเราเปิดใจและใช้โอกาสเรียนรู้มัน วันหนึ่งก็อาจสร้างรายได้ให้เราได้อีกทาง จริงๆยังมีอีกหลายงานที่เราได้ทำ คงเล่าไม่หมด
เห็นยุคนี้คนบ่นว่าตกงาน มีรายได้น้อยไม่พอใช้ ทั้งที่คนเรามีความสามารถหลายอย่างนะ ลองดึงศักยภาพตัวเอง ลองหัดทำงาน
อื่นๆดู อาจมีรายได้เข้ามาหลายทางและทำให้ชีวิตดีขึ้น ทุกวันนี้ตัวเราก็ยังเรียนรู้ไปเรื่อยๆ มีเวลาก็ศึกษาไป วันข้างหน้าสิ่งที่เรา
เคยทำมันอาจส่งผลดีกับชีวิตเราก็ได้ เราหวังว่ากระทู้เราจะมีประโยชน์กับคนรุ่นหลัง คนที่มีปัญหาการเงิน หรือหางานไม่ได้นะคะ

โชคดีค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่