เราเป็นเด็กนร.คนนึงค่ะที่ตั้งเเต่ม.4ไม่ว่าจะมีกิจกรรมอะไรเราจะเข้าร่วมทุกอย่างไปรร.ทุกวันไม่เคยคิดที่อยากจะขาด/ลาร่าเริงสดใสอยู่กับเพื่อนเเล้วมีความสุขเเต่พอเราขึ้นม.6เทอม1เรารู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปช่วงม.6เราอยากลาบ่อยอาทิตย์นึงมี7วันต้องมีสัก1วันที่ลาเราไม่รู้ว่าตัวเองขี้เกียจหรือหมดไฟกันเเน่อาการมันจะประมาณว่า เราไม่อยากทำอะไรเลยค่ะการที่เราจะลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างมันยากมากๆเเม้เเต่ในสิ่งที่ตัวเองชอบเเละอยากทำมากๆก็รู้สึกไม่อยากทำเเล้วตอนไปโรงเรียนเราก็ไม่ค่อยได้คุยกับเพื่อนทั้งที่เราก็ไม่ได้มีปัญหาอะรกับเพื่อนนะคะทุกอย่างปกติเเต่เราไม่รู้จะเข้าหาเพื่อนยังไงหรือบางทีก็รู้สึกอยากอยู่คนเดียวดีกว่า(เเต่สต.เรามีปัญหากับครอบครัวไม่รู้ว่ามันเกี่ยวมั้ยเราเคยคิดฆตต.ตัวเองหลายครั้งเเต่ก็ทำได้เเค่คิดค่ะไม่เคยทำร้ายตัวเองนะคะรู้สึกว่าถ้าอยากจะไปจริงๆเราจะไปเลยค่ะเอาเเบบให้เจ็บน้อยที่สุด)ทุกอย่างมันเริ่มเปลี่ยนไปเราเรียนไม่รู้เรื่องไม่มีสมาธิคนรอบข้างชอบทักว่าเราดูเหม่อตลอดเราหลุดโฟกัสกับหลายๆอย่างเเล้วช่วงม.6เทอม1เราก็ป่วยพอดีค่ะเราติดโควิดรักษาตัวอยู่ประมาณ1อาทิตย์พอโควิดหายเราก็ป่วยเป็นเเผลในกระจกตาติดกันเรารักษาเเผลในตาเเละโควิดรวมกันอยู่ประมาณ1เดือนเพราะเเผลในกระจกตาทำให้เราใช้ชีวิตลำบากมองไม่เห็นเลยค่ะมันเลยทำให้เราไม่ได้ไปเรียนอยู่ประมาณ1เดือนเเล้วทุกอย่างที่เราเป็นมาก่อนที่จะป่วยมันก็เป็นหนักขึ้นเรื่อยๆตอนนี้เราขึ้นเทอม2เเล้วเราคิดว่ามันจะหายเเต่มันยิ่งเป็นหนักกว่าเดิมอาทิตย์นึงเราไปเรียนเเค่1-3วันบางอาทิตย์ไปเเค่1วันเรารู้สึกว่ามันยากมากๆในการที่เราจะไปเรียนเราไม่มีเเรงบันดาลใจทุกอย่างมันดูเเย่ไปหมดเลยค่ะไม่ว่าเราจะทำอะไรมันก็ดูไม่ดีไปหมดรู้สึกเหมือนเป็นคนโชคร้ายอยู่ตลอดเวลาจริงๆก็อยากจะปรึกษาคนรอบตัวนะคะ เเต่ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่ค่อนข้างจะมีปัญาหาทะเลาะกันทุกวันใช้คำรุนเเรงเช่นไล่ไปตาย
ไม่น่าเกิดมา เลี้ยงหมายังดีกว่าเลี้ยง เเละใช้ความรุนเเรงตลอดถึงขนาดที่ว่าอะไรอยู่ใกล้มือก็ขว้างใส่หมดเเม้ว่าสิ่งนั้นมันจะเป็นมีดหรืออะไรก็ตามที่ทำให้เราเจ็บได้ทะเลาะทุกวันเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันเรียกได้ว่าทุกวันจริงๆค่ะเราไม่รู้ว่ามันอาจจะเกี่ยวกับครอบครัวด้วยรึป่าว ถ้าจะปรึกษาครูเราก็ไม่ไว้ใจเพราะพอเราไปปรึกษาเราไม่รู้ว่าเขาเอาไปเล่าให้ใครฟังบ้างการที่เราปรึกษาหรือระบายให้เขาฟังคือเราเลือกเเล้วอะค่ะว่าเราไว้ใจเขาเราเลือกที่เล่าให้เขาฟังคนเดียวเพราะเขาเป็นคนที่ให้คำปรึกษาที่ดีที่สุด ต่อให้เขาจะบอกว่าต้องเอาไปเล่าเพื่อปรึกษาหารือหรือหาทางออกถามว่ามันหาทางออกได้มั้ยก็ไม่หรอกค่ะ ปรึกษาเพื่อนอันนี้ก็ไม่ไว้ใจเหมือนกันค่ะเรามีเพื่อนสนิทเเต่พอช่วงขึ้นม.ปลายก็จะเริ่มมีเพ่อนเยอะขึ้นเเล้วมันรู้สึกได้ว่าเขาไม่ใช่คนเดิมที่เรารู้จักเเล้วบางเรื่องที่เราเลือกที่จะพูดกับเขาเเค่คนเดียวเขาก็ยังเก็บมันไว้ไม่อยู่เราเลยไม่ไว้ใจ นั่นเเหละค่ะเราเลยไม่รู้จะทำไงต่อต้องไปไหนต้องทำอะไรต้องปรึกษาใครถ้าจะไปหาหมอจิตเราก็ไม่รู้ว่ามันจะต้องใช้เงินเท่าไหร่เเล้วมันก็เป็นช่วงที่จะเข้ามหาลัยเรากลัวว่าถ้าเราไปหาหมอจิตเเล้วมันเป็นซึมเศร้าขึ้นมาจริงๆเราจะมีประวัติมั้ย ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ🙏😞
หมดไฟหรือขี้เกียจกันเเน่?