เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะ” ไอเดียดีจากนักเรียนมัธยม ทำใช้เองได้ไม่ยาก
ปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ประเทศไทยเองก็ประสบปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในระดับที่รุนแรงอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและเจ็บป่วยจากโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น
จากปัญหาดังกล่าว นางสาวจิดาภา ลิ้มวัฒนา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนปริ้นส์รอแยล เชียงใหม่ ได้คิดค้นนวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะที่ใช้ผลิตหมอกเทียมขึ้นมา โดยเครื่องฟอกอากาศดังกล่าวมีชื่อว่า "หมอกฟอกอากาศ"
นางสาวจิดาภา กล่าวว่า "ฉันเริ่มสนใจปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ตั้งแต่ปี 2565 ตอนนั้นฉันอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และเริ่มสังเกตเห็นว่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในประเทศไทยเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ฉันจึงเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับฝุ่นละออง PM 2.5 และแนวทางในการแก้ปัญหา"
"ฉันพบว่ามีเครื่องฟอกอากาศหลายประเภท แต่ส่วนใหญ่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ไม่ดีนัก ฉันจึงเกิดไอเดียที่จะคิดค้นเครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองฝุ่นละออง PM 2.5 ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น"
นางสาวจิดาภา ใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการพัฒนาเครื่องฟอกอากาศหมอกฟอกอากาศ โดยทดลองหลายครั้งจนได้รูปแบบและประสิทธิภาพที่เหมาะสมที่สุด
เครื่องฟอกอากาศหมอกฟอกอากาศมีหลักการทำงานดังนี้
1. อากาศจากภายนอกจะถูกดูดเข้ามาภายในเครื่องฟอกอากาศผ่านปากกระบอกด้านใหญ่
2. อากาศจะถูกกรองด้วยแผ่นกรองชั้นแรกเพื่อดักจับฝุ่นละอองขนาดใหญ่และสารปนเปื้อนต่างๆ
3. อากาศบริสุทธิ์จะถูกพ่นหมอกเทียมเข้าไป
4. หมอกเทียมจะแทรกตัวเข้าไปภายในฝุ่นละอองขนาดเล็กและสารปนเปื้อนต่างๆ
5. ฝุ่นละอองและสารปนเปื้อนต่างๆ จะแตกตัวและตกลงสู่พื้น
6. อากาศบริสุทธิ์จะถูกปล่อยออกมาทางปากปล่องขนาดเล็ก
เครื่องฟอกอากาศหมอกฟอกอากาศมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละออง PM 2.5 ได้สูงถึง 90% โดยอาศัยหลักการของปฏิกิริยาระหว่างฝุ่นละอองกับหมอกเทียม หมอกเทียมที่มีขนาดเล็กกว่าฝุ่นละอองจะสามารถแทรกตัวเข้าไปภายในฝุ่นละอองได้ เมื่อหมอกเทียมแทรกตัวเข้าไปภายในฝุ่นละอองแล้ว จะเกิดแรงดันภายในฝุ่นละออง ทำให้ฝุ่นละอองแตกตัวออกและตกลงสู่พื้น
นอกจากนี้ เครื่องฟอกอากาศหมอกฟอกอากาศยังมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดค่าฝุ่น เพื่อตรวจจับคุณภาพอากาศภายในห้อง และปรับระดับการผลิตหมอกให้เหมาะสมกับคุณภาพอากาศในขณะนั้น ซึ่งจะช่วยให้เครื่องฟอกอากาศสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เครื่องฟอกอากาศหมอกฟอกอากาศเป็นนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้จริง โดยมีต้นทุนในการผลิตไม่สูงมาก และสามารถหาอะไหล่ในการซ่อมบำรุงได้ง่าย จึงเป็นทางเลือกใหม่ในการแก้ปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
นวัตกรรมของนางสาวจิดาภาในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนไทยในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศ หวังว่านวัตกรรมนี้จะสามารถนำไปผลิตและใช้งานจริง เพื่อช่วยให้คนไทยมีอากาศที่สะอาดและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ที่มา : mgronline.com
ขอบคุณภาพ mgronline.com
เครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะที่ใช้ผลิตหมอกเทียม : นวัตกรรมจากฝีมือเด็กมัธยม มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละออง PM 2.5
ปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ประเทศไทยเองก็ประสบปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในระดับที่รุนแรงอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและเจ็บป่วยจากโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น
จากปัญหาดังกล่าว นางสาวจิดาภา ลิ้มวัฒนา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนปริ้นส์รอแยล เชียงใหม่ ได้คิดค้นนวัตกรรมเครื่องฟอกอากาศอัจฉริยะที่ใช้ผลิตหมอกเทียมขึ้นมา โดยเครื่องฟอกอากาศดังกล่าวมีชื่อว่า "หมอกฟอกอากาศ"
นางสาวจิดาภา กล่าวว่า "ฉันเริ่มสนใจปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ตั้งแต่ปี 2565 ตอนนั้นฉันอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และเริ่มสังเกตเห็นว่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในประเทศไทยเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ฉันจึงเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับฝุ่นละออง PM 2.5 และแนวทางในการแก้ปัญหา"
"ฉันพบว่ามีเครื่องฟอกอากาศหลายประเภท แต่ส่วนใหญ่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละออง PM 2.5 ได้ไม่ดีนัก ฉันจึงเกิดไอเดียที่จะคิดค้นเครื่องฟอกอากาศที่สามารถกรองฝุ่นละออง PM 2.5 ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น"
นางสาวจิดาภา ใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการพัฒนาเครื่องฟอกอากาศหมอกฟอกอากาศ โดยทดลองหลายครั้งจนได้รูปแบบและประสิทธิภาพที่เหมาะสมที่สุด
เครื่องฟอกอากาศหมอกฟอกอากาศมีหลักการทำงานดังนี้
1. อากาศจากภายนอกจะถูกดูดเข้ามาภายในเครื่องฟอกอากาศผ่านปากกระบอกด้านใหญ่
2. อากาศจะถูกกรองด้วยแผ่นกรองชั้นแรกเพื่อดักจับฝุ่นละอองขนาดใหญ่และสารปนเปื้อนต่างๆ
3. อากาศบริสุทธิ์จะถูกพ่นหมอกเทียมเข้าไป
4. หมอกเทียมจะแทรกตัวเข้าไปภายในฝุ่นละอองขนาดเล็กและสารปนเปื้อนต่างๆ
5. ฝุ่นละอองและสารปนเปื้อนต่างๆ จะแตกตัวและตกลงสู่พื้น
6. อากาศบริสุทธิ์จะถูกปล่อยออกมาทางปากปล่องขนาดเล็ก
เครื่องฟอกอากาศหมอกฟอกอากาศมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นละออง PM 2.5 ได้สูงถึง 90% โดยอาศัยหลักการของปฏิกิริยาระหว่างฝุ่นละอองกับหมอกเทียม หมอกเทียมที่มีขนาดเล็กกว่าฝุ่นละอองจะสามารถแทรกตัวเข้าไปภายในฝุ่นละอองได้ เมื่อหมอกเทียมแทรกตัวเข้าไปภายในฝุ่นละอองแล้ว จะเกิดแรงดันภายในฝุ่นละออง ทำให้ฝุ่นละอองแตกตัวออกและตกลงสู่พื้น
นอกจากนี้ เครื่องฟอกอากาศหมอกฟอกอากาศยังมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดค่าฝุ่น เพื่อตรวจจับคุณภาพอากาศภายในห้อง และปรับระดับการผลิตหมอกให้เหมาะสมกับคุณภาพอากาศในขณะนั้น ซึ่งจะช่วยให้เครื่องฟอกอากาศสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
เครื่องฟอกอากาศหมอกฟอกอากาศเป็นนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้จริง โดยมีต้นทุนในการผลิตไม่สูงมาก และสามารถหาอะไหล่ในการซ่อมบำรุงได้ง่าย จึงเป็นทางเลือกใหม่ในการแก้ปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ
นวัตกรรมของนางสาวจิดาภาในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนไทยในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศ หวังว่านวัตกรรมนี้จะสามารถนำไปผลิตและใช้งานจริง เพื่อช่วยให้คนไทยมีอากาศที่สะอาดและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ที่มา : mgronline.com
ขอบคุณภาพ mgronline.com