ปัญหาภายในครอบครัว เรื่องชู้สาว มือที่สาม 13/01/2567
เราจึงอยากได้ความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ว่าเราและคนในครอบครัวควรบอกความจริงน้าสาวตัวเองดีกว่าไหม
1.บอก เพราะอะไร
2.ไม่บอก เพราะอะไร
เรื่องมีอยู่ว่ายายเรามีลูกสาว 6 คน แม่ของเราเป็นลูกสาวคนโต มีน้าสาว 5 คน น้าสาวคนที่ 1 อายุประมาณ 56 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ เป็นเจ้าของกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีชื่อเสียงดังเป็นอันดับต้นของตัวเมืองลพ และมีสามีอายุประมาณ 57 ปี เป็นข้าราชการทหารที่มีชื่อเสียงยศสูงตำแหน่งใหญ่โตอยู่ค่ายทหารตัวเมืองลพเหมือนกัน ไม่มีลูก ฝั่งสามีน้าสาวคนที่ 1 นอกกายนอกใจน้าสาว มีสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นซึ่งมีลูกติด กลางดึกคืนหนึ่งมีเบอร์แปลกโทรมาเบอร์สามี น้าสาวรับสายโทรศัพท์มือถือสามีมีเสียงผู้หญิงพูด พอน้าสาวตอบกลับ ก็ถูกตัดสายทิ้ง พอโทรกลับก็ไม่รับสาย น้าสาวจึงคิดว่าน่าจะโทรมาผิด ส่วนอีกเหตุการณ์หนึ่งญาติลูกพี่ลูกน้องของเราไปประชุมที่โรงแรมภายในตัวเมืองลพ ได้ไปเจอรถยนต์ของสามีน้าสาวคนที่ 1 จอดภายในโรงแรม แต่ในรถไม่มีใครอยู่ ซึ่งลูกพี่ลูกน้องไม่ได้เอ๊ะใจอะไรแล้วเพิ่งมาเล่าให้เราฟังทีหลัง ไม่ได้เล่าให้เราฟังภายในวันนั้นเลย พอเราทราบเรื่องจึงโทรไปถามความจริงกับสามีของน้าคนที่ 1 ซึ่งเขาก็ไม่ยอมรับความจริง บอกว่าวันนั้นมีลูกน้องที่ทำงานขอยืมรถไปใช้ เราก็เลยเตือนครั้งที่ 1 ถ้าทำจริงก็ขอให้เขาเลิกนิสัยแบบนี้ซะ แล้วจะไม่บอกน้าสาว เราขอแค่ไม่ทำแบบนี้อีก พอเวลาผ่านไปหลายเดือน มีข่าวมีการพูดคุยกันในครอบครัวของสามีของน้าสาวคนที่ 2 กับสามีของน้าสาวคนที่ 3 ซึ่งทั้งคู่เป็นทหารชั้นผู้น้อย แล้วเรื่องมาถึงหูเราว่าสามีของน้าสาวคนที่ 1 ชอบใช้งานลูกน้องให้คอยทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ชุดนักเรียนที่บ้านพักในค่าย และมีข่าวว่าซื้อบ้านให้ผู้หญิง แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่พูดปากเปล่า ไม่มีหลักฐาน เราจึงทำอะไรไม่ได้ และช่วงหลังๆ วันเสาร์อาทิตย์จะไม่ค่อยอยู่บ้านเลย มีข้ออ้างไปข้างนอกตลอด และพักหลังเรารู้สึกแปลกใจว่าทำไมสามีของน้าสาวคนที่ 1 มีนิสัยติดโทรศัพท์มากจนผิดปกติ และไม่ยอมให้ใครยุ่งกับโทรศัพท์มือถือของเขาเลย แต่วันหนึ่งแฟนเราแอบเห็นว่าเขาเปิดแอพกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นห้องนอนบ้านของใครก็ไม่รู้ แล้วมาเล่าให้เราฟัง และล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ลูกพี่ลูกน้องอีกครอบครัวหนึ่งของเราเดินผ่านด้านหลังตอนเขานั่งเล่นโทรศัพท์เห็นเขาเปิดแอพกล้องวงจรปิดดูย้อนหลังเป็นภาพผู้หญิงกำลังใส่เสื้อผ้าอยู่กับเขา ซึ่งลูกพี่ลูกน้องไม่ได้เล่าให้เราฟังภายในวันนั้นเลย ผ่านไปหลายวันแล้วค่อยมาเล่าให้เราฟัง
เราจึงไปปรึกษาน้าสาวคนที่ 2 กับน้าสาวคนที่ 3 ว่าจะทำยังไงดี เราไม่มีหลักฐาน ไม่กล้าบอก กลัวบอกน้าคนที่ 1 ไปแล้วไม่เชื่อ และกลัวจะมีปัญหาตามมาทีหลัง ทั้งเรื่องสุขภาพของน้าสาว และกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อทุกคนในครอบครัว เนื่องจากสามีของน้าสาวคนที่ 1 เป็นข้าราชการทหารที่มีชื่อเสียงยศสูงตำแหน่งใหญ่โต
ส่วนอีกใจหนึ่งกลัวว่าถ้าน้าสาวมารู้ความจริงทีหลังว่าคนในครอบครัวที่มาจากสายเลือดเดียวกันรู้เรื่อง แต่รวมหัวกันปิดบังไม่บอกความจริง ปล่อยให้เป็นคนโง่ จะเจ็บปวดใจยิ่งกว่าสามีมีผู้หญิงอื่นหรือไม่
ปัญหาภายในครอบครัว เรื่องชู้สาว มือที่สาม
เราจึงอยากได้ความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ว่าเราและคนในครอบครัวควรบอกความจริงน้าสาวตัวเองดีกว่าไหม
1.บอก เพราะอะไร
2.ไม่บอก เพราะอะไร
เรื่องมีอยู่ว่ายายเรามีลูกสาว 6 คน แม่ของเราเป็นลูกสาวคนโต มีน้าสาว 5 คน น้าสาวคนที่ 1 อายุประมาณ 56 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ เป็นเจ้าของกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีชื่อเสียงดังเป็นอันดับต้นของตัวเมืองลพ และมีสามีอายุประมาณ 57 ปี เป็นข้าราชการทหารที่มีชื่อเสียงยศสูงตำแหน่งใหญ่โตอยู่ค่ายทหารตัวเมืองลพเหมือนกัน ไม่มีลูก ฝั่งสามีน้าสาวคนที่ 1 นอกกายนอกใจน้าสาว มีสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นซึ่งมีลูกติด กลางดึกคืนหนึ่งมีเบอร์แปลกโทรมาเบอร์สามี น้าสาวรับสายโทรศัพท์มือถือสามีมีเสียงผู้หญิงพูด พอน้าสาวตอบกลับ ก็ถูกตัดสายทิ้ง พอโทรกลับก็ไม่รับสาย น้าสาวจึงคิดว่าน่าจะโทรมาผิด ส่วนอีกเหตุการณ์หนึ่งญาติลูกพี่ลูกน้องของเราไปประชุมที่โรงแรมภายในตัวเมืองลพ ได้ไปเจอรถยนต์ของสามีน้าสาวคนที่ 1 จอดภายในโรงแรม แต่ในรถไม่มีใครอยู่ ซึ่งลูกพี่ลูกน้องไม่ได้เอ๊ะใจอะไรแล้วเพิ่งมาเล่าให้เราฟังทีหลัง ไม่ได้เล่าให้เราฟังภายในวันนั้นเลย พอเราทราบเรื่องจึงโทรไปถามความจริงกับสามีของน้าคนที่ 1 ซึ่งเขาก็ไม่ยอมรับความจริง บอกว่าวันนั้นมีลูกน้องที่ทำงานขอยืมรถไปใช้ เราก็เลยเตือนครั้งที่ 1 ถ้าทำจริงก็ขอให้เขาเลิกนิสัยแบบนี้ซะ แล้วจะไม่บอกน้าสาว เราขอแค่ไม่ทำแบบนี้อีก พอเวลาผ่านไปหลายเดือน มีข่าวมีการพูดคุยกันในครอบครัวของสามีของน้าสาวคนที่ 2 กับสามีของน้าสาวคนที่ 3 ซึ่งทั้งคู่เป็นทหารชั้นผู้น้อย แล้วเรื่องมาถึงหูเราว่าสามีของน้าสาวคนที่ 1 ชอบใช้งานลูกน้องให้คอยทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ชุดนักเรียนที่บ้านพักในค่าย และมีข่าวว่าซื้อบ้านให้ผู้หญิง แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่พูดปากเปล่า ไม่มีหลักฐาน เราจึงทำอะไรไม่ได้ และช่วงหลังๆ วันเสาร์อาทิตย์จะไม่ค่อยอยู่บ้านเลย มีข้ออ้างไปข้างนอกตลอด และพักหลังเรารู้สึกแปลกใจว่าทำไมสามีของน้าสาวคนที่ 1 มีนิสัยติดโทรศัพท์มากจนผิดปกติ และไม่ยอมให้ใครยุ่งกับโทรศัพท์มือถือของเขาเลย แต่วันหนึ่งแฟนเราแอบเห็นว่าเขาเปิดแอพกล้องวงจรปิดซึ่งเป็นห้องนอนบ้านของใครก็ไม่รู้ แล้วมาเล่าให้เราฟัง และล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ลูกพี่ลูกน้องอีกครอบครัวหนึ่งของเราเดินผ่านด้านหลังตอนเขานั่งเล่นโทรศัพท์เห็นเขาเปิดแอพกล้องวงจรปิดดูย้อนหลังเป็นภาพผู้หญิงกำลังใส่เสื้อผ้าอยู่กับเขา ซึ่งลูกพี่ลูกน้องไม่ได้เล่าให้เราฟังภายในวันนั้นเลย ผ่านไปหลายวันแล้วค่อยมาเล่าให้เราฟัง
เราจึงไปปรึกษาน้าสาวคนที่ 2 กับน้าสาวคนที่ 3 ว่าจะทำยังไงดี เราไม่มีหลักฐาน ไม่กล้าบอก กลัวบอกน้าคนที่ 1 ไปแล้วไม่เชื่อ และกลัวจะมีปัญหาตามมาทีหลัง ทั้งเรื่องสุขภาพของน้าสาว และกลัวว่าจะเป็นอันตรายต่อทุกคนในครอบครัว เนื่องจากสามีของน้าสาวคนที่ 1 เป็นข้าราชการทหารที่มีชื่อเสียงยศสูงตำแหน่งใหญ่โต
ส่วนอีกใจหนึ่งกลัวว่าถ้าน้าสาวมารู้ความจริงทีหลังว่าคนในครอบครัวที่มาจากสายเลือดเดียวกันรู้เรื่อง แต่รวมหัวกันปิดบังไม่บอกความจริง ปล่อยให้เป็นคนโง่ จะเจ็บปวดใจยิ่งกว่าสามีมีผู้หญิงอื่นหรือไม่